เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่เรียกพยานออกมาทันที กลับถามหัวหน้าโจรผู้นั้นก่อน
“เจ้ายืนกรานว่าเห็นจ้าวเฉียน เช่นนั้นเจ้าจำได้หรือไม่ วันนั้นเป็นวันอะไรเดือนอะไร”
“จำได้! วันที่ 10 เดือน10”
หวงกุ้ยเฟยยิ้มเยาะ “แน่ใจถึงเพียงนั้นเชียวรึ ความจำของเจ้าช่างดีเหลือเกิน ถ้าคนไม่รู้จะคิดว่าเจ้า...”
นางมองฮองเฮาโดยมีความหมายอื่นแอบแฝง บอกเป็นนัย ๆ ว่าโจรผู้นี้รับสินบนจากฮองเฮา
หัวหน้าโจรรีบแก้ต่างทันที
“วันที่ 10 เดือน 10 ของทุกปีเป็นวันบูชาขุนเขา บรรดาพี่น้องเรากำลังกินดื่มสังสรรค์ และจ้าวเฉียนก็มาถึง...”
จ้าวเฉียนเหมือนได้จับช่องโหว่ของอีกฝ่ายได้ จึงรีบร้อนตะโกนขึ้น
“ปรักปรำ! บ่าวอยู่ในวังตลอดเวลา จะขึ้นไปบนภูเขาได้อย่างไร!”
สิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรออยู่ก็คือประโยคนี้ของเขา
“จ้าวเฉียน แล้วเจ้าแน่ใจได้อย่างไร วันที่ 10 เดือน 10 ตัวเจ้าอยู่ในวังหลวง?”
จ้าวเฉียนกลอกตาไปมา
“ไม่ใช่แค่วันที่ 10 เดือน 10 บ่าวอยู่ปรนนิบัติรับใช้หวงกุ้ยเฟยมาตลอด ครั้งก่อนที่ออกจากวัง ก็เพราะทำความดีความชอบเลยได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าครอบครัว
“หากฮองเฮามิทรงเชื่อ ก็ตรวจดูในสมุดรายชื่อผู้ที่เข้าออกวังได้พ่ะย่ะค่ะ
“การจัดการในวังหลวงเข้มงวดมาก บ่าวไม่อาจพูดจาเหลวไหล”
กฎระเบียบภายในวัง ไทเฮาก็ทรงทราบเป็นอย่างดี
เมื่อเห็นจ้าวเฉียนยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ นางก็เริ่มหวั่นไหวเล็กน้อย
หรือเป็นไปได้ว่า จ้าวเฉียนจะไม่ได้พูดปดจริง ๆ
หวงกุ้ยเฟยยิ่งแสร้งทำเป็นคนดีพร้อมเอ่ยว่า “ฮองเฮาเพคะ หรือไม่หม่อมฉันจะสั่งให้คนไปที่หน่วยกรมวัง ขอให้พวกเขานำสมุดรายชื่อผู้ที่เข้าออกวังในคืนวันที่ 10 เดือน 10 มามอบให้ดีไหมเพคะ?”
นางจะโอ้อวดสถานะของตนเองอย่างเป็นนัย ๆ
นางมีตราประทับทองคำ จึงมีอำนาจเคลื่อนย้ายสมุดรายชื่อ
ส่วนตำแหน่งฮองเฮาต่อให้สูงกว่า หากไม่มีตราประทับทองคำ ก็ไม่มีทางได้สมุดรายชื่อมาอยู่ในมือ
เฟิ่งจิ่วเหยียนมองหวงกุ้ยเฟยด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เช่นนั้นก็ต้องรบกวนหวงกุ้ยเฟยด้วย”
ผ่านไปไม่นานนัก สมุดรายชื่อก็ถูกส่งมา
ไม่ใช่เฉพาะแค่วันที่ 10 เดือน 10 แต่ส่งมาให้หมดทั้งเดือนนั้นเลย
เซียวอวี้สั่งให้องครักษ์และข้าหลวงในวัง ช่วยกันพลิกดูอยู่ถึงสามรอบ
แต่ผลลัพธ์ก็คือ ไม่มีชื่อของจ้าวเฉียน
หวงกุ้ยเฟิงสีหน้าเป็นกังวล แต่ดวงตากลับยิ้มแย้ม
“เอ๊ะ ทำอย่างไรดี ไม่มีชื่อของจ้าวเฉียน นั่นก็หมายความว่า โจรผู้นั้นโกหกใช่หรือไม่?”
“หม่อมฉันเคยกราบทูลแล้ว คำพูดของโจรผู้นั้นเชื่อถือไม่ได้”
ไทเฮารู้สึกโกรธเคืองอยู่ในใจ แต่นางไม่สามารถต่อว่าหวงกุ้ยเฟยออกมาตรง ๆ ทำได้เพียงแค่ถามเฟิ่งจิ่วเหยียนในเชิงตำหนิ
“ฮองเฮา เจ้าผิดพลาดในการสืบค้นจริงใช่หรือไม่!”
สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเรียบเฉย ราวกับท่อนไม้ที่ไร้ความรู้สึก
นางรู้อยู่แต่แรกแล้วว่า ในสมุดรายชื่อนั้นไม่มีชื่อของจ้าวเฉียน
ที่จริงหลายวันก่อน นางเคยแอบเข้าไปในหน่วยกรมวังและได้เห็นแล้ว
หวงกุ้ยเฟยกับจ้าวเฉียนไม่กลัวนางจะตรวจสอบสมุดรายชื่อ แน่นอนว่าต้องจัดการบางอย่างก่อนหน้านี้แล้ว
“จ้าวเฉียน ข้าจะถามเจ้าอีกเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่า วันที่ 10 เดือน 10 ตัวเจ้าอยู่ในวังหลวง!”
ในดวงตาลึก ๆ ของจ้าวเฉียนแฝงแววยิ้มเยาะ
“บ่าวขอตอบฮองเฮาว่า แน่ใจพ่ะย่ะค่ะ!”
เฟิ่งจิ่วเหยียนถามต่อ
“ขณะข้าหลวงในวังปฏิบัติหน้าที่ จะมีสมุดบันทึกการทำงาน หากเป็นเช่นนั้น ถ้าในตอนนี้จะค้นดูสมุดบันทึกวันที่ 10 เดือน 10 ของตำหนักหลิงเซียว ก็จะพบว่าเจ้ารับผิดชอบงานอะไรอยู่ในคืนนั้น ใช่หรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ย
“จินเหนียงจื่อเป็นดาวเด่นของหอหลงหยาง คิดว่าจ้าวเฉียนไปที่นั่นก็เพราะความนิยมชมชอบ”
จ้าวเฉียนพูดไม่ออก มือไม้สั่นรัว
หวงกุ้ยเฟยบังเกิดโทสะ
“สารเลว! จ้าวเฉียน เจ้าบังอาจลักลอบออกจากวังไปเสพสุข!” นางทำท่าเหมือนถูกหลอกลวง “ฝ่าบาท พระองค์ต้องลงโทษคนไร้ยางอายผู้นี้ด้วยนะเพคะ!”
เหลียนซวงโมโหในใจ
หวงกุ้ยเฟยยังทำเป็นคับแค้นใจอีก?
ทุกคนต่างรู้ดีว่าจ้าวเฉียนเป็นคนของนาง หากไม่ได้รับอนุญาตจากนาง เขาจะกล้าออกจากวังได้อย่างไร
จ้าวเฉียนยังนับว่าฉลาด เข้าใจเจตนาในคำพูดของหวงกุ้ยเฟย จึงรีบโขกศีรษะยอมรับผิดทันที
“บ่าวมีความผิด! บ่าวมัวเมาหลงใหล ออกจากวังไปหาจินเหนียงจื่อ แต่บ่าวไม่ได้ออกไปพบโจรภูเขาอย่างแน่นอน!”
แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็น
ยังจะทำเป็นไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาอีก
“จ้าวเฉียน เดิมทีเจ้าก็สามารถทำให้ไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่เจ้าผิดที่ไม่ควรหมกมุ่นในกามารมณ์”
“ฮองเฮา ท่านหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนโน้มคำนับไทเฮา
“เสด็จแม่ ไม่รู้ว่าท่านจำได้หรือไม่ โจรผู้นั้นบอกว่า ตอนจ้าวเฉียนมาพบเขาได้นำทองคำมามากมาย ส่วนเมื่อครู่จินเหนียงจื่อก็ยังบอกว่า จ้าวเฉียนมอบทองคำให้เขาก้อนหนึ่ง”
ไทเฮามีปฏิกิริยาตอบรับทันที
“เจ้าจะบอกว่า...”
มุมปากของเฟิ่งจิ่วเหยียนยกโค้งขึ้นเล็กน้อย “เพคะ หากทองคำที่พวกเขาได้รับมาทั้งคู่ เป็นทองคำชุดเดียวกัน ก็หมายความว่า แค่นำทองคำในมือของจินเหนียงจื่อมาเปรียบเทียบกับทองคำในมือของโจรภูเขา ก็จะพิสูจน์ได้ว่า จ้าวเฉียนก็คือคนผู้นั้นที่มอบทองคำให้เขา”
จ้าวเฉียนอ่อนแรงทันที
จบกันคราวนี้...

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...