เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 271

#ปฏิกิริยาของเฟิ่งจิ่วเหยียนในครั้งนี้รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง นางเอียงหน้าหลบจูบนั้นไปได้อย่างเฉียดฉิว

ริมฝีปากของบุรุษปัดผ่านใบหน้าของนางไปเจอกับความว่างเปล่า

สายตาของนางมีรังสีสังหารเย็นเยียบวาบผ่าน

เซียวอวี้ไม่ได้ลงมือต่อ เขาหัวเราะแล้วกล่าวข้างหูนางว่า

“เจ้ากล่าวว่าอันใดนะ ตอบแทนบุญคุณ ทำเพื่อเรา โกหกทั้งเพ

“เจ้ารู้ว่าเมิ่งเฉียวม่อนั่นทรยศเจ้า จึงคิดจะเอานางมาไว้ข้างกาย จะได้ค่อย ๆ ทรมานนาง

“เราเดาถูกใช่หรือไม่?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย

จากนั้นก็ได้ยินบุรุษผู้นั้นถามต่ออีกว่า

“เจ้าคิดอยากจะกลับมาจริง ๆ หรือว่าถูกบังคับ?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้ความพยายามอย่างมากในการควบคุมตนเองให้สงบนิ่ง

“ข้า...”

“วันนี้ยามที่เจอเจ้าในกระท่อมไม้ เจ้าสะพายกระเป๋าเดินทางเอาไว้ เดิมเจ้าตัดสินใจจะหนีต่อไปใช่หรือไม่?”

เซียวอวี้มีท่าทางราวกับว่าเขามองนางจนทะลุปรุโปร่งแล้ว ทั้งยังทำราวกับกำลังเล่นกับเหยื่อที่อยู่ในกำมืออย่างไรอย่างนั้น

เขาอยากเห็นนางหวาดกลัว หวาดผวา อยากได้ยินนางขอร้องให้เขายกโทษให้

ทว่านางเพียงเงยหน้าขึ้นอย่างสงบนิ่งแล้วใช้ดวงตาที่ไร้ความเกรงกลัวคู่นั้นมองมาที่เขา

ทุกสิ่งทุกอย่างดูราวกับการยั่วยุอย่างไร้เสียง

“ข้าอยากกลับเอง”

นางโกหก

ทว่าแล้วอย่างไรเล่า

เซียวอวี้มองไปที่นางอย่างเย็นชา

เขามั่นใจในการคาดเดาของตนเอง มั่นใจว่านางต้องการที่จะแก้แค้นเฉียวม่อ

“นั่นเป็นถึงแม่ทัพหญิงคนแรกแห่งแคว้นหนานฉี หากทำลายนางแล้ว เจ้าจะเอาอะไรมาชดใช้ หากพูดถึงคุณค่าต่อหนานฉีแล้ว แม้แต่นิ้วมือของนาง เจ้าก็ยังเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ”

ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่แสดงอารมณ์ใดทั้งสิ้น

“หม่อมฉันไม่เคยคิดเช่นนี้เลยเพคะ”

“เราไม่สนใจว่าเจ้าจะคิดอย่างไร”

เมื่อกล่าวจบแล้ว เขาก็ก้มศีรษะเตรียมจะจูบนางอีก

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่หลบ นางกล่าวต่อด้วยความใจเย็นอย่างที่สุด

“ฝ่าบาทไม่รังเกียจหรือ หม่อมฉันเคยถูกโจรภูเขาพวกนั้น...”

เซียวอวี้หยุดมือดังคาด

สายตาของเขาเย็นชา น้ำเสียงเองก็เย็นเยียบเช่นกัน

ทว่าไม่ได้พุ่งเป้ามาที่นาง

“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”

หากนับกันจริง ๆ สาเหตุก็คือเขา หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ถึงได้ทำร้ายนาง นางจึงพลอยฟ้าพลอยฝนต้องรับเคราะห์ไปด้วย

เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

ไม่นึกเลยว่าเขาจะคิดเช่นนี้

ราวกับเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง เซียวอวี้เชยคางนางขึ้น แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของนาง

เป็นจูบเพียงผิวเผินราวกับแมลงปอที่แตะผิวน้ำเท่านั้น ทว่านางกลับไม่รู้สึกสะอิดสะเอียนเหมือนก่อนหน้านี้

นางไม่อาจทำใจให้ลืมเขาแล้วไปอยู่กับบุรุษผู้อื่นได้

หรือบางทีนางอาจจะทนการยั่วยวนไม่ไหวจนคิดปล่อยตัวปล่อยใจแสวงหาความสุขทางกาย ทว่านางควบคุมตัวเองได้

คืนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนปูนอนบนพื้น

กลางคืนเซียวอวี้อุ้มนางขึ้นไปบนเตียง แล้วไปนอนที่ห้องอื่น

......

วันรุ่งขึ้น

การเสด็จตรวจการของฮ่องเต้จบลง พระองค์กำลังจะเดินทางออกจากชายแดนเหนือแล้ว

เหล่าแม่ทัพและทหารหาญต่างนึกไม่ถึงว่าฝ่าบาททรงเสด็จมาอย่างรวดเร็ว และจะจากไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้

เฉียวม่อแอบถอนหายใจกับตนเอง

เมื่อฝ่าบาทไป ศิษย์พี่ก็จะจากไปด้วย

ทันใดนั้นเซียวอวี้มองไปที่นาง

“องครักษ์อารักขาประตูเมืองหลวงว่างหนึ่งตำแหน่ง เมิ่งเฉียวม่อ เจ้ายินดีรับตำแหน่งนี้หรือไม่”

เหล่าแม่ทัพที่อยู่ตรงนั้นต่างรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

แม่ทัพหน่วยองครักษ์อารักขาประตู นั่นเป็นตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็อยากได้เชียวนะ

ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีตั้งแต่หลางเจียง เซี่ยวเวย จื๋อจ่าง จ่างสื่อ ซือหม่า ไปจนถึงเหล่าทหารทั่วไป มีอำนาจกำกับดูแลขุนนางน้อยใหญ่ถึงสองร้อยกว่าคน

ถึงแม้จะฟังดูไม่น่าเกรงขามเท่ามีการอำนาจสั่งทหารหลายหมื่นคน ทว่านั่นเป็นตำแหน่งที่ได้อยู่ใต้ฝ่าพระบาทเชียวนะ เป็นผู้ดูแลเมืองหลวง ไม่ต้องเสี่ยงตายอยู่บนสนามรบ

เฉียวม่อกลับตกอยู่ในความเงียบ จิตใจสับสนอลหม่านไปครู่หนึ่ง

ทุกอย่างที่นางทำไปตั้งมากตั้งมายก็เพื่อที่จะได้อยู่ที่ค่ายทหารเหนือ ยามนี้กลับต้องการให้นางไปจากที่นี่ เช่นนั้นไม่ใช่ว่านางเสียแรงเปล่าหรอกหรือ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย