หวงกุ้ยเฟยชะงักฝีเท้า จ้องมองผู้ที่อยู่บนตำแหน่งประธานนิ่ง
ฝ่ายหลังยังคงมีสีหน้าเฉยเมย ไม่รู้เพราะเหตุใด นางพลันรู้สึกหนาววาบขึ้นมา
เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยแช่มช้า
“ฝ่าบาทพระราชทานความเมตตาอย่างทั่วถึง คนในครอบครัวเหล่าสนมไม่ส่งของกำนัลล้ำค่าไปให้ตำหนักหลิงเซียวอีก เห็นได้ชัดว่าเจ้าถือสาเรื่องนี้
“แต่เจ้าปากไม่ตรงกับใจ
“ต่อให้ถือสาและอยากกำจัดข้าสักแค่ไหน แต่ก็ยังต้องทำเป็นไม่แยแส
“หวงกุ้ยเฟย เจ้าก็เหมือนกับสุนัขเฝ้าบ้านที่ถูกฝึกจนเชื่องตัวหนึ่ง ทั้งที่หวาดกลัวแท้ ๆ แต่ก็ยังต้องตะกุยขาเห่าคน”
สีหน้าหวงกุ้ยเฟยเปลี่ยนเป็นเย็นชา เดินขึ้นหน้ามาสองก้าว
“เจ้าว่าอะไรนะ!”
เฟิ่งเวยเฉียงนางคนชั้นต่ำนี่ ถึงกับกล้าพูดว่านางเป็นสุนัขตัวหนึ่ง!
สาวใช้ชุนเหอก็ตกใจเช่นกัน
คิดไม่ถึงว่าฮองเฮาจะกล้าพูดจาเช่นนี้กับหวงกุ้ยเฟย!
ในวังหลวงแห่งนี้ แม้แต่ไทเฮาก็ยังต้องเอาใจหวงกุ้ยเฟยเลยนะ!
เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องนางตรง ๆ พลางยิ้มหยัน
“ข้าพูดว่าเจ้าเหมือนสุนัขเฝ้าบ้าน มีแค่ฟันคม ๆ แต่กลับกัดคนไม่เป็น”
“เจ้า...”
เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เปิดโอกาสให้นางพูด ตวัดสายตาคมกริบมาให้
“หวงกุ้ยเฟยกล่าวหาว่าข้าไม่บริสุทธิ์ เจ้ามีหลักฐานอันใดงั้นรึ?
“อาศัยแค่เสื้อชั้นในตัวนี้?
“แต่ผู้ใดสามารถเป็นพยานว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ผู้ใดสามารถยืนยันว่านี่เป็นของของข้า มิใช่ของที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมา?
“สำคัญที่สุดคือ ข่าวลือว่าข้าถูกโจรภูเขาลักพาตัว ผู้คนลืมไปนานแล้ว หวงกุ้ยเฟย พวกเราควรมองไปข้างหน้า เอาแต่ยึดอดีตไว้ไม่ปล่อย นั่นก็คือการไร้ความสามารถของเจ้า!”
หวงกุ้ยเฟยหยัดร่างเหยียดตรง ดวงเนตรงามเลิกขึ้น หัวเราะเดือดดาลโต้กลับฮองเฮาที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธาน
“ข้าไร้ความสามารถ?”
รอยยิ้มตรงมุมปากนางเข้มข้นกว่าเดิม กลบเกลื่อนความโกรธเกรี้ยวสุดขีดเอาไว้
จากนั้นก็หมุนร่าง กระโปรงปักลายเมฆมงคลสีทองวาดวงโค้งครึ่งวงกลมกลางอากาศ
“ชุนเหอ กลับตำหนักหลิงเซียว!”
“เพ เพคะ!” ชุนเหอตกตะลึงในความหน้าหนาไร้ยางอายของฮองเฮาอย่างยิ่ง
ออกมาจากตำหนักหย่งเหอ
ชุนเหอลดเสียงโน้มน้าว
“พระสนม ท่านอย่ากริ้วไปเลยเพคะ
“ฮองเฮาผู้นั้นทั้งที่ถูกโจรภูเขาลักพาตัวไป ชื่อเสียงด่างพร้อยแล้วแท้ ๆ ยังกล้าพูดว่าไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนั้น ไม่ต่างอันใดจากปิดหูขโมยกระดิ่ง หลอกลวงทั้งตนเองและผู้อื่น”
หวงกุ้ยเฟยขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวหาม สายตาที่มองไปทางตำหนักหย่งเหอราวกับเคลือบด้วยยาพิษ
นางจะทำให้เฟิ่งเวยเฉียงสตรีชั้นต่ำนั่นได้เห็นว่า คนที่มาล่วงเกินหวงกุ้ยเฟยอย่างนางจะต้องพบจุดจบเช่นใด
เวลาเดียวกัน ภายในตำหนักหย่งเหอ
เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเสื้อชั้นในเปื้อนเลือดนั้น ดวงตาแดงเรื่อ สองมือกำแน่นเป็นหมัด
เปรี๊ยะ!
นางฟาดฝ่ามือลงไป ทำให้โต๊ะน้ำชาปริแตกด้วยมือเปล่า
เหลียนซวงเห็นเช่นนั้นก็อ้าปากตาค้าง
พลังฝ่ามือของฮองเฮาช่างน่าตระหนกนัก!
ขณะเดียวกันนางก็รู้สึกทั้งเศร้าโศกและโกรธแค้น ไม่อาจทำใจมองเสื้อชั้นในตัวนั้นได้
“รอดูไปเถอะ ฮองเฮาไม่ร้อนใจ ข้าจะต้องร้อนใจไปไย”
กุ้ยหมัวมัวกลับไม่เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้
นางใคร่ครวญเล็กน้อยก็เอ่ยว่า
“ไทเฮา ผลกระทบจากเรื่องก่อนวันอภิเษกสมรสของฮองเฮาไม่อาจมองข้ามไปได้เลยนะเพคะ”
ไทเฮาไม่เห็นด้วย
“บุตรีตระกูลเฟิ่งแต่งเข้าวังเป็นฮองเฮาแล้ว ใครยังจะกล้าวิพากษ์วิจารณ์?”
กุ้ยหมัวมัวค้อมกายลงต่ำกว่าเดิม
“ไทเฮาอาจไม่ทราบ สองวันนี้มีข่าวลือเรื่องที่ฮองเฮาสูญเสียพรหมจรรย์แพร่สะพัดในวังหลวงเพคะ”
ไทเฮาพลันมุ่นคิ้ว
“มีเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? ฮองเฮารู้เรื่องหรือไม่?”
กุ้ยหมัวมัวพยักหน้า
“รู้เพคะ แต่หม่อมฉันกังวลว่า ไม่ว่าฮองเฮาจะทำเช่นไรก็ไม่อาจหยุดยั้งคำวิจารณ์ของผู้คนได้”
“คงเป็นฝีมือหลิงเยี่ยนเอ๋อร์นั่นอีกละสิ!” ไทเฮาเอ่ยเสียงกริ้ว “นางได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้จนเหลิงไปแล้ว!”
……
ตำหนักหย่งเหอ
เหลียนซวงโกรธแค้นยิ่งนัก
“ฮองเฮา ข่าวลือแพร่สะพัดในวัง จะต้องเป็นฝีมือหวงกุ้ยเฟยแน่นอนเพคะ!
“เมื่อครู่ไทเฮาส่งคนมาบอกว่า ในวังมีเรื่องมากมาย ท่านไม่จำเป็นต้องสนใจ รอจนเกิดเรื่องใหม่ขึ้น ผู้คนก็จะลืมเรื่องเก่าไปเอง แต่จะต้องปล่อยให้คนใส่ร้ายต่อไปเช่นนี้หรือเพคะ?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนวางหมากลงบนกระดาน เอ่ยด้วยแววตาเย็นชา
“ตรงกันข้ามเลยต่างหาก พวกเราจะกระพือเรื่องนี้ให้ใหญ่โตกว่าเดิม”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...