เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 242

เหลียนซวงมิรู้ว่า นางควรจักรายงานเรื่องที่ฮองเฮาฟื้นขึ้นมาแล้วดีหรือไม่

นับว่าโชคดีที่ คนภายในฉากกั้นด้านในเอ่ยขึ้นมาพอดี “ฝ่าบาทเพคะ... หม่อมฉันเพิ่งฟื้นเพคะ”

หลังจากที่เซียวอวี้ได้ยินเสียงนั้น เขาก็ยกมือขึ้นแหวกม่านฉากกั้นขึ้นมา

เรียวนิ้วที่จับม่านนั้น ทำให้เกิดรอยยับอย่างชัดเจน

ดวงตาทั้งคู่พลันสบตากัน เมื่อเห็นสตรีที่อ่อนแออยู่ตรงหน้านั้น นิ้วมือจึงเผลอลงแรงเข้าไปอีก

“พักผ่อนเสีย”

นอกจากน้ำเสียงเย็นชาที่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วงนั้น เขาหาได้มีคำพูดอื่นไม่

เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงทำลายสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจนี้ พร้อมทั้งพยายามที่จะลุกขึ้นมานั่ง

เซียวอวี้ขมวดคิ้วเป็นปมเล็กน้อย ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า ทั้งยังยื่นมือเข้ามาช่วยประคองที่เอวของนางอีก

เซียวอวี้จึงมิรู้ว่าตนเองเผลอไปสัมผัสโดนแผลเก่าของนางเข้าแล้ว

เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ พร้อมหยุดอยู่ที่เดิม

เซียวอวี้ที่สังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของนางนั้น จึงเอ่ยถามออกมา “เป็นอะไรไป?”

ท่าทีของเซียวอวี้ที่มีต่อนาง มิค่อยมีความอดทนเท่าใดเช่นตอนนี้นัก

“ไม่มีอันใดเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหัวไปมาเบา ๆ ภายในใจได้แต่ลอบกลอกตามองบน พยายามที่จะอดกลั้นต่อความเจ็บปวดเอาไว้ พร้อมทั้งลุกขึ้นมานั่งตะแคง

เซียวอวี้หาได้รู้ไม่ว่าหน้าท้องของนางมีบาดแผล

ยามที่เขาพันแผลให้นางก่อนหน้านั้น เขาเพียงเลิกเสื้อของนางขึ้นไปถึงใต้ราวอก สายตาหาได้ว่อกแว่กไปที่ใดไม่

ทว่า... ก็ยังมิอาจหลีกหนีพ้น เขายังคงเผลอไปเห็นบางอย่างในสิ่งที่ไม่ควรจะเห็นเสียได้

เดิมทีเซียวอวี้คิดว่ามิเป็นอันใด หาได้ส่งผลกระทบอันใดต่อตนเองไม่

หาแต่เมื่อเห็นนางในตอนนี้ ทำเอาเขาอดคิดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ว่า อาภรณ์ของสตรีสามารถปิดมิดชิดขนาดนี้เลยหรือ...

เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังหลับตาอยู่ หาได้สังเกตสายตาของเซียวอวี้ไม่

“ฝ่าบาทเพคะ ถึงเวลาที่หม่อมฉันสมควรกลับไปยังตำหนักหย่งเหอแล้วเพคะ”

ยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมองนั้น เซียวอวี้พลางเบือนหน้าหนีทำตัวไม่ถูกไปในทันที

สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา

“อื้ม ข้าจักสั่งให้คนไปจัดเตรียมเกี้ยวมาให้เจ้า”

……

ตำหนักฟางเฟย

มู่หรงฉานที่ฟื้นขึ้นมานานแล้วนั้น พลันได้ข่าวจากปากของชิวหงว่า หลังจากที่นางออกมาจากท้องพระโรงก็มีนักฆ่าปรากฏตัวขึ้น ฮองเฮาใช้ร่างของตนเองเอาตัวเข้าบังลูกธนูให้กับฝ่าบาท

มู่หรงฉานที่นอนอยู่บนเตียงนั้น แย้มยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น

“มิมีผู้ใดสนใจข่าวลือพวกนั้น ฝ่าบาทย่อมมิคิดสืบหาความเพิ่มเติมเช่นกัน”

หมากมากมายที่เต็มกระดานของนางนั้น ถูกทำลายลงด้วยฝีมือของคนผู้เดียว

ย่อมต้องเป็นหนิงเฟย!

จักต้องเป็นหนิงเฟยที่เผยความลับออกไปอย่างแน่นอน

มิเช่นนั้น ฮองเฮาจักหาวิธีมารับมือได้อย่างไรกัน

ทว่า ในยามนี้กลับมีเรื่องที่สำคัญกว่า

มู่หรงฉานลุกขึ้นนั่ง พร้อมเอ่ยสั่งการชิวหง

“เจ้ารีบไปที่ประตูทิศตะวันออกเสีย ไปหาหลิวกงกง ให้เขาคิดหาวิธีส่งข่าวไปหาบิดาข้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนังสือร้องเรียนนั้น เรื่องนี้จักช้าไม่ได้!”

หนังสือร้องเรียนที่ฟ้องต่อท่านพี่ของนางถูกส่งไปอยู่ในมือของฝ่าบาทแล้ว บิดาของนางจำเป็นต้องวางแผนรับมือโดยไว อย่าได้นั่งนิ่ง ๆ รอความตาย

หากว่ารอดพ้นจากหายนะในครานี้ไปได้ละก็ ไม่แน่ว่า อาจจะมีความหวังที่ท่านพี่ของนางจักได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นโหวได้

ยามที่ชิวหงกำลังจะออกไปนั้น หนิงเฟยก็มา

นางมาที่ตำหนักเฟยฟางด้วยตนเองเช่นนี้ เรียกว่าเป็นการมาเยี่ยมเยียนเย้ยหยันถึงจะถูก

มู่หรงฉานจึงให้นางกำนัลของตนเองออกไป

หนิงเฟยพลางแย้มยิ้มก่อนจะหยิบถ้วยยาข้างกายขึ้นมา

“จิงกุ้ยเหริน ยานี้คงจะขมมากกระมัง”

มู่หรงฉานหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาบังริมฝีปากของตนเอง ก่อนจะกระแอมกระไอออกมาสองสามครั้ง

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย