เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 51

เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิ เฟิ่งจิ่วเหยียนแบะปากและยิ้มเยาะตัวเอง

“หม่อมฉันกล้าหาญ?

“ฝ่าบาท หลังจากหม่อมฉันได้รับการช่วยเหลือกลับมา ถึงแม้ตัวเองจะบริสุทธิ์ แต่กลับไม่มีใครเชื่อ

“คนรอบข้างพากันเกลี้ยกล่อมหม่อมฉัน ให้พยายามนิ่งเฉย อย่าตอบโต้ข้อสงสัยและข่าวลือเหล่านั้น รอให้ข่าวลือเงียบหายไปเอง รอให้ผู้คนลืมเรื่องนี้ไปเอง”

“แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น

“แต่ละวันหม่อมฉันต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัวและความเจ็บปวด กระทั่งยังสงสัยในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่รู้จริง ๆ ว่าเอากฎเกณฑ์ใดมาวัดความบริสุทธิ์ของสตรีผู้หนึ่ง และยิ่งไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนที่ถูกลักพาตัว คนที่ถูกทำลายชื่อเสียง ซึ่งเห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นคนที่ถูกทำร้าย ถึงได้กลายเป็นคนทำผิด และยังกลายเป็นหญิงสำส่อนตามขี้ปากของชาวบ้าน!

“ถ้าหม่อมฉันไม่กล้าหาญ คงตายไปกับข่าวลือนั้นตั้งแต่แรก ไฉนเลยจะกล้าสวมเครื่องยศสตรี เพื่ออภิเษกสมรสเข้าวัง?

“ถ้าหม่อมฉันไม่กล้าหาญ ไฉนเลยจะกล้าขอร้องพระองค์ให้สืบค้นหาความจริง

“หม่อมฉันมีความกล้าหาญ ฉะนั้นแล้ว ขอฮ่องเต้ทรงถอดถอนตำแหน่งฮองเฮาด้วย! หม่อมฉันจะได้มีความกล้าหาญอีกครั้ง จะนำคดีมาพิจารณาให้กระจ่าง ทำให้ทุกคนได้รู้ว่า มีคนทำให้หม่อมฉันแปดเปื้อนมลทิน!”

เซียวอวี้ถูกสะกดด้วยคำพูดบางประโยคของนาง ทำให้นึกถึงมารดาผู้ให้กำเนิดตน

แต่ทันใดนั้นจิตใจของเขากลับเปลี่ยนเป็นเย็นชา

เขาไม่เคยพบเห็นสตรีนางใดที่เหิมเกริมเช่นนี้มาก่อน

ไม่ใช่ ยังมีอีกคน นั่นคือนักฆ่าสาวผู้นั้น

นี่คือสิ่งเดียวที่ในตัวของพวกนางมีเหมือนกัน นั่นก็คือไม่กลัวตาย!

เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แววตาฉายความร้ายกาจ

“เจ้าไม่ได้ต้องการให้เราถอดถอนเจ้า แต่เจ้าต้องการบังคับให้เราลงโทษร้ายแรงกับหวงกุ้ยเฟย”

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงจักรพรรดิ ไฉนเลยจะมองไม่ทะลุจิตใจคน

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้ปฏิเสธ

“จ้าวเฉียนก็แค่ทำตามคำสั่ง ผู้ที่บงการแท้จริงคือใคร หม่อมฉันไม่เชื่อว่า พระองค์จะเดาไม่ถูก”

เซียวอวี้ไม่ปฏิเสธ และปล่อยตัวนาง

นางจึงพูดต่อ

“คนปล่อยข่าวลือที่จับได้ก่อนหน้านี้ ก็มาจากตำหนักหลิงเซียว ตอนนี้จ้าวเฉียนที่สั่งให้พวกโจรมาลักพาตัวหม่อมฉัน ก็เป็นคนของตำหนักหลิงเซียวเช่นกัน

“มันก็แค่บังเอิญงั้นรึ?”

คำพูดนี้ของนาง ก็เกือบจะชี้ชัดว่า หวงกุ้ยเฟยก็คือผู้บงการ

เซียวอวี้มองนางอย่างเย็นชา

“ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาของเจ้าทั้งหมด ไม่มีหลักฐานจริง ๆ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนถามกลับ “ถ้าฮ่องเต้ทรงเชื่อสนิทใจว่าหวงกุ้ยเฟยไม่มีความผิด เหตุใดจึงไม่กล้าสืบสวนจ้าวเฉียนต่อไปอีก?”

“เจ้าไม่มีสิทธิ์มาตั้งข้อสงสัยกับเรา!”

นางกล่าวต่อ

“ตอนนี้หม่อมฉันยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ที่จะพิสูจน์ว่าหวงกุ้ยเฟยเป็นผู้บงการ แต่หลายปีที่ผ่านมา ความผิดที่หวงกุ้ยเฟยเคยทำยังน้อยอีกรึ?

“ในวันอภิเษกสมรส หวงกุ้ยเฟยส่งคนมาตรวจพรหมจรรย์ของหม่อมฉันต่อหน้าธารกำนัล หากไม่ใช่เพราะหม่อมฉันเอาความตายมาขู่ ชื่อเสียงของตระกูลเฟิ่งคงสูญสิ้นไปนานแล้ว!

“การกระทำของพระองค์ไม่ต่างจากหลงใหลสนมกำจัดฮองเฮา วังหลังตอนนี้ก็มีความวุ่นวายอยู่แล้ว หากฝ่าบาททรงยืนกรานจะปกป้องหวงกุ้ยเฟย หม่อมฉันก็ขอสละตำแหน่ง! ตำแหน่งฮองเฮานี้ หม่อมฉันคงเป็นไม่ได้ ขอฝ่าบาททรงโปรดเลือกคนที่เหมาะสม!”

นางพูดจบก็รวบชุดและคุกเข่าลง ท่าทีราวกับว่าตัดสินใจแน่วแน่แล้ว

เซียวอวี้ไม่ยอมรับสิ่งที่นางขู่บังคับ เอ่ยออกมาอย่างเย็นชาว่า

“เจ้าคุกเข่าต่อไปเถอะ เราจะดูว่าเจ้าจะคุกเข่าได้นานแค่ไหน!”

หลังจบประโยค เขาก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป

ทว่ากลับได้ยิน มีเสียงแว่วมาจากด้านหลัง...

“คุกเข่าไม่สำเร็จ หม่อมฉันก็จะอดอาหาร อดอาหารไม่สำเร็จ หม่อมฉันก็จะแขวนคอตาย!

“ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง หม่อมฉันลืมกราบทูลพระองค์ โจรภูเขาเหล่านั้นไม่ได้ถูกจับมาทั้งหมด แต่บังเอิญว่า ระหว่างทางที่คุมตัวมาหลบหนีไปได้สามคน และยังฉวยเอาทรัพย์สินไปด้วยจำนวนมาก

หวงกุ้ยเฟยนอนเอนกายอยู่บนตั่ง ชุนเหอกำลังนวดขาให้นางอยู่ข้าง ๆ

ในใจของนางรู้สึกขุ่นมัวที่สุด

นึกไม่ถึงว่าฮองเฮาจะทรงตัดไฟแต่ต้นลม เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดีได้ ไม่เพียงคลี่คลายปัญหาเรื่องข่าวลือ แต่ยังทำให้ความจริงเรื่องการลักพาตัว “กระจ่างชัด” แม้แต่ฝ่าบาทก็ทรงเชื่อหญิงต่ำช้าผู้นั้น!

วันหน้าถ้าคิดจะใช้เรื่องนั้นมาควบคุมฮองเฮา ก็คงไม่เพียงพอแล้ว

“ข้าชอบน้ำหนักมือในการนวดขาของจ้าวเฉียน แต่น่าเสียดาย”

การสูญเสีย “มีด” ที่แหลมคมและถนัดมือ ต่อให้เป็นใครก็ไม่ยินดี

อีกทั้งจ้าวเฉียนก็คอยติดตามนางมานมนาน และยังรู้เรื่องราวหลายอย่างของนางด้วย

ชุนเหอก้มหัวลง เอ่ยอย่างนอบน้อม

“พระสนม โชคดีที่ฝ่าบาททรงไม่ได้สืบสวนต่อ”

“ฝ่าบาทจะต้องเดาถูก ว่าข้าเป็นคนบงการจ้าวเฉียน”

“แต่ฝ่าบาทก็ยังเลือกที่จะปกป้องท่าน! นั่นแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งของท่านไม่มีทางสั่นคลอน!”

หวงกุ้ยเฟยกลับรู้สึกว้าวุ่นใจ

ทันใดนั้น ด้านนอกตำหนักก็มีเสียงแว่วมา “รับราชโองการ!”

หวงกุ้ยเฟยค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน

ชุนเหอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“พระสนม ฝ่าบาทจะต้องพระราชทานรางวัลเป็นแน่ เมื่อครู่อยู่ต่อหน้าไทเฮากับฮองเฮา ฝ่าบาทจำเป็นต้องลงโทษให้ท่านปิดตำหนักสำนึกผิด ตอนนี้ก็เลยมาเอาใจท่าน”

แต่เดิมก็เป็นเช่นนี้ ตอนพระสนมเพิ่งเข้าวังกระทำการล่วงเกินไทเฮา ฮ่องเต้ก็ทรงลงโทษต่อหน้าคนอื่น พอลับหลังก็ส่งของกำนัลมาให้

------------------------------------------

(1) สามคนเกิดพยัคฆ์ หมายถึง ข่าวลือที่มีคนพูดกันซ้ำ ๆ สามารถทำให้คนอื่นเชื่อจนคิดว่าเป็นเรื่องจริงได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย