เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 22

แววตาถมึงทึงแข็งกระด้างของเซียวอวี้แผ่ความเย็น มองสตรีตรงหน้าด้วยความเย็นชา

นางสนมเจียงคุกเข่าอยู่บนเตียง สวมชุดนอนบางเฉียบ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเยือกเย็นในวสันตฤดู หรือเป็นเพราะไฟความโกรธของฮ่องเต้ทำให้คนอยากแทรกแผ่นดินหนี นางก้มหน้า ตัวสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

“หม่อมฉัน...หม่อมฉันคือนางสนมเจียงอยู่ในตำหนักหวงกุ้ยเฟย หม่อมฉันเคยถวายบังคมฝ่าบาท...”

นางฝืนพูดให้จบประโยค ลำคอทั้งแห้งและฝืดเคือง

หน้าตาเซียวอวี้หล่อเหลา เย็นชา

เขาเย็นยะเยือกจนทำให้คนกลัว ราวกับอสูรจากขุมนรก

แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะเรียบนิ่งอย่างมาก

“ฮองเฮาล่ะ” เขาซักถามอีกครั้ง

อากาศรอบข้างเบาบางลงเรื่อย ๆ นางสนมเจียงปะทะกับความตกใจสุดขีดนั้นแทบจะหายใจไม่ออก

“กราบทูลฝ่าบาท ฮองเฮาให้หม่อมฉันมา...ปรนนิบัติเพคะ”

หลิวซื่อเหลียงได้ยินเสียงผิดปกติเมื่อครู่ จึงวิ่งเข้ามาดูโดยไม่รอมีดำรัสสั่ง

ได้ยินคำพูดของนางสนมเจียงพอดี ตกตะลึงจนตาค้าง

อะไรกัน? ! !

คนที่ปรนนิบัติคืนนี้ไม่ใช่ฮองเฮา?

ฮองเฮาต้องการจะทำอะไร แสร้งปล่อยเพื่อจับหรือกระไร?

ในสถานการณ์ตอนนี้ นางสนมเจียงเองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน

นางไม่คิดเลยว่าตนเองจะได้รับโอกาสในการปรนนิบัติ

หลังจากที่เมื่อกลางวันได้ยินฮ่องเต้ตกปากรับคำการข่มขู่ของฮองเฮาแล้ว นางก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

ไม่คิดเลยว่าจะมีทหารมาบอกนางว่าฮองเฮาจะจัดสรรให้นางปรนนิบัติในคืนนี้

นางตื่นเต้นสุดขีด และกลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งโอกาส จึงไม่ได้บอกใครทั้งสั้น รวมถึงหวงกุ้ยเฟยที่ดีกับนางเสมอมา

เมื่อถึงตำหนักจื้อเฉิน นางทั้งกังวลและตื่นเต้น

เข้าวังมานมนานหลายปี ในที่สุดคืนนี้ก็สมความปรารถนา

ทว่า เมื่อฮ่องเต้เปิดผ้าม่านขึ้น เห็นนางแล้ว สีหน้าราวกับว่าจะฆ่านาง และยังถามอีกว่านางเป็นใคร

นางไม่น่าถูกจดจำขนาดนั้นเชียวหรือ?

นางสนมเจียงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมาก

น้ำตาของนางเอ่อล้นออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“ฝ่าบาท...”

ทว่า นางเพียงปริปาก สายตาของเซียวอวี้นั้นเย็นยะเยือกแทงเข้าไปในกระดูก

อาภรณ์ฮ่องเต้โค้งปลิวพริ้วไหวไปในสายลม เขาหันหลังให้นาง พูดออกคำสั่งกับหลิวซื่อเหลียง

“ส่งตัวกลับไป!”

ให้ส่งใครกลับไป มองปราดเดียวก็เข้าใจแจ่มแจ้ง

เมื่อนางสนมเจียงได้ยินดังนั้น ทำตัวไม่ถูกทันที

“ไม่นะเพคะ! ฝ่าบาท! หม่อมฉันถูกฮองเฮาจัดส่งมา หม่อนฉันไม่ได้มาเอง ฝ่าบาท อย่าส่งหม่อมฉันกลับไป... หม่อมฉันรอคอยมานานแล้ว... ”

นางยังบอกกล่าวความในใจอยู่ เซียวอวี้กลับก้าวเท้าเดินจากไปนานแล้ว

ขันทีน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้น

“พ่อบุญธรรม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลูกเลย ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทตกปากรับคำว่าจะพระราชทานความเมตตาอย่างทั่วถึงหรอกหรือ คนที่ปรนนิบัติคืนนี้จะเป็นฮองเฮาหรือนางสนมเจียง มันแตกต่างกันงั้นหรือ? อย่างไรก็ไม่ใช่หวงกุ้ยเฟยอยู่แล้ว”

หลิวซื่อเหลียงพูดเสียงต่ำอีกครั้ง “จุ๊ ๆ ๆ ๆ ! ทุกคนคิดว่านี่เป็นฮองเฮาที่ได้รับความโปรดปราน ยิ่งไปกว่านั้น ฮองเฮาสั่งการส่งคนไปปรนนิบัติฮ่องเต้โดยพละการ ทำให้ที่ของฮ่องเต้แปดเปื้อน ฮ่องเต้จะมีความสุขงั้นรึ? เจ้าก็เหมือนกัน ฮองเฮาจัดหาคนมา เจ้าก็ไปรับคนมาส่ง เจ้าอยากอายุสั้นหรือกระไร!”

เมื่อขันทีได้ยินดังนั้น หลังคอเย็นวาบทันที

ฮ่องเต้ไม่ชอบให้คนมาที่ตำหนักจื้อเฉินเป็นที่สุด

ต่อให้เป็นหวงกุ้ยเฟยที่โปรดปรานมากที่สุด ก็ยังไม่เคยค้างแรมที่ตำหนักจื้อเฉินเลย

“จบเห่แล้วพ่อบุญธรรม เช่นนั้นข้าควรทำเช่นไร! ฝ่าบาทคงจะไม่ประหารลูกใช่ไหม! พ่อบุญธรรม ท่านต้องช่วยลูกนะ! ข้ายังไม่ได้ตอบแทนพระคุณท่านเลย!”

ตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว หลิวซื่อเหลียงโกรธจนกัดฟันกรอด

ทั้งหมดนี่เป็นเพราะฮองเฮาแท้ ๆ

......

เมื่อเปรียบเทียบกับความตื่นตกใจของคนที่ตำหนักจื้อเฉินแล้ว ตำหนักหย่งเหอเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา

เหลียนซวงกำลังปรนนิบัติส่งเฟิ่งจิ่วเหยียนบรรทม

ปัง!

หมัวมัวซุนผู้จัดการเรื่องต่าง ๆ หน้าตาตื่นพุ่งทะลวงเข้ามา มองเห็นว่าฮองเฮากำลังถอดต่างหูออก ตะโกนอย่างกระหืดกระหอบ

“ฮองเฮา! ท่านหยุดถอดก่อนเพคะ! ฝ่าบาท ฝ่าบาทเสด็จมาแล้วเพคะ!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนหยุดการกระทำลง สายตาพลันแผ่รังสีดำมืดออกมา

มาเร็วกว่าที่นางคาดไว้..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย