เหล่าสนมล้วนทราบเรื่องที่ฮองเฮาถูกสั่งให้คัดกฎของวังหลวง
พวกนางยังรู้รายละเอียดลึกกว่านั้น
“ของกำนัลเหล่านั้นไม่ได้มีแค่คนในครอบครัวพวกเราที่ส่งไป พวกเราเองก็ส่งไปด้วยเช่นกัน แต่ฮองเฮากลับไม่ได้พาดพิงถึงพวกเรา เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติต่อพวกเราด้วยความจริงใจ”
“คนตำหนักหย่งเหอพูดว่า ฮองเฮาเข้าอกเข้าใจความลำบากของพวกเรา เดิมทีฮองเฮาก็ตั้งใจจะนำสิ่งของเหล่านั้นมาให้พวกเราอยู่แล้ว ไม่ได้นำไปใช้แม้แต่ชิ้นเดียว”
“ฮองเฮายังยอมรับโทษคนเดียว ยังรับผิดแทนพวกเราอีกด้วย...”
เหล่าสนมยิ่งพูดก็ยิ่งซาบซึ้ง บางคนถึงกับขอบตาแดงเรื่อ
อย่างไรเสียในวังหลวงแห่งนี้ ความจริงใจหายากยิ่งนัก
หนิงเฟยเสียดสีพวกนางอย่างเย่อหยิ่ง
“มีแค่พวกเจ้านั่นแหละที่หัวอ่อนหลอกง่าย ข้ารู้แต่ว่าไม่มีผลประโยชน์ไม่ตื่นเช้า สุดท้ายฮองเฮาก็ไม่ถูกลงโทษไม่ใช่รึ? ตอนนี้พวกเจ้าซาบซึ้งในบุญคุณของนาง เช่นนี้ก็เข้าทางนางพอดี
“ก็แค่ต่างฝ่ายต่างใช้ประโยชน์กันและกัน เติมเต็มความต้องการของอีกฝ่ายก็เท่านั้น คู่ควรให้เรียกว่าจริงใจด้วยหรือ?”
เสียนเฟยมีรอยยิ้มประดับใบหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ
“ไม่ว่าจะพูดเช่นไร ฝ่าบาทไม่ได้ตามเอาผิดคนในครอบครัวพวกเราก็เป็นเรื่องดีมากแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฮองเฮายอมรับความผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว การคัดกฎวังหลวงร้อยรอบนั้น พวกเราสมควรช่วยเหลือ”
หนิงเฟยขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“บังเอิญจริง ๆ หลายวันนี้ข้าต้องช่วยท่านป้าคัดพระไตรปิฎกพอดี”
ปกตินางปฏิบัติต่อเสียนเฟยประหนึ่งพี่น้องแท้ ๆ ก็เพราะคิดว่าเสียนเฟยมีตำแหน่งสูงส่ง คู่ควรกับนาง
คิดไม่ถึงว่าในเวลาสำคัญแบบนี้ เสียนเฟยกลับไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับตนเอง
หนิงเฟยรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างจึงปลีกตัวจากไปก่อน
หลังนางจากไปแล้ว นางสนมเจียงก็กล่าวเห็นพ้องคำพูดของเสียนเฟย
“พี่สาวเสียนเฟยพูดถูก ครานี้ฝ่าบาทเสด็จเยือนแต่ละตำหนักก็เป็นเพราะการผลักดันของฮองเฮา หม่อมฉันยินดีช่วยแบ่งคัดกฎของวังหลวงยี่สิบรอบ”
เสียนเฟยผงกศีรษะยิ้ม ๆ
สนมคนอื่น ๆ กล่าวตามมาติด ๆ
“หม่อมฉันก็ยินดีช่วยเหลือเหมือนกัน!”
“หม่อมฉันก็ด้วย! ท่านพ่อเขียนจดหมายมาบอกว่าเสียใจนักที่นำข้าวของล้ำค่าไปให้ตำหนักหลิงเซียว สองปีนี้ ตำหนักหลิงเซียวรู้จักแต่รับเงิน แต่กลับไม่เคยแบ่งปันความโปรดปรานให้พวกเราแม้แต่น้อย ต่อให้ฮองเฮาจะฮุบสมบัติเหล่านั้น หม่อมฉันก็ยินดีมอบให้ฮองเฮา เพราะฮองเฮาทำให้หม่อมฉันได้ร่วมมื้อเย็นกับฝ่าบาทสมใจหมาย!”
“ใช่แล้ว! หม่อมฉันก็ส่งข้าวของให้หวงกุ้ยเฟยมากมายเหมือนกัน แต่กลับได้รับเพียงความไม่แยแสกลับคืนมา ราวกับว่าพวกเราไม่คู่ควรไปแย่งชิงความโปรดปรานกับนางกระนั้น”
“พี่สาวเสียนเฟย ลายมือหม่อมฉันไม่งามนัก ถ้าฮองเฮาไม่รังเกียจ หม่อมฉันยินดีช่วยคัดสิบรอบ”
ตำหนักหย่งเหอ
การคัดกฎของวังหลวงหนึ่งร้อยรอบหาใช่การลงโทษหนักหนาสาหัสแต่อย่างใด
แต่สำหรับเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้ว ยังมิสู้การโบยยี่สิบไม้ให้จบเรื่อง
มิใช่นางเหนื่อยหน่ายการคัดอักษร แต่เป็นเพราะนางต้องเลียนแบบลายมือเวยเฉียง ทำให้นางต้องเสียเวลาไปไม่น้อย
โชคดีที่มีเหลียนซวงอยู่ด้วย
ยามเที่ยง แต่ละตำหนักส่งคนมาแจ้งว่ายินดีช่วยแบ่งเบาภาระนาง
เฟิ่งจิ่วเหยียนปฏิเสธไปทั้งหมด


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...