ตำหนักหย่งเหอ
เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังรับประทานอาหาร ซุนหมัวมัวหัวหน้านางกำนัลก็ยกน้ำแกงเข้ามา
“ฮองเฮา นางสนมเจียงให้คนนำมาส่ง บอกว่าท่านต้องชิมให้ได้นะเพคะ”
เฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดสายตามองอาหารอื่น ๆ บนโต๊ะ
“วางไว้ตรงนั้นก็แล้วกัน”
นางตอบสนองอย่างเฉยเมย
หลังซุนหมัวมัวออกไปแล้ว เหลียนซวงก็รีบนำเข็มเงินมาทดสอบพิษทันที
ก่อนหน้านี้ในน้ำแกงมีพิษวารีกวนอิม โชคดีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเคยออกท่องยุทธภพมาก่อนจึงทดสอบพิษก่อนรับประทานอาหารจนเป็นนิสัย
ส่งผลให้เหลียนซวงหวาดระแวงไปหมด สงสัยว่าในน้ำแกงนี้จะมีพิษด้วยเหมือนกัน
เข็มเงินไม่เปลี่ยนสี
เฟิ่งจิ่วเหยียนตักมาหนึ่งช้อน นำมาประชิดจมูกดมกลิ่น
“ผสมยาแก้พิษวารีกวนอิม”
“ยาแก้พิษ? ฮองเฮา หรือนางสนมเจียงจะรู้แล้ว...”
เฟิ่งจิ่วเหยียนคีบเนื้อขึ้นมาชิ้นหนึ่ง “ชัดเจนมาก คนบงการคนวางยาพิษก็คือนาง”
“หา? เช่นนั้นนางยัง...”
“ธาตุแท้ไม่ใช่คนเลวร้าย แบ่งแยกรักชังชัดเจน” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
นิสัยของนางสนมเจียงกลับเหมือนสหายเก่าคนหนึ่งของนางมากทีเดียว
“ฮองเฮา ต้องสืบหาตัวคนที่รับเงินมาวางยาพิษให้ได้นะเพคะ!”
เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าราบเรียบ “ไม่รีบ ช่องโหว่ของตำหนักหย่งเหอมีนิดเดียวเสียที่ไหน”
หลังจากนั้น เหลียนซวงยังเตือนนางว่า
“ฮองเฮา ช่วงนี้ในวังมีการตรวจตราการเข้าออกเข้มงวดกว่าเดิมเพราะกำลังตามจับนักฆ่านะเพคะ”
“อืม”
เฟิ่งจิ่วเหยียนมุ่นคิ้ว การแก้พิษคราวหน้าเกรงว่าคงอันตรายกว่าเดิม
……
ตำหนักซวงหวา
นางสนมเจียงมองดูฉากบังตาทองคำนั้นอย่างใจลอย
สาวใช้ประคองน้ำชาเข้ามา
“พระสนม นำยาแก้พิษผสมน้ำแกงส่งไปแล้วเพคะ ฮองเฮาคงไม่เป็นไรแล้ว ท่านอย่ากังวลไปเลยเพคะ”
นางสนมเจียงประคองถ้วยชาขึ้นมาจิบไปคำหนึ่ง กลืนลงคอแล้วขมขื่นหาใดเปรียบ
“ฮองเฮารู้ว่าท่านพ่อกับพี่ชายข้า...”
หลิวซื่อเหลียงบอกกล่าวคำพูดของฮองเฮาให้นางฟังหมดแล้ว
ยามนั้นนางน้ำตาคลอหน่วย
“ใคร ๆ ล้วนรู้ว่าเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานแล้ว ข้าประจบเอาใจหวงกุ้ยเฟยอย่างไร้ขอบเขต ไม่มีศักดิ์ศรีเหลืออยู่เลยสักนิด
“แท้จริงแล้ว ข้าแค่ไม่อยากสูญเสียคนใกล้ชิดไปอีกแม้แต่คนเดียวก็เท่านั้น
“ข้ามีแต่ต้องได้รับความโปรดปรานจึงจะสามารถขอร้องให้ฝ่าบาทย้ายท่านพ่อกับพี่ชายกลับมาจากชายแดน
“แต่พวกพี่ชายของข้ากลับรอไม่ถึงวันที่ข้าได้ดิบได้ดี ยามนี้เหลือเพียงท่านพ่อคนเดียว...”
นางสนมเจียงพูดไปพูดมาก็น้ำตาร่วงเผาะ
สาวใช้รีบส่งผ้าเช็ดหน้ามาให้
“พระสนมอย่าเศร้าใจไปเลยเพคะ ท่านร้องไห้ บ่าวก็พลอยอยากร้องไห้ตามไปด้วย”
นางสนมเจียงยิ้มขื่นทั้งน้ำตา
“คนที่เหนือความคาดหมายข้ามากที่สุดก็คือฮองเฮา
“คิดไม่ถึงว่าฮองเฮาต้องการให้ฝ่าบาทพระราชทานความเมตตาอย่างทั่วถึงจริง ๆ
“ฮองเฮาเป็นคนเช่นไรกันแน่ ข้าสงสัยใคร่รู้ในตัวฮองเฮายิ่งนัก”
“ไทเฮา นั่นเป็นแจกันที่ท่านโปรดปรานมากที่สุดแล้วนะเพคะ!”
“ส่งไปเถอะ! นอกจากนี้ บอกให้ซิ่วหว่านทำตัวฉลาดหน่อย แม้ฝ่าบาทจะสั่งกักบริเวณฮองเฮา ทั้งยังไม่อนุญาตให้ใครมาเยี่ยม แต่ก็ต้องแอบส่งอะไรเข้าไปได้บ้าง”
“เพคะ ไทเฮา!”
หารู้ไม่ว่าคราวนี้ไม่จำเป็นต้องให้ไทเฮาเตือนสติ หนิงเฟยก็แอบส่งสิ่งของให้ตำหนักหย่งเหออย่างลับ ๆ ไปแล้ว
นอกจากนี้ยังไม่ได้มีแค่หนิงเฟย
วันนี้ จ้าวเฉียนอยู่เวร ระหว่างทางเจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่ง
“ใต้เท้าซู!”
คือบิดาของซูกุ้ยเหริน ซูก่วงจื้อ รองเจ้ากรมพิธีการ
เขากอดกล่องไม้จันทน์ไว้แนบอก
จ้าวเฉียนคุ้นเคยกับฉากตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมาใต้เท้าซูมักมาดักเขาระหว่างทางไปวังอยู่บ่อย ๆ เพื่อไหว้วานให้เขาไปส่งของกำนัลให้หวงกุ้ยเฟย หวังว่าจะเปิดโอกาสให้ซูกุ้ยเหรินได้ปรนนิบัติฝ่าบาทเข้าบรรทม
ไม่เพียงแค่เขา คนในครอบครัวของสนมคนอื่น ๆ ก็ทำแบบนี้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ตำหนักหลิงเซียวจึงได้ผลประโยชน์ไปมากมาย
จ้าวเฉียนนึกว่าคราวนี้จะเป็นเหมือนที่ผ่านมาจึงยื่นมือออกไป
“ส่งให้หวงกุ้ยเฟยสินะขอรับ พอดีเลย...”
ใต้เท้าซูพลันถอยหลังไปสองก้าว ทำเหมือนเห็นเขาเป็นโจรร้ายกระนั้น
“ไม่ใช่ ๆ ๆ จ้าวกงกงเข้าใจผิดแล้ว สิ่งนี้...สิ่งนี้จะไหว้วานคนส่งไปให้ซูกุ้ยเหริน”
จ้าวเฉียนไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อเขาหันหลังกลับมาอีกครั้งกลับพบว่าใต้เท้าซูไปขวางทางขันทีผู้หนึ่งด้วยท่าทางเอาอกเอาใจเต็มที่
เมื่อมองอย่างละเอียด
นั่นไม่ใช่หัวหน้าขันทีของตำหนักหย่งเหอหรอกรึ!
จ้าวเฉียนตกใจ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...