เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 269

เฉียวม่อตรงไปยังกระโจมหลักของฮ่องเต้กับฮองเฮา

แม่ทัพเมิ่งกำลังให้การต้อนรับด้วยตนเอง

เฉียวม่อกลับมองเห็น ศิษย์พี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างฝ่าบาท ริมฝีปากค่อนข้างแดง ยังมีรอยช้ำบนผิว เห็นได้ชัดว่า...เกิดจากการจูบอย่างรุนแรง

และแววตาของฝ่าบาท เหลือบมองดูศิษย์พี่อยู่บ่อยครั้ง ราวกับให้ความสนใจนางเป็นอย่างยิ่ง

นี่ไม่ใช่ภาพที่เฉียวม่อคาดคิดไว้

ฝ่าบาทจับตัวนางสนมที่หลบหนีได้ ควรลงโทษอย่างสาหัสถึงจะถูก

และจากที่นางสังเกตเห็นได้จากเมื่อตอนที่ไปยังเมืองหลวงก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาทไม่ชอบศิษย์พี่

ส่วนศิษย์พี่...ศิษย์พี่ไม่อยากกลับพระราชวังไม่ใช่หรือ น่าจะต่อต้านถึงจะถูก!

ระหว่างพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ากันได้ดีถึงขนาดนี้!

เฉียวม่ออดกลั้นเก็บความสงสัยมากมายไว้ แล้วถวายบังคมอย่างฝืนยิ้ม

“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ฮองเฮา”

“ไม่ต้องมากพิธี”

สิ่งที่เซียวอวี้ป่าวประกาศต่อภายนอกก็คือ เดิมครั้งนี้ฮองเฮาก็เดินทางมาพร้อมกับเขา เดินทางมาให้กำลังใจพวกทหาร แต่เพราะทนการเดินทางไกลอย่างเหน็ดเหนื่อยไม่ไหว จึงพักอยู่ในที่พักแรมเป็นการชั่วคราว

รถม้าของนางจึงมาถึงช้ากว่าเขา

การอธิบายนี้มีพิรุธ แต่ก็ไม่มีใครกล้าสงสัย

แม่ทัพเมิ่งจะจัดเตรียมที่พักให้กับทั้งสองพระองค์ เซียวอวี้ปฏิเสธ เพราะเขามีแผนอื่น

หลังจากนี้ เซียวอวี้จะดูทหารแสดงฝีมือการต่อสู้ต่อ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงพูดขึ้นมาว่า

“ได้ยินมาว่าค่ายทหารเป่ยต้ามีกองกำลังหญิง สามารถรบกวนแม่ทัพน้อย พาข้าไปดูได้ไหม?”

ไม่รอให้เฉียวม่อได้ทันรู้ตัว เซียวอวี้ขมวดคิ้วเข้มขึ้นมา

“ฮองเฮา ในค่ายทหารไม่เหมือนพระราชวัง คอยอยู่ข้างกายเรา อยากจะดูอะไร ให้พวกเขาไปจัดการก็พอ”

เขาไม่มีทางให้โอกาสนางได้หนีไปอีก

เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบอย่างสุภาพว่า “เพคะ”

เฉียวม่อแอบคิดในใจ

ศิษย์พี่ต้องการพบตนเอง เพราะอยากถามว่า ทำไมฝ่าบาทถึงได้ปรากฏอยู่ในบ้านไม้หลังนั้น

แน่นอนว่านางไม่มีทางบอกศิษย์พี่ ว่านางเป็นคนเปิดเผยความลับ

……

แสดงฝีมือการต่อสู้ของค่ายทหารเป่ยต้าน่าสนใจอย่างมาก การแสดงชุดวีรสตรีหาญกล้าของกองกำลังหญิง มีบางส่วนเป็นหญิงม่ายนักรบ เฝ้าปกป้องชายแดนแทนสามี เป็นที่น่าประทับใจ

หลังจากการแสดงฝีมือการต่อสู้จบลง เซียวอวี้ประทานรางวัลให้แก่ทหารทุกคน

เวลานี้พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว เขาจึงพาเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับไป

แม่ทัพเมิ่งกับเฉียวม่อ ส่งพวกเขาออกมาจากค่ายทหารด้วยตนเอง

ก่อนแยกจากกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนตรัสขอเซียวอวี้ว่า

“หม่อมฉันกับแม่ทัพน้อยพบกันครั้งแรกก็คุยกันถูกคอ สามารถคุยกับนางตามลำพังครู่หนึ่งได้ไหมเพคะ?”

เซียวอวี้มองดูเฉียวม่อแวบหนึ่ง แล้วก็อนุญาต

จากนั้นเขาก็ขึ้นไปบนรถม้าก่อน

เฟิ่งจิ่วเหยียนกับเฉียวม่อสองคนยืนอยู่ตรงมุมหนึ่ง ด้านข้างไม่มีใครอื่น

เฉียวม่อทำเป็นถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วงว่า

“ศิษย์พี่ ฝ่าบาทตามมาเจอเจ้าได้อย่างไร?”

……

ภายในรถม้า

เซียวอวี้จ้องมองดูเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเค้นถาม

“เจ้ากับเมิ่งเฉียวม่อรู้จักสนิทสนมกันมาก่อนหรือ?”

เขาไม่ค่อยเห็นนางสนิทกับใครขนาดนี้มาก่อน

พวกนางสนมเจียอยู่กับนางมาตั้งนาน ก็ไม่เห็นนางสนิทสนมกับพวกนาง ยังเยือกเย็นชาอย่างมาก

เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มหน้าตอบว่า

“ตอนที่เพิ่งมาถึงชายแดนเหนือ ได้เจอกับอันตราย มีแม่ทัพน้อยมาช่วยไว้ จากนั้นนางก็แอบคอยดูแล”

เซียวอวี้ขมวดคิ้ว

เมิ่งเฉียวม่อรับดูแลฮองเฮา งั้นคนที่เปิดเผยความลับให้เขารู้ ก็จะต้องเป็นนาง

เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นแววตาของเขาเปลี่ยนไป จึงพูดขึ้นมาว่า

“ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องอยากร้องขอ สามารถที่จะ...ย้ายแม่ทัพน้อยไปดำรงตำแหน่งที่เมืองหลวงได้ไหม?”

ตาคิ้วเซียวอวี้ปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็น ถามกลับอย่างแฝงไปด้วยการเตือนว่า

“เจ้าคิดอยากก้าวก่ายการเมือง?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคารพนอบน้อมว่า

“อย่างแรกเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ หลังจากสถานะที่เป็นหญิงของแม่ทัพน้อยถูกเปิดเผย ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากพวกทหาร ผู้หญิงนั้นถือเป็นเพศที่อ่อนแอ”

“อย่างที่สองคือเพื่อฝ่าบาท...”

“เพื่อเรา?” สีหน้าเย็นชาของเซียวอวี้ค่อยอบอุ่นขึ้นมา เงยหน้าขึ้นมาอย่างค่อนข้างสนอกสนใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย