เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 38

เหล่าสนมล้วนทราบเรื่องที่ฮองเฮาถูกสั่งให้คัดกฎของวังหลวง

พวกนางยังรู้รายละเอียดลึกกว่านั้น

“ของกำนัลเหล่านั้นไม่ได้มีแค่คนในครอบครัวพวกเราที่ส่งไป พวกเราเองก็ส่งไปด้วยเช่นกัน แต่ฮองเฮากลับไม่ได้พาดพิงถึงพวกเรา เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติต่อพวกเราด้วยความจริงใจ”

“คนตำหนักหย่งเหอพูดว่า ฮองเฮาเข้าอกเข้าใจความลำบากของพวกเรา เดิมทีฮองเฮาก็ตั้งใจจะนำสิ่งของเหล่านั้นมาให้พวกเราอยู่แล้ว ไม่ได้นำไปใช้แม้แต่ชิ้นเดียว”

“ฮองเฮายังยอมรับโทษคนเดียว ยังรับผิดแทนพวกเราอีกด้วย...”

เหล่าสนมยิ่งพูดก็ยิ่งซาบซึ้ง บางคนถึงกับขอบตาแดงเรื่อ

อย่างไรเสียในวังหลวงแห่งนี้ ความจริงใจหายากยิ่งนัก

หนิงเฟยเสียดสีพวกนางอย่างเย่อหยิ่ง

“มีแค่พวกเจ้านั่นแหละที่หัวอ่อนหลอกง่าย ข้ารู้แต่ว่าไม่มีผลประโยชน์ไม่ตื่นเช้า สุดท้ายฮองเฮาก็ไม่ถูกลงโทษไม่ใช่รึ? ตอนนี้พวกเจ้าซาบซึ้งในบุญคุณของนาง เช่นนี้ก็เข้าทางนางพอดี

“ก็แค่ต่างฝ่ายต่างใช้ประโยชน์กันและกัน เติมเต็มความต้องการของอีกฝ่ายก็เท่านั้น คู่ควรให้เรียกว่าจริงใจด้วยหรือ?”

เสียนเฟยมีรอยยิ้มประดับใบหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ

“ไม่ว่าจะพูดเช่นไร ฝ่าบาทไม่ได้ตามเอาผิดคนในครอบครัวพวกเราก็เป็นเรื่องดีมากแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฮองเฮายอมรับความผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว การคัดกฎวังหลวงร้อยรอบนั้น พวกเราสมควรช่วยเหลือ”

หนิงเฟยขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

“บังเอิญจริง ๆ หลายวันนี้ข้าต้องช่วยท่านป้าคัดพระไตรปิฎกพอดี”

ปกตินางปฏิบัติต่อเสียนเฟยประหนึ่งพี่น้องแท้ ๆ ก็เพราะคิดว่าเสียนเฟยมีตำแหน่งสูงส่ง คู่ควรกับนาง

คิดไม่ถึงว่าในเวลาสำคัญแบบนี้ เสียนเฟยกลับไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับตนเอง

หนิงเฟยรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างจึงปลีกตัวจากไปก่อน

หลังนางจากไปแล้ว นางสนมเจียงก็กล่าวเห็นพ้องคำพูดของเสียนเฟย

“พี่สาวเสียนเฟยพูดถูก ครานี้ฝ่าบาทเสด็จเยือนแต่ละตำหนักก็เป็นเพราะการผลักดันของฮองเฮา หม่อมฉันยินดีช่วยแบ่งคัดกฎของวังหลวงยี่สิบรอบ”

เสียนเฟยผงกศีรษะยิ้ม ๆ

สนมคนอื่น ๆ กล่าวตามมาติด ๆ

“หม่อมฉันก็ยินดีช่วยเหลือเหมือนกัน!”

“หม่อมฉันก็ด้วย! ท่านพ่อเขียนจดหมายมาบอกว่าเสียใจนักที่นำข้าวของล้ำค่าไปให้ตำหนักหลิงเซียว สองปีนี้ ตำหนักหลิงเซียวรู้จักแต่รับเงิน แต่กลับไม่เคยแบ่งปันความโปรดปรานให้พวกเราแม้แต่น้อย ต่อให้ฮองเฮาจะฮุบสมบัติเหล่านั้น หม่อมฉันก็ยินดีมอบให้ฮองเฮา เพราะฮองเฮาทำให้หม่อมฉันได้ร่วมมื้อเย็นกับฝ่าบาทสมใจหมาย!”

“ใช่แล้ว! หม่อมฉันก็ส่งข้าวของให้หวงกุ้ยเฟยมากมายเหมือนกัน แต่กลับได้รับเพียงความไม่แยแสกลับคืนมา ราวกับว่าพวกเราไม่คู่ควรไปแย่งชิงความโปรดปรานกับนางกระนั้น”

“พี่สาวเสียนเฟย ลายมือหม่อมฉันไม่งามนัก ถ้าฮองเฮาไม่รังเกียจ หม่อมฉันยินดีช่วยคัดสิบรอบ”

ตำหนักหย่งเหอ

การคัดกฎของวังหลวงหนึ่งร้อยรอบหาใช่การลงโทษหนักหนาสาหัสแต่อย่างใด

แต่สำหรับเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้ว ยังมิสู้การโบยยี่สิบไม้ให้จบเรื่อง

มิใช่นางเหนื่อยหน่ายการคัดอักษร แต่เป็นเพราะนางต้องเลียนแบบลายมือเวยเฉียง ทำให้นางต้องเสียเวลาไปไม่น้อย

โชคดีที่มีเหลียนซวงอยู่ด้วย

ยามเที่ยง แต่ละตำหนักส่งคนมาแจ้งว่ายินดีช่วยแบ่งเบาภาระนาง

เฟิ่งจิ่วเหยียนปฏิเสธไปทั้งหมด

ฮองเฮาถูกกักบริเวณ ฮ่องเต้สั่งห้ามไม่ให้ใครมาเยี่ยม แต่กลับอนุญาตให้หวงกุ้ยเฟยมาได้ เห็นได้ชัดว่าในพระทัยฮ่องเต้ หวงกุ้ยเฟยพิเศษกว่าคนอื่น

ซุนหมัวมัวอิจฉาคนในตำหนักหลิงเซียวเหลือจะกล่าว คนพวกนั้นแต่ละคนล้วนเชิดหน้าราวกับคนเหนือคน

หากนางสามารถไปปรนนิบัติหวงกุ้ยเฟยได้ก็ดีน่ะสิ

ติดตามฮองเฮา เกรงว่าจนตายนางก็คงได้เจอฮ่องเต้แค่ไม่กี่ครั้ง

สายตาหวงกุ้ยเฟยมองข้ามซุนหมัวมัว ตรงเข้าไปในตำหนักหลัก

“หม่อมฉันถวายบังคับฮองเฮาเพคะ”

น้ำเสียงนางราวนกขมิ้น ไพเราะจับจิต

นี่เป็นครั้งแรกที่เฟิ่งจิ่วเหยียนได้เห็นหวงกุ้ยเฟย

นางนั่งบนตำแหน่งประธาน กวาดสายตามองประเมินคนตรงหน้า

เหมือนที่นางคิดไว้ หวงกุ้ยเฟยงามพิลาสหยาดเยิ้ม ชวนรักใคร่เสน่หา บนลำคอราวกับประพรมด้วยร่องรอยของจุมพิต

เกิดมามีดวงหน้างดงามอ่อนหวาน แต่กลับกระทำการชั่วร้ายอุกอาจ

นี่ก็คือส่วนผสมระหว่างความบริสุทธิ์และความเร่าร้อนแบบที่บุรุษชมชอบที่สุด

ไม่แปลกเลยที่ได้รับความโปรดปรานเพียงผู้เดียวมาหลายปี โดยไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้

เดิมนั้นพวกนางต่างไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แต่สตรีผู้นี้ใช้วิธีการสกปรกแบบนั้นมาทำร้ายเวยเฉียง...

เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งสติข่มความปรารถนาอยากฆ่าคนอย่างรุนแรงลงไป

“หวงกุ้ยเฟย นั่งสิ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย