ภายในห้องทรงพระอักษรนั้น กลิ่นอายขององค์จักรพรรดิที่แผ่กระจายออกมา ย่อมทำให้ข้าราชบริพารใต้ล่างต้องยอมจำนน
มู่หรงฉานยังคงท่วงท่าสง่างามของตนเองเอาไว้ ก่อนจะก้มหน้าลงหลุบสายตาลงไปมองบนพื้น
ภายในห้องโถงที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ คล้ายกับว่าจะได้ยินเสียงหัวใจของตนเองที่เต้นรัวออกมา
บุรุษที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“พี่ชายของเจ้ายักยอกเงินจากค่ายทหาร ทั้งยังกระทำการแย่งชิงเกียรติยศของพลทหารคนอื่น ใช้การรุมประชาทัณฑ์เพื่อกำจัดคนที่รู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งยังส่งคนไปไล่ล่าจนมาถึงเมืองหลวง เจ้าเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างหรือไม่?”
มู่หรงฉานขบกัดริมฝีปากล่างของตนเองเบา ๆ
“แต่แรกจนโตหม่อมฉันเติบโตขึ้นภายในอารามเพคะ ในความทรงจำของหม่อมฉัน พี่ชายเป็นบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาจิตใจดี หม่อมฉันรู้ว่าเขา...”
“งานเลี้ยงวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ของขวัญ”
เซียวอวี้กลับเอ่ยตัดบทสนทนา ทำเอามู่หรงฉานตื่นตระหนกไปในทันที
เขาค่อย ๆ เปิดฎีกาขึ้นมาช้า ๆ พลางมองเนื้อหาในฎีกาไปด้วย ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยท่าทีไม่รีบไม่ร้อน
“มิเกี่ยวอันใดกับเจ้าเลยหรือ?”
มู่หรงฉานไม่คาดคิดเลยว่า งานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ที่ผ่านไปนานกว่าครึ่งเดือนแล้ว ฝ่าบาทเพิ่งมาสงสัยในตัวนาง
“หม่อมฉันหาได้มีจิตใจคิดร้ายต่อผู้ใดไม่เพคะ ฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี”
ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยกยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ผู้คนต่างกล่าวว่าคนตายย่อมไร้หลักฐาน หารู้ไม่ว่า บนร่างของคนตายก็สามารถสืบหาความจริงได้เช่นกัน”
ลมหายใจของมู่หรงฉานพลันหยุดชะงักไปในทันที
เมื่อเซียวอวี้เอ่ยออกมาเช่นนี้ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองมู่หรงฉาน ใบหน้าของนางมีหลายส่วนที่คล้ายคลึงกับหรงเฟยยิ่งนัก
“เห็นแก่หน้าตาหรงเฟย ข้าจักให้โอกาสเจ้าสารภาพออกมาด้วยตนเองเสีย”
“เพี๊ยะ” ฎีกาถูกฟาดลงบนโต๊ะทรงงานในทันที
หัวใจของมู่หรงฉานราวกับตกลงไปอยู่บนตาตุ่ม
ในวังหลังนั้น ย่อมมิเกี่ยงวิธีที่จะใช้แย่งชิงความโปรดปราน ทว่า มิอาจมองฝ่าบาทเป็นเพียงคนโง่เง่าไปได้
ยามที่มู่หรงฉานเงยหน้าขึ้นมานั้น ดวงตาคู่นั้นพลันเจือไปด้วยหยาดน้ำตาใสกระจ่างประหนึ่งไข่มุกสีใส
“ฝ่าบาทเพคะ เป็นคำสั่งของหม่อมฉันเองเพคะ หม่อมฉัน...หม่อมฉันเพียงแค่ต้องการระบายความโกรธแทนพี่หญิงของหม่อมฉันเท่านั้น”
สายตาเซียวอวี้ที่เต็มไปด้วยความเย็นชา กลับมีคลื่นอารมณ์แปลก ๆ เข้ามาในทันที
เมื่อมู่หรงฉานเห็นการเปลี่ยนแปลงของเซียวอวี้แล้วนั้น ภายในใจของนางมิได้มีท่าทีหวาดกลัวดังเดิม
ที่แท้ ฝ่าบาทยังคงมีบ่วงอยู่
ถึงแม้ว่าวังหลังจักมีสาวงามมากถึงสามพันนาง แต่ผู้ที่อยู่ในใจของฝ่าบาทมีเพียงพี่หญิงของนางคนเดียวเท่านั้น
มู่หรงฉานจึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า
“บางทีฝ่าบาทอาจจะจำไม่ได้
“ยามที่ฝ่าบาทมาสู่ขอพี่หญิงของหม่อมฉันก่อนจะขึ้นครองราชย์นั้น หม่อมฉันก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกันเพคะ ทั้งยังได้ยินที่ท่านเอ่ยให้สัตย์ปฏิญาณตนท่านลุงอีกว่า ภรรยาของท่านจักมีเพียงพี่หญิงของข้าเท่านั้น”
“ต่อมา เมื่อพี่หญิงของข้าเข้าวังไปเป็นพระสนมของท่านแล้ว ท่านยังให้สัญญาแก่นางว่า รอเพียงนางประสูติพระโอรสจะแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮา…”
เซียวอวี้ยังคงจำเหตุการณ์ในอดีตได้เป็นอย่างดี
ทว่า หรงเฟยจากไปแล้ว
ยิ่งมู่หรงฉานพูดถึงเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไร ราวกับว่าในฐานะที่นางเป็นหนึ่งในตระกูลของหรงเฟยนั้น นางมิพอใจต่อการผิดคำสัญญาของฝ่าบาทยิ่งนัก



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...