เซียวอวี้รู้ดีว่า ที่สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้ได้ นั่นเป็นเพราะฮองเฮาเสด็จไปหาไทฮองไทเฮาเมื่อตอนกลางวัน
เดิมทีเขาคิดว่า นางกำลังยืมมือขอความช่วยเหลือจากเสด็จย่า
เขาเพิ่งจะรู้ตัวในยามนี้ ว่านางกำลังใช้แผนคนหมู่มากในการโจมตีเขา
ทว่า ตั้วแต่เมื่อใดกันที่นางสนมเหล่านั้นเริ่มที่จะปกป้องนางกัน?
ความสามารถของนางช่างมีมากยิ่งนัก!
เซียวอวี้พลันหมุนกายเข้าไปด้านในตำหนัก ก่อนจะเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการจะเห็นเช่นนั้นหรือ?” เซียวอวี้พยายามข่มอารมณ์โกรธของตนเองเอาไว้
แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความเฉยเมย
“นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“หากท่านยังคิดดึงดันโดยไม่สนใจสิ่งใดอีก ในภายภาคหน้าย่อมมีขุนนางมากมายยื่นฎีกาฟ้องร้อง รวมไปถึงเหล่าราษฎรและกำลังพลทหารมากมายที่จักลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อหม่อมฉัน”
เซียวอวี้หัวเราะเยาะเย้ยกับตัวเอง
“เหตุใดต้องร้องขอเพื่อเจ้า? กล่าวหาว่าเป็นเพราะเรารังแกเจ้าเช่นนั้นหรือ?”
“เช่นนั้นเราคงเป็นคนแรกที่ตกเป็นผู้ร้ายในสายตาของผู้คนในใต้หล้า!
“ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้าชัด ๆ ! เป็นเพราะเจ้าต้องการหนีไปจากเรา เป็นเจ้าที่รังแกเราต่างหาก!
“เราล้วนแต่ทำดีต่อเจ้าทุกอย่าง หากแต่หัวใจของเจ้ากลับแกร่งดั่งหินผา ในหัวใจของเจ้า เราเทียบอะไรไม่ได้เลยแม้แต่คนตาย!”
ใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงนิ่งสงัด หาได้คิดตอบโต้อันใดกลับไปไม่ นั่นยิ่งทำให้ฝ่าบาทคล้ายกับ “สตรีปากร้าย” มากขึ้นไปอีก
ท่าทียอมรับของนาง ทำให้เซียวอวี้นึกโมโหมากขึ้นไปอีก
เขาพลางกล่าวออกมาด้วยความเย็นชาว่า
“หากเจ้าต้องการต่อสู้กับเราอย่างปลาตายตาข่ายแตกละก็ เราก็จักทำให้เจ้าได้เห็น ว่าพระอาทิตย์ของหนานฉีจักส่องสว่างให้กับผู้ใดกันแน่!”
……
คืนนั้น เหล่านางสนมทั้งหลายต่างก็คุกเข่าอยู่ด้านนอกตำหนักหย่งเหอตลอดทั้งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น เหล่าขุนนางมากมายที่อยู่ภายในท้องพระโรงจึงเอ่ยแนะนำขึ้นมาว่า
“ฝ่าบาท เรื่องของวังหลังนั้นพวกกระหม่อมรู้ดีว่าตนเองมิอาจเอ่ยอันใดออกมาได้มาก ทว่า ฮองเฮาเป็นมารดาของแผ่นดิน ยามมีศึกสงครามพระนางก็อวยชัยให้แว่นแคว้น จากนั้นยังมีใจกล้าหาญส่งเสบียงอาหารแห้งไปให้การช่วยเหลืออีก ฮองเฮาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความคุณธรรมเช่นนี้ พระนางมิสมควรต้องถูกกระทำเช่นนี้นะพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาทโปรดปรานพระสนมคนใดนั้น พวกกระหม่อมย่อมมิกล้าเอ่ยความเห็นออกไป ทว่า การข่มเหงรังแกฮองเฮาเช่นนี้ กลับเป็นการกระทำที่โปรดปรานสนมทำลายภรรยาเอก เช่นนี้ฝ่าบาทจักกลายเป็นบุรุษตัวอย่างของผู้คนในใต้หล้าไปได้อย่างไร?”
ใต้เท้าเฟิ่งที่ล่วงรู้เรื่องราวทุกอย่างนั้น หาได้กล้าเอ่ยอันใดออกมาสักคำไม่
ในยามนี้ เขาชื่นชมในตัวของฝ่าบาทยิ่งนัก
แม้ว่าจะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่กลับดำเป็นขาวเช่นนี้ ทว่า พระองค์ก็ยังมีท่าทีรับมือได้อย่างสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง
บนบัลลังก์มังกรนั้น ฮ่องเต้วัยหนุ่มยังคงมีท่าทีเชื่อฟังคำพูดของเหล่าทุกนางทุกคน ไม่เพียงแต่หาได้มีท่าทีโกรธเกรี้ยวไม่ ทั้งยังเต็มไปด้วยท่วงท่าอันสง่างามและองอาจอีกด้วย
“สิ่งที่พวกเจ้าพูดมานั้น ต่างก็มีเหตุมีผลยิ่งนัก
“สองวันที่ผ่านมา เราเองก็ได้ขบคิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมายแล้ว เป็นเราที่ทำกับฮองเฮาเกินไปจริง ๆ
“เช่นนั้นเราจักทำตามที่พวกเจ้าต้องการ สั่งปลดพระสนมในวังหลังทั้งหมดทิ้งไปเสีย…”
ยังมิทันที่ฝ่าบาทจักพูดจบ เหล่าขุนนางจึงเริ่มพากันร้อนใจขึ้นมาในทันที
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ จักทำเยี่ยงนั้นมิได้นะพ่ะย่ะค่ะ! ถึงแม้ว่าเรื่องของฮองเฮาจักเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็มิอาจละทิ้งตำหนักทั้งหกไปได้!”
บุตรีของพวกเขาทั้งหมดต่างก็อยู่ในวังหลัง!

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...