เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 177

เซียวอวี้ควบคุมขุนนางใหญ่กลุ่มนั้นได้ก็จริง แต่กลับไม่สามารถใช้อำนาจของฮ่องเต้มาข่มผู้อาวุโสได้

“ช่วงนี้สงครามชายแดนเกิดขึ้นติดต่อกัน เราไม่มีกระจิตกระใจเข้าวังหลัง”

ไทฮองไทเฮาย่อมไม่ปล่อยให้เขาผ่านได้ง่าย ๆ

“ฉานเอ๋อร์ทั้งน่ารักและเฉลียวฉลาดขนาดนั้น มีจุดไหนที่ไม่ถูกใจฮ่องเต้หรือ? แม้จะไม่โปรดปราน อย่างน้อยก็ควรไปเยี่ยมเยือนนางที่ตำหนักฟางเฟยบ้าง สองคนควรมีโอกาสพบกันบ่อย ๆ เอาแต่หลบเลี่ยงไม่ไปเจอเช่นนี้ จะรู้ถึงความดีของนางได้อย่างไร?”

แววตาของเซียวอวี้แน่นิ่ง

“เสด็จย่า เรื่องในวังหลัง มีฮองเฮาคอยดูแล ไม่อาจรบกวนผู้อาวุโสเช่นท่านมาเป็นห่วงเป็นไยอีก”

ไทฮองไทเฮาเหมือนพบที่ระบายอารมณ์ พลันตบโต๊ะน้ำชา

“เจ้าบอกมาตามตรง ฮองเฮาบอกอะไรเจ้าใช่หรือไม่?”

“เป็นเพราะนางอาศัยการได้ร่วมเรือนหอกับเจ้าแล้ว คอยเป่าหูเจ้าสินะ!”

มิเช่นนั้นคนที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมเช่นฉานเอ๋อร์ ไยไม่ได้รับความโปรดปราน?

เซียวอวี้กำลังจะโต้กลับ แต่กลับคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงเปลี่ยนคำพูดฉับพลัน

“ฮองเฮาคือภรรยาหลวงของเรา เราต้องคำนึงถึงความรู้สึกของนางเป็นธรรมดา”

เมื่อไทฮองไทเฮาได้ยินคำพูดเช่นนี้ ยิ่งโกรธหนักขึ้นจนหาที่ระบายไม่ได้

“ทหาร เรียกตัวฮองเฮามา! ข้าก็อยากจะถามนาง ว่ารู้สึกเช่นไร!”

สองเค่อยามต่อมา

เฟิ่งจิ่วเหยียนมายืนอยู่บนพื้นอิฐสีเข้มหน้าตำหนักหวั่นโซ่ว ในใจรู้สึกหมดคำจะพูด

นางอยากสบถถ้อยคำหยาบคายออกมา

ความรู้สึกของนางงั้นหรือ?

รู้สึกกับผีที่ไหนล่ะ!

เซียวอวี้จะโปรดปรานใคร แล้วเกี่ยวอันใดกับนาง!

และขณะนี้ เซียวอวี้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ กำลังดื่มชาอย่างไม่ละสายตา ท่าทางดูสบาย ๆ ราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง

พอนึกได้ว่านางเพิ่งมาถึงตำหนักหวั่นโซ่ว ก็ถูกไทเฮาสั่งให้คุกเข่า เซียวอวี้จึงถือโอกาสช่วยประคองนางให้ลุกขึ้น กระซิบบอกนางข้างหูว่า——“พูดดี ๆ แล้วเรื่องหักเบี้ยเงินเจ้า เราจะละเว้นให้”

เขากับรุ่ยอ๋องไม่ต่างอะไรกันเลย

พอตนเองคิดหาทางเอาตัวรอดไม่ได้ ก็ลากนางออกมา

……

ไทฮองไทเฮาซักถาม

“เจ้ามองฝ่าบาททำไม ข้าบอกให้เจ้าพูดมา ที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานเหล่าสนมในวังหลังนั้น เจ้าเป็นถึงฮองเฮา เหตุใดมิยินยอม? แล้วกล้ามิยินยอมได้เยี่ยงไร?”

ยามเฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าราบเรียบเย็นชา ไร้ความรู้สึกนั้น ก็ทำให้นางดูเป็นคนหน้าตาย เฉยชาห่างเหิน และไร้มารยาท

เซียวอวี้ดื่มชาต่อ

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูฮ่องเต้ทำทีเหมือนเป็นคนนอก นัยน์ตาก็ตีรวนไปด้วยคลื่นความเย็นชา

จากนั้น นางก็มองตรงมาที่ไทฮองไทเฮา กล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

“ทูลไทฮองไทเฮา หาใช่หม่อมฉันมิยินยอม เพียงแต่ฝ่าบาท…เขามีใจไร้เรี่ยวแรง”

ชั่วขณะนั้น เซียวอวี้ก็แทบสำลักน้ำชาที่ดื่มเข้าไป ถลึงตามองมาที่เฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างขุ่นเคือง สีหน้าอึมครึมอย่างน่ากลัว

นางพูดอะไร?!

ไทฮองไทเฮาก็ตัวแข็งเป็นหินทันที จากนั้นก็หันหน้าไปมองหลานชายของตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ต่อมา นางก็ตะคอกใส่บ่าวรับใช้รอบ ๆ

“ออกไปให้หมด”

ณ บนที่นั่ง สีหน้าของเซียวอวี้ดำคล้ำเขียว มุมปากกระตุกยิก ๆ มือข้างที่วางบนหัวเข่า กำเข้าหากันจนกลายเป็นกำปั้น

เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ที่เดิม ไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ถ่อมตน ราวกับตนเองกำลังพูดเรื่องเพียงเล็กน้อยทั่วไป เฉกเช่น เช้าวันนี้รับประทานอะไรมา

ส่วนไทฮองไทเฮาได้แต่ถามเซียวอวี้อย่างระมัดระวัง ที่แตกต่างจากท่าทางบีบบังคับก่อนหน้านี้

“ฮ่องเต้ เจ้า ให้หมอหลวงตรวจหรือยัง?”

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย