เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 32

ตำหนักหย่งเหอ

เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังรับประทานอาหาร ซุนหมัวมัวหัวหน้านางกำนัลก็ยกน้ำแกงเข้ามา

“ฮองเฮา นางสนมเจียงให้คนนำมาส่ง บอกว่าท่านต้องชิมให้ได้นะเพคะ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดสายตามองอาหารอื่น ๆ บนโต๊ะ

“วางไว้ตรงนั้นก็แล้วกัน”

นางตอบสนองอย่างเฉยเมย

หลังซุนหมัวมัวออกไปแล้ว เหลียนซวงก็รีบนำเข็มเงินมาทดสอบพิษทันที

ก่อนหน้านี้ในน้ำแกงมีพิษวารีกวนอิม โชคดีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเคยออกท่องยุทธภพมาก่อนจึงทดสอบพิษก่อนรับประทานอาหารจนเป็นนิสัย

ส่งผลให้เหลียนซวงหวาดระแวงไปหมด สงสัยว่าในน้ำแกงนี้จะมีพิษด้วยเหมือนกัน

เข็มเงินไม่เปลี่ยนสี

เฟิ่งจิ่วเหยียนตักมาหนึ่งช้อน นำมาประชิดจมูกดมกลิ่น

“ผสมยาแก้พิษวารีกวนอิม”

“ยาแก้พิษ? ฮองเฮา หรือนางสนมเจียงจะรู้แล้ว...”

เฟิ่งจิ่วเหยียนคีบเนื้อขึ้นมาชิ้นหนึ่ง “ชัดเจนมาก คนบงการคนวางยาพิษก็คือนาง”

“หา? เช่นนั้นนางยัง...”

“ธาตุแท้ไม่ใช่คนเลวร้าย แบ่งแยกรักชังชัดเจน” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

นิสัยของนางสนมเจียงกลับเหมือนสหายเก่าคนหนึ่งของนางมากทีเดียว

“ฮองเฮา ต้องสืบหาตัวคนที่รับเงินมาวางยาพิษให้ได้นะเพคะ!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าราบเรียบ “ไม่รีบ ช่องโหว่ของตำหนักหย่งเหอมีนิดเดียวเสียที่ไหน”

หลังจากนั้น เหลียนซวงยังเตือนนางว่า

“ฮองเฮา ช่วงนี้ในวังมีการตรวจตราการเข้าออกเข้มงวดกว่าเดิมเพราะกำลังตามจับนักฆ่านะเพคะ”

“อืม”

เฟิ่งจิ่วเหยียนมุ่นคิ้ว การแก้พิษคราวหน้าเกรงว่าคงอันตรายกว่าเดิม

……

ตำหนักซวงหวา

นางสนมเจียงมองดูฉากบังตาทองคำนั้นอย่างใจลอย

สาวใช้ประคองน้ำชาเข้ามา

“พระสนม นำยาแก้พิษผสมน้ำแกงส่งไปแล้วเพคะ ฮองเฮาคงไม่เป็นไรแล้ว ท่านอย่ากังวลไปเลยเพคะ”

นางสนมเจียงประคองถ้วยชาขึ้นมาจิบไปคำหนึ่ง กลืนลงคอแล้วขมขื่นหาใดเปรียบ

“ฮองเฮารู้ว่าท่านพ่อกับพี่ชายข้า...”

หลิวซื่อเหลียงบอกกล่าวคำพูดของฮองเฮาให้นางฟังหมดแล้ว

ยามนั้นนางน้ำตาคลอหน่วย

“ใคร ๆ ล้วนรู้ว่าเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานแล้ว ข้าประจบเอาใจหวงกุ้ยเฟยอย่างไร้ขอบเขต ไม่มีศักดิ์ศรีเหลืออยู่เลยสักนิด

“แท้จริงแล้ว ข้าแค่ไม่อยากสูญเสียคนใกล้ชิดไปอีกแม้แต่คนเดียวก็เท่านั้น

“ข้ามีแต่ต้องได้รับความโปรดปรานจึงจะสามารถขอร้องให้ฝ่าบาทย้ายท่านพ่อกับพี่ชายกลับมาจากชายแดน

“แต่พวกพี่ชายของข้ากลับรอไม่ถึงวันที่ข้าได้ดิบได้ดี ยามนี้เหลือเพียงท่านพ่อคนเดียว...”

นางสนมเจียงพูดไปพูดมาก็น้ำตาร่วงเผาะ

สาวใช้รีบส่งผ้าเช็ดหน้ามาให้

“พระสนมอย่าเศร้าใจไปเลยเพคะ ท่านร้องไห้ บ่าวก็พลอยอยากร้องไห้ตามไปด้วย”

นางสนมเจียงยิ้มขื่นทั้งน้ำตา

“คนที่เหนือความคาดหมายข้ามากที่สุดก็คือฮองเฮา

“คิดไม่ถึงว่าฮองเฮาต้องการให้ฝ่าบาทพระราชทานความเมตตาอย่างทั่วถึงจริง ๆ

“ฮองเฮาเป็นคนเช่นไรกันแน่ ข้าสงสัยใคร่รู้ในตัวฮองเฮายิ่งนัก”

“ไทเฮา นั่นเป็นแจกันที่ท่านโปรดปรานมากที่สุดแล้วนะเพคะ!”

“ส่งไปเถอะ! นอกจากนี้ บอกให้ซิ่วหว่านทำตัวฉลาดหน่อย แม้ฝ่าบาทจะสั่งกักบริเวณฮองเฮา ทั้งยังไม่อนุญาตให้ใครมาเยี่ยม แต่ก็ต้องแอบส่งอะไรเข้าไปได้บ้าง”

“เพคะ ไทเฮา!”

หารู้ไม่ว่าคราวนี้ไม่จำเป็นต้องให้ไทเฮาเตือนสติ หนิงเฟยก็แอบส่งสิ่งของให้ตำหนักหย่งเหออย่างลับ ๆ ไปแล้ว

นอกจากนี้ยังไม่ได้มีแค่หนิงเฟย

วันนี้ จ้าวเฉียนอยู่เวร ระหว่างทางเจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่ง

“ใต้เท้าซู!”

คือบิดาของซูกุ้ยเหริน ซูก่วงจื้อ รองเจ้ากรมพิธีการ

เขากอดกล่องไม้จันทน์ไว้แนบอก

จ้าวเฉียนคุ้นเคยกับฉากตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง

ที่ผ่านมาใต้เท้าซูมักมาดักเขาระหว่างทางไปวังอยู่บ่อย ๆ เพื่อไหว้วานให้เขาไปส่งของกำนัลให้หวงกุ้ยเฟย หวังว่าจะเปิดโอกาสให้ซูกุ้ยเหรินได้ปรนนิบัติฝ่าบาทเข้าบรรทม

ไม่เพียงแค่เขา คนในครอบครัวของสนมคนอื่น ๆ ก็ทำแบบนี้เช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ตำหนักหลิงเซียวจึงได้ผลประโยชน์ไปมากมาย

จ้าวเฉียนนึกว่าคราวนี้จะเป็นเหมือนที่ผ่านมาจึงยื่นมือออกไป

“ส่งให้หวงกุ้ยเฟยสินะขอรับ พอดีเลย...”

ใต้เท้าซูพลันถอยหลังไปสองก้าว ทำเหมือนเห็นเขาเป็นโจรร้ายกระนั้น

“ไม่ใช่ ๆ ๆ จ้าวกงกงเข้าใจผิดแล้ว สิ่งนี้...สิ่งนี้จะไหว้วานคนส่งไปให้ซูกุ้ยเหริน”

จ้าวเฉียนไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อเขาหันหลังกลับมาอีกครั้งกลับพบว่าใต้เท้าซูไปขวางทางขันทีผู้หนึ่งด้วยท่าทางเอาอกเอาใจเต็มที่

เมื่อมองอย่างละเอียด

นั่นไม่ใช่หัวหน้าขันทีของตำหนักหย่งเหอหรอกรึ!

จ้าวเฉียนตกใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย