เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 50

“ฮองเฮากำลังสงสัยคำตัดสินของเราใช่หรือไม่!” แววตาของเซียวอวี้เคร่งขรึม แฝงความน่าเกรงขาม

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น

นี่หรือจักรพรรดิที่นางและเหล่าทหารนับหมื่นนับพันจงรักภักดี?

เขาไม่ใช่แค่ฮ่องเต้ทรราช ยิ่งเหมือนฮ่องเต้ที่ไร้ความชอบธรรม!

ทันใดนั้นนางก็เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น

“โทษฐานที่จ้าวเฉียนต้องแบกรับนั้น ไม่ใช่แค่บงการให้โจรภูเขามาลักพาตัว”

“ยังมีสิ่งใดอีก?” ไทเฮารู้สึกร้อนใจ

คิ้วตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเยือกเย็นและเคร่งขรึม

“ก่อนหน้านี้หม่อมฉันเคยถามจ้าวเฉียน เขายืนกรานว่า วันที่ 10 เดือน 10 ปฏิบัติงานอยู่ในวังหลวง ต่อมาพอตรวจสอบสมุดรายชื่อผู้ที่เข้าออกวัง รวมถึงสมุดบันทึกการทำงานของตำหนักหลิงเซียว ต่างก็ยืนยันในสิ่งที่เขาพูด ทว่าความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น นี่แสดงให้เห็นว่า...”

เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันยกมือ หลังจากลากมือไปตามแนวนอนกลางอากาศ ก็ชี้ไปที่หวงกุ้ยเฟยด้วยท่าทางดุดัน

“หวงกุ้ยเฟยในฐานะผู้คุมตำหนัก ไม่เคร่งครัดกับบ่าวรับใช้ ในขณะเดียวกัน ยังถือครองตราประทับทองคำ ต้องควบคุมดูแลวังหลังด้วย แต่ทว่าในวังกลับมีการสร้างเรื่องเท็จผู้ที่เข้าออกวัง จึงถือว่าละเลยหน้าที่!

“ดูท่าวัน ๆ จะรู้จักแต่เอาอกเอาใจฮ่องเต้ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสนมอย่างเต็มที่ สนมปีศาจเช่นนี้ สมควรถูกลงโทษอย่างหนัก!”

หวงกุ้ยเฟยยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่ได้ลุกขึ้น

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ในดวงตานางเต็มไปด้วยความเคียดแค้น กำมือไว้แน่นจนเล็บจิกกลางฝ่ามือ

บังอาจเรียกนางว่าสนมปีศาจรึ?

เห็นชัดเจนว่าอิจฉาที่นางได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้!

คำพูดเมื่อครู่ของเฟิ่งจิ่วเหยียน ช่างพูดได้ตรงพระทัยของไทเฮา โดยเฉพาะคำว่าสนมปีศาจ

ไทเฮาทรงเห็นด้วยในทันทีทันใด

“ฝ่าบาท ฮองเฮาพูดถูก

“จ้าวเฉียนสามารถเข้าออกวังได้อย่างอิสระ ทว่าที่สุดแล้ว ก็เป็นความบกพร่องในการตรวจสอบของหวงกุ้ยเฟย!”

หวงกุ้ยเฟยเงยหน้าขึ้นมองเซียวอวี้ น้ำตาคลออยู่ในดวงตา

“ฝ่าบาท หม่อมฉัน...หม่อมฉันมีความผิดจริง ๆ เพคะ...”

เซียวอวี้ชำเลืองมองสนมคนโปรดของตนเองอยู่แวบหนึ่ง

“หวงกุ้ยเฟยละเลยหน้าที่ ลงโทษให้สำนึกผิดในตำหนักหลิงเซียว”

เหลียนซวงแอบบ่นว่าไม่ยุติธรรม!

ก่อนหน้านั้นฮองเฮาไม่ได้ทำผิดอันใด แต่กลับโดนหักเบี้ยหวัดหนึ่งปี และยังถูกกักบริเวณ

หวงกุ้ยเฟยละเลยหน้าที่เป็นความผิดร้ายแรง แต่นางกลับถูกสั่งให้แค่สำนึกผิดเท่านั้นรึ?

เฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งเงียบไม่เอ่ยคำใด

ไทเฮาก็ทรงไม่ยินยอมที่จะพลาดโอกาสจัดการหวงกุ้ยเฟยในครั้งนี้

ทว่านางรู้นิสัยของฮ่องเต้เป็นอย่างดี

ในเมื่อเขาตัดสินใจแน่วแน่ที่จะปกป้องหวงกุ้ยเฟย ก็ไม่ยอมให้ใครขัดขืน

แม้แต่ไทเฮาอย่างนางก็ไม่ได้!

นางโกรธจนหายใจติดขัด มือข้างหนึ่งกุมอก และสั่งกุ้ยหมัวมัวว่า

“พยุงข้ากลับตำหนักฉือหนิง

“ข้าแก่แล้ว ไม่มีใครอยากฟังข้าพูดอีกต่อไป

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะยังอยู่ที่นี่ทำอะไรอีก!”

หลังจากไทเฮาเสด็จกลับ เหล่าองครักษ์ก็พาหัวหน้าโจรกับจ้าวเฉียนออกไป

เดิมทีในตำหนักที่มีผู้คนแออัด ก็เหลือเพียงไม่กี่คน

หวงกุ้ยเฟยยังคงคุกเข่าอยู่ข้างเท้าเซียวอวี้ ออดอ้อนอย่างมีจริต

“ฝ่าบาท นึกไม่ถึงว่าจ้าวเฉียนจะทำเรื่องแบบนั้นได้ หม่อมฉันก็ผิดด้วย มองพลาดไปเอง ถึงได้เรียกใช้บ่าวสุนัขเช่นนั้น หม่อมฉันยินดีรับโทษเพคะ”

“ใจคนยากจะหยั่งถึง เจ้าไม่ผิด” เซียวอวี้พูดกับนาง แต่คล้ายจะตั้งใจมองไปทางฮองเฮาที่อยู่อีกด้าน

เหลียนซวงได้ยินคำพูดนี้ ก็โมโหอกแทบฉีก

นางอยากจะพุ่งเข้าไปข่วนหน้าหวงกุ้ยเฟยให้เหวอะหวะ และอยากจะตบหน้าฮ่องเต้สักฉาด!

“เจ้าไม่ใช่แค่อยากจะยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองเท่านั้นหรอกรึ

“ถ้าไม่มีเรื่องโจรภูเขา ไม่มีเรื่องลักพาตัวเจ้า เจ้าก็สามารถเป็นฮองฮาที่บริสุทธิ์หมดจดของเจ้าต่อไปได้ จนถึงตอนนี้ เจ้ายังไม่พอใจเรื่องใดอีก!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนกราน

“หม่อมฉันต้องการเปิดเผยความจริงให้รู้กันทั่วหล้า!”

เซียวอวี้เอ่ยโดยไม่ยอมเว้นว่างให้ต่อรองได้

“เราอนุญาตให้เจ้าสืบหาความจริงเรื่องนี้ แต่ไม่เคยตกปากรับคำ ให้เจ้านำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศ ทำให้เรื่องวุ่นวายจนคนรู้กันไปทั่ว

“แม้แต่ศักดิ์ศรีของตระกูลเฟิ่ง เจ้าก็ไม่ต้องการอย่างนั้นรึ!

“อีกอย่าง ฮองเฮาคิดบ้างหรือไม่ เราจะยอมให้คนทั่วหล้าหัวเราะเยาะ จะยอมให้ตัวเองอภิเษกกับสตรีที่เคยถูกโจรลักพาตัวได้อย่างไร?”

สมองของนางถูกม้าเตะหรือไร ถึงได้โง่เขลาเช่นนี้!

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปยังเขา และตอบอย่างสุขุม

“เปรียบเทียบกับตำแหน่งฮองเฮาที่ไร้ประโยชน์ หม่อมฉันยิ่งหวังว่าจะไม่ทำเรื่องที่ละอายใจต่อตัวเอง”

สีหน้าของเซียวอวี้คร่ำเคร่งขึ้นมาทันที

“เจ้าพูดอะไร!”

นางควรจะรู้ ตำแหน่งฮองเฮานี้ มีคนมากมายที่ปรารถนาแต่ก็ไม่ได้ดั่งปรารถนา

นางพูดว่ามันไร้ประโยชน์อย่างนั้นรึ?

สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเรียบเฉย

“หม่อมฉันแค่ต้องการความจริง ต่อให้สูญเสียตำแหน่งฮองเฮา ก็ไม่รู้สึกเสียดาย!”

หลังจากนั้น นางกุมมือคำนับ

“หากฮ่องเต้ทรงกังวลว่าราชวงศ์จะเสื่อมเสียชื่อเสียง เช่นนั้นพระองค์ทรงโปรดถอดถอนตำแหน่งฮองเฮาของหม่อมฉันออกก่อน! แล้วหม่อมฉันจึงค่อยเปิดเผยความจริง...”

คำพูดยังไม่ทันเอ่ยจบ เซียวอวี้กำคอเสื้อของนางด้วยความโกรธ และเอ่ยว่า!

“เฟิ่งเวยเฉียง! เจ้ากล้าหาญมาก!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย