เมื่อพูดถึงการปรนนิบัติ เซียวอวี้ถึงได้เห็นว่าสีหน้าของนางมีการเปลี่ยนแปลง
ถึงแม้ว่าความเปลี่ยนนั้นจะเล็กน้อยมาก ก็ยังไม่อาจรอดพ้นสายตาเขาไปได้
นั่นเป็นสีหน้าของความตื่นตระหนก ขัดแย้ง และต่อต้านขัดขืน
เซียวอวี้โกรธจนหัวเราะ
“ไม่ใช่ว่าเจ้าพูดได้เพียง ‘เพคะ’ หรอกรึ”
แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูลำบากใจอยู่บ้าง
นางอ้าปาก ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไร
ยามนี้พูดให้น้อยจึงจะดี
โชคดีที่เซียวอวี้ทนการปฏิบัติอย่างเย็นชาของนางไม่ไหว ไม่นานก็จากไป
สองวันต่อมา
เฉียวม่อก็มาถึงเมืองหลวงและรับตำแหน่งเป็นองครักษ์อารักขาประตู
นางเข้าวังเพื่อแสดงความขอบคุณเป็นสิ่งแรก
ความรู้สึกที่เซียวอวี้มีต่อนางนั้นย้อนแย้งเป็นอย่างมาก
ด้านหนึ่ง หากไม่ใช่นางเปิดเผยข้อมูลออกมา เขาไม่มีทางหาฮองเฮาพบได้เร็วขนาดนี้
ทว่าอีกด้านหนึ่ง ผู้ที่หักหลังคนอื่นย่อมไม่ใช่คนดี
เขาไม่เคยโอ้อวดว่าตนเป็นสุภาพบุรุษผู้มีคุณธรรม ทว่าเขาดูถูกคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้
ก่อนที่เฉียวม่อจะออกจากวัง คนของตำหนักหย่งเหอก็ส่งคนมารับนาง
นางเดาไว้แต่แรกแล้ว
เมื่อเข้ามาในตำหนักหย่งเหอก็พบเพียงศิษย์พี่ผู้เดียวเท่านั้น
นางยังคงถวายคำนับอย่างเคารพนบนอบ
“ถวายบังคมฮองเฮาเพคะ!”
บรรยากาศที่กดดันของพระราชวัง กำแพงที่สูงใหญ่ หน้าต่างที่เปิดไว้เพียงเล็กน้อย ต่อให้เป็นยามเช้า หากไม่จุดโคมภายในตำหนักย่อมมืดสลัว
เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าที่งดงามทั้งยังแฝงความองอาจ มืดครึ่งสว่างครึ่ง
“ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับเจ้ามาก”
เฉียวม่อหัวเราะอย่างเจ็บปวด
“ศิษย์พี่ ท่านเองก็รู้ ข้าเพียงอยากอยู่ปรนนิบัติท่านอาจารย์และอาจารย์หญิงที่ชายแดนเหนือเท่านั้น ไม่รู้เหตุใดอยู่ ๆ ฝ่าบาทถึงได้ต้องการให้ข้ามารับตำแหน่งที่เมืองหลวง”
เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ดียิ่งกว่าใครทั้งนั้น เพราะเหตุใดน่ะหรือ
“องครักษ์อารักขาประตูดูแลประตูวังแต่ละประตูเป็นส่วนหนึ่งของทหารรักษาพระองค์ ต่อไปเข้าออกวังได้บ่อย ๆ มาอยู่เป็นเพื่อนข้า ไม่ดีหรือ?”
เฉียวม่อเผยรอยยิ้มออกมา
“ข้อดีก็มีเพียงเรื่องนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่ยอมรับตำแหน่งนี่เด็ดขาด!”
มุมปากเฟิ่งจิ่วเหยียนยกขึ้นเล็กน้อย
“ศิษย์น้อง พระบัญชาไม่อาจขัดขืนได้”
เฉียวม่อพยักหน้าอย่างว่าง่าย
จากนั้นนางก็เริ่มถามอย่างสงสัยอีกครั้ง “ศิษย์พี่ ฝ่าบาทดีกับท่านหรือไม่?”
“ดีกับไม่ดี เจ้าใช้อะไรเป็นเกณฑ์ตัดสิน?” เฟิ่งจิ่วเหยียนถามกลับ
เฉียวม่อทำเป็นไร้เดียงสา “ถ้าเป็นอย่างพี่ใหญ่ต้วนย่อมดีที่สุดแล้ว”
คนที่คุ้นเคยกับเจ้าที่สุด ย่อมรู้ดีว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้เจ้าเจ็บปวดอย่างที่สุด
ใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนราวกับเกิดรอยฉีกขาด เลือดข้างในไหลรินออกมาเป็นสายจนเกิดความเจ็บปวด
ทว่าภายนอกนางกลับไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อย นางแสร้งพูดอย่างสงบนิ่ง
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...