เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 245

“ช่วย”

กลับกันหากมีบุคคลที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ตกอยู่ในอันตรายละก็ นางจักต้องยื่นมือออกไปช่วยแน่นอน

จากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ช่วยในขอบเขตที่หม่อมฉันพอจะช่วยเหลือได้เพคะ”

อาจารย์หญิงมักจะกล่าวกับนางเสมอว่า ชีวิตของนางย่อมเป็นของตัวเองก่อน

เซียวอวี้เพียงสนใจคำของนางว่า “ช่วย”

เขามิอาจบอกได้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไรในยามนี้

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เองก็เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาเช่นกัน ทั้งยังยินยอมมอบทั้งหัวใจและวิญญาณให้กับเขา และยังยอมลดอายุขัยเพื่อเขาอีก

หากเปรียบเทียบกันแล้ว สิ่งที่ฮองเฮาทำมีเพียงแค่ช่วยแก้พิษวารีสวรรค์และเอาตัวมาบังลูกธนูเท่านั้น หาได้มากเท่ากับสิ่งที่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ทำให้เขาตลอดสี่ปีที่ผ่านมาไม่

ทว่า หัวใจของเขา กลับสั่นไหวเพราะฮองเฮา

อาจเป็นเพราะหลิงเยี่ยนเอ๋อร์มอบทุกอย่างให้กับเขา แต่ก็ได้รับหลาย ๆ อย่างจากเขาเช่นกัน

แต่ ฮองเฮาไม่เคย...

ทว่า

ความอ่อนโยนในนัยน์ตาของเซียวอวี้กลับถูกความเย็นชาเข้ามาบดบังอีกครั้ง

ผู้ใดจักไปรู้กัน ว่าฮองเฮามิมีสิ่งที่ตัวเองต้องการ มิใช่การถอยเพื่อรับ

หลายวันที่ผ่านมานั้นเขาเอาแต่คิดมาก

ทุกครั้งที่เขานึกถึงงานเลี้ยงในเทศกาลไหว้พระจันทร์ นึกถึงยามที่ฮองเฮาเอาตัวมาปกป้องเขาจากลูกธนูแล้วนั้น เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูกขึ้นมา

เขาเกลียดสตรีมีเล่ห์เหลี่ยมมากนัก และกลียดมากที่สุดก็คือพวกโง่เง่าที่ถูกสตรีเหล่านั้นจูงจมูกอีกด้วย

“ข้ารู้ความคิดของเจ้าดี ทว่า ข้ามิอาจให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการได้”

“ความภาคภูมิใจของตระกูลฝั่งมารดา พระราชทานบรรดาศักดิ์โหวที่มีศักดินาหนึ่งหมื่นครัวเรือนให้พี่ชายของเจ้า หรือเจ้าต้องการบุตรรับมาเลี้ยงดู ข้าสามารถรับปากเจ้าได้”

เฟิ่งจิ่วเหยียน : ?

ความคิดของนาง?

เขาเข้าใจอันใดผิดไปหรือไม่?

ทว่า การที่นางเอาตัวเข้าบังลูกธนูให้กับเขานั้น เขาก็จะช่วยพระราชทานบรรดาศักดิ์โหวให้กับตระกูลของนาง ในฐานะที่เขาเป็นถึงจักรพรรดิ เขาดูจะทำตัวให้อะไรง่ายไปหน่อยกระมัง

เช่นนี้ เขาคู่ควรกับเหล่าพี่น้องร่วมรบที่ต่อสู้นองเลือดกัยนางมาด้วยกันได้อย่างไรเล่า!

“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันหาได้ต้องการสิ่งเหล่านั้นไม่” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยความหนักแน่น

เซียวอวี้ยังคงยึดมั่นในคำเดิม

“มิจำเป็นต้องรีบร้อนเอ่ยออกมาในตอนนี้ เราจักให้เวลาเจ้าคิดทบทวน”

จะต้องมีอย่างแน่นอน

พระราชวังคือหม้อหลอมละลายที่สามารถละลายความรู้สึกต่าง ๆ ลงไปได้ ท้ายที่สุดทุกคนก็ย่อมเผยหน้ากากที่แท้จริงของตนเองออกมา ทั้งยังถูกความอำนาจอันหอมหวานและความรุ่งโรจน์เข้าครอบงำอีก

สตรีที่พากันแย่งชิงความโปรดปรานเหล่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว พวกนางก็แค่จะแย่งชิงอำนาจและยศถาบรรดาศักดิ์ของตน

หากว่าเขามิสามารถมอบสิ่งของเหล่านั้นให้กับพวกนางได้แล้ว มิเช่นนั้นพวกนางจะพากันแห่มาเสนอตัวให้กับเขาทำไมกัน?

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ก็เป็นเช่นนั้น ฮองเฮา ก็คงเป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน

เฟิ่งจิ่วเหยียนที่พยายามจะสื่อว่าตนเองหาได้ต้องการของพวกนั้นไม่ เซียวอวี้กลับจากไปเสียแล้ว

หลงเหลือไว้แต่เพียงนางที่นอนจ้องเพดานตำหนักอย่างโดดเดี่ยว

ฉะนั้นแล้ว... เขาคิดว่า นางกำลังคิดอะไรอยู่ในใจกัน?

เหลียนชวงที่เข้ามารอรับใช้นั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้าว่า

“ด้านนอกวังมีข่าวอันใดหรือไม่?”

เหลียนซวงเองก็กังวลมากเช่นกัน

นางพลันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะกระซิบเสียงเบาตอบกลับมาว่า

“ฮองเฮาเพคะ ช่วงนี้การตรวจตราภายในพระราชวังเข้มงวดเป็นอย่างมาก ฝ่าบาทยังคงสงสัยอยู่ว่ามีนักฆ่าหลบซ่อนตัวอยู่ภายในวังหลวง การเข้าออกวังจึงถูกตรวจค้นอย่างเข้มงวดมากเลยเพคะ”

“ทุกครั้งที่บ่าวออกไปข้างนอก ล้วนแต่มีคนติดตามอยู่เสมอ ทุกครั้งก็ไม่สำเร็จกลับเข้ามา วันนี้ยามค่ำ ๆ บ่าวจะลองดูอีกทีเพคะ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยเตือนนาง

หลิวซื่อเหลียงเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืน เก็บที่นอนด้วยการกระทำรวดเร็วฉับไว

……

หลิวซื่ิอเหลียงที่กำลังเผาผ้าปูที่นอนอยู่นั้น ไม่รู้ว่าบุตรบุญธรรมปรากฏตัวออกมาจากที่ใด

“ท่านพ่อ! ก่อนหน้าข้าตื่นขึ้นมาเห็นอะไรบางอย่างแปลก ๆ ด้วย

“ฝ่าบาทอยู่ที่บ่อน้ำในตำหนักหลัง ทั้งยังเทน้ำใส่ร่างกายของตนเองอีกด้วย น้ำเย็นจัด ๆ เช่นนั้น เพียงข้ามองก็นึกหนาวสั่นขึ้นมาแล้ว”

หลิวซื่อเหลียงที่รับรู้เรื่องราวทุกอย่างนั้น หาได้เอ่ยอธิบายอันใดออกมาไม่

เขาได้แต่ลอบคิดกับตนเองในใจว่า ค่ำคืนนั้นฝ่าบาทจักต้องพิโรธมากถึงเพียงใดกัน ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้

……

ตำหนักหย่งเหอ

เฟิ่งจิ่วเหยียนจู่ ๆ กลับมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมา

เช้าวันรุ่งขึ้น เหลียนซวงพบว่าอาภรณ์ของฮองเฮาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ จึงช่วยนางเช็ดตัวพร้อมทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ให้

ได้เวลาเปลี่ยนยาบนหลังอีกครั้ง

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่อาจใส่ยาให้กับตนเองได้ นางจึงได้แต่ถอดเสื้อออก พร้อมทั้งนั่งข้างเตียงโดยหันหลังให้เหลียนซวง เพื่อให้นางเปลี่ยนยาและผ้าพันแผลให้สะดวก

เหลียนซวงกลัวว่าตนเองจะทำให้ฮองเฮาเจ็บนั้น ดังนั้นนางจึงค่อย ๆ ลงมือเบา ๆ มันจึงใช้เวลานานเป็นอย่างมาก

ยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังคิดเหม่อลอยใช้ความคิดว่าจะหายาแสร้งตายอย่างไรนั้น

ภายในห้องกลับเต็มไปด้วยความเงียบสงบ

วันนี้ลมแรงเป็นอย่างมาก ทั้งยังพัดเข้ามาเป็นช่วง ๆ อีกด้วย

ทั้งสองหาได้สังเกตเห็นไม่ เซียวอวี้ยืนอยู่ตรงนั้นนานแล้ว

สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาก็คือผ้าพันแผลพลิ้วไหวสีขาวแทน

เสมือนดั่งที่เขาเห็นในความฝันเมื่อคืนนี้...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย