“สวรรค์! เลือด!” นางสนมจวงผู้ขวัญอ่อนกรีดร้องออกมาก่อน
ทุกคนต่างหันไปมอง
จึงเห็นว่า เศษกระเบื้องในมือของนางกำนัลผู้นั้นกรีดโดนมือของฮองเฮา จนมีเลือดไหลออกมา...
นางกำนัลยิ่งหวาดกลัว และคุกเข่าลงอีกครั้ง
เหลียนซวงโมโหจนหายใจหอบ: “เจ้าเจตนา!”
เซียวอวี้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกรมีสีหน้าเย็นชา และมองไปทางนางกำนัลที่ทำผิดผู้นั้น
“พวกรนหาที่ตาย ลากตัวออกไป!”
นางกำนัลตะโกนขอชีวิต จากนั้นนางกำนัลอีกคนหนึ่งก็ก้าวขึ้นมา เพื่อจัดการบาดแผลให้เฟิ่งจิ่วเหยียน
สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเรียบเฉย แสร้งทำเป็นไม่เห็นการกระทำของนางกำนัลผู้นั้น
บิดามารดาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปทางนั้นด้วยความเป็นห่วง
ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น สาวใช้ที่อยู่ข้างบิดาเฟิ่งจิ่วเหยียนถือเข็มเงินเล่มหนึ่งอยู่ในมือ นางอาศัยจังหวะกำลังเทสุรา เล็งไปที่มือของบิดาเฟิ่งจิ่วเหยียนซึ่งวางอยู่บนโต๊ะอาหาร...
มือของนางรวดเร็วฉับไว จนยากจะหลบหลีกได้
บิดาเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันรู้สึกเจ็บขึ้นมา และยกมือขึ้นตามสัญชาตญาณ
ทว่ามองเห็นแมลงเปลือกแข็งตัวหนึ่งอยู่บนพื้น เขากลับคิดว่าอาจจะถูกมันกัด จึงไม่ได้สนใจ
เซียวอวี้พูดกับเฟิ่งจิ่วเหยียนว่า
“ฮองเฮา ไปเปลี่ยนอาภรณ์เถอะ”
สีหน้าของเขาเฉยเมย ริมฝีปากบางใต้สันจมูกคม เผยให้เห็นถึงความเลือดเย็น
“เพคะ”
เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นไปเปลี่ยนอาภรณ์ พร้อมกับพาเหลียนซวงไปด้วย
สายตาของฮูหยินเฟิ่งมองตามไป สีหน้าดูเป็นกังวล
การสู้กันทั้งต่อหน้าและลับหลังในวัง มีวิธีการทุกรูปแบบ
เฟิ่งจิ่วเหยียนบาดเจ็บ คงไม่มีผู้ใดเจตนาลงมือกระมัง?
ภายในตำหนักด้านข้าง
เหลียนซวงคาดเดาว่า
“ฮองเฮา นางกำนัลผู้นั้นจะต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเป็นแน่! คนที่รับใช้ต่อหน้าพระพักตร์ ไม่มีทางซุ่มซ่ามถึงเพียงนี้”
เฟิ่งจิ่วเหยียนมองผ้าพันบาดแผลบนมือ แววตาเย็นชาและเฉยเมย
“ช่างเถอะ”
เรื่องนี้เซียวอวี้เป็นคนวางแผน
ไม่น่าแปลกใจที่ให้คนตระกูลเฟิ่งมาร่วมงานเลี้ยง คิดดูแล้วก็คงเพื่อต้องการพิสูจน์ตัวตนของนาง
เพราะเรื่องของนักฆ่าหญิงผู้นั้น เขาจึงสงสัยว่านางไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียง
หากเป็นเช่นนั้น ให้เขาพิสูจน์จะเป็นอะไรไปเล่า
ท้องพระโรงจัดเลี้ยง
เหล่านางรำท่วงท่างดงาม สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่พวกนาง
เฉินจี๋เดินเข้าไปข้างกายฮ่องเต้ โน้มตัวลง ใช้มือข้างหนึ่งป้องปาก เพื่อปิดบังรูปปาก พร้อมกระซิบว่า
เซียวอวี้ดูเหมือนจะไม่ได้ยินสิ่งที่หนิงเฟยพูด สายตาทอดมองไปไกล แววตาดูเยือกเย็น
ในเวลานี้ไทเฮาทรงตรัสว่า
“สมควรแก่เวลาแล้ว นำของขวัญมาแจกจ่ายเถอะ”
เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นยืนและตอบรับ
จากนั้น เหล่าข้าหลวงก็นำของขวัญมาวางบนโต๊ะอาหารที่อยู่เบื้องหน้าทุกคน
ตามกฎแล้ว ของขวัญนี้จะต้องให้ทุกคนนำกลับไปก่อน ถึงค่อยเปิดดูทีหลัง
ดังนั้น แม้จะอยากรู้ว่าสิ่งที่อยู่ข้างในคืออะไร ทุกคนก็ต้องระงับความอยากรู้เอาไว้
ทันใดนั้นเอง กลับได้ยินเสียงดัง “โครม”
เมื่อมองแวบแรก ก็เห็นขันทีน้อยไม่ทันระวังทำของขวัญพลิกคว่ำ ทว่าของขวัญชิ้นนั้น บังเอิญเป็นของอดีตรัชทายาทเซียวจั๋ว
มีพระสนมนางหนึ่งเอ่ยพึมพำ
“วันนี้คนพวกนี้เป็นอะไรกันไปหมด คนก่อนหน้ายกเครื่องดื่มมาก็หกคว่ำ ทั้งยังกรีดโดนมือฮองเฮา คนหลังนี้ยกของขวัญมาก็พลิกคว่ำอีก”
ทุกคนพากันอยากรู้ว่า ของขวัญของอดีตรัชทายาทคืออะไร
สิ่งที่มองเห็น นอกจากขนมไหว้พระจันทร์สองสามชิ้น ยังมีถุงหอมและผ้าเช็ดหน้าด้วย
ที่หนานฉี ถุงหอมเป็นของแทนใจที่สตรีมอบให้บุรุษ และผ้าเช็ดหน้าก็เป็นของแทนความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ!
ทุกคนในเหตุการณ์ต่างคิดเหมือนกันว่า
นี่...นี่ไม่เหมาะสม!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...