เพียงเซียวอวี้ปรากฏตัวออกมา เหล่าราษฎรต่างพากันหวาดกลัว ทั้งยังมีบางส่วนที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว
หลิวซื่อเหลียงพลางตวาดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมน้ำเสียงเล็กแหลมว่า
“บังอาจ! เห็นฝ่าบาทแล้วพวกเจ้ายังมิคิดทำความเคารพกันอีก?”
เหล่าราษฎรจึงพากันรีบร้อนคุกเข่าคำนับด้วยความเคารพในทันที
ทว่า ก็ยังมีบางคนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาว่า
“หย่าร้าง...”
เซียวอวี้พลันยืนเอามือไพล่หลังเอาไว้ พร้อมทั้งเสื้อคลุมมังกรที่ปลิวสยายไปตามสายลม ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน
“ฮองเฮาได้โปรดกลับวังเถิด!”
เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ภายใต้กลองร้องทุกข์ด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว “ฝ่าบาทได้โปรดตอบรับคำหย่าร้างของหม่อมฉันด้วยเพคะ”
เซียวอวี้กำมือของตนเองเอาไว้แน่น จนทำให้มีรอยบาดแผลบนฝ่ามือในทันที ทว่า ยังไม่เท่ากับบาดแผลที่อยู่ภายในใจของเขา
คำพูดที่ฮองเฮากล่าวออกมาเมื่อครู่นั้น เขาต่างก็ได้ยินกับหู
ทุกอย่างล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ทำเอาเขามิอาจหาโต้แย้งอันใดมาตอบกลับได้
มิคิดเลยว่า นางจักจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ
หากว่านางต้องการออกไปจากวังหลวงเพราะเหตุนี้ละก็ เช่นนั้นเรื่องระหว่างพวกเขายังคงพอมีทางกลับไปเป็นเช่นเดิมได้อยู่
สิ่งที่เขาเคยทำร้ายนางนั้น เขาจักชดใช้
ทว่า...หย่าร้าง? อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้!
ฝ่าบาทพลันหันกลับไปมององครักษ์ด้วยความโมโห “พวกเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ!”
หลิวซื่อเหลียงพลางเอ่ยวาจาออกมาด้วยความระมัดระวัง
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กฎของกลองร้องทุกข์นั้นมิอาจฝ่าฝืนได้”
เซียวอวี้พลันสั่งการออกมาด้วยความทรงอำนาจว่า
“กำจัดกลองร้องทุกข์นี้เสีย!”
น่าตายยิ่งนัก!
เขาลืมเรื่องนี้ไปแล้ว!
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ! ทำเช่นนั้นไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!” เหล่าขุนนางหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ต่างก็พากันมาเกลี้ยกล่อมในทันที
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กลองร้องทุกข์นั้นถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของพวกเรา ท่านมิอาจ…”
“เราบอกให้รื้อ!” น้ำเสียงของเซียวอวี้นั้นทำให้ผู้คนมิอาจฝ่าฝืนได้
ผู้ร้องทุกข์ตัวจริงนั้น ย่อมมิอาจเข้ามาตีกลองร้องทุกข์ได้อีก
พวกมันก็แค่ทำหน้าที่ในนามแสดงความยุติธรรมของราชวงศ์เท่านั้น
เหล่าองครักษ์พลันรับคำ
ในไม่ช้า พวกเขาก็นำกลองร้องทุกข์ย้ายออกไป ก่อนจะล้อมตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนเอาไว้
เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองเซียวอวี้ด้วยท่าทีนิ่งเงียบ
……
ข่าวลือเรื่องราวที่ฮองเฮาตีกลองร้องทุกข์นั้นพลันแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในทันที
บรรดาเหล่าผู้คนที่มีเมตตาคุณธรรมนั้นต่างก็ขอร้องอ้อนวอนเพื่อฮองเฮา
สตรีในใต้หล้าที่ต้องทนทุกข์กับความยากลำบากเป็นเวลานาน พวกนางต่างก็นึกเห็นใจชะตากรรมที่ฮองเฮาต้องพบเจอยิ่งนัก
เรื่องนี้พลันส่งผลกระทบออกไปไกลเสียจน ทางราชวังมิอาจควบคุมเอาไว้ได้แล้ว
ภายในท้องพระโรงนั้น ต่างก็มีขุนนางชรามากมายต่างก็เอ่ยแนะนำขึ้นมาว่า
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว เกรงว่าทำได้แต่ประกาศให้ทั่วหล้าทราบ ท่านจะหย่าร้างกับฮองเฮาแล้วเพคะ ปล่อยพระนางคืนสู่ตระกูลเดิมของตนเองเถิด!”
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าราชสำนักและราษฎรคงมิมีทางสงบสุขแน่!”
ฮ่องเต้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรยังคงมิเอ่ยอันใดออกมา
เขาหาได้เคยดูถูกแรงสนับสนุนของเหล่าราษฎรไม่
ทว่า เหตุการณ์ในครานี้เขามิอาจยอมได้
แต่ไหนแต่ไรมิเคยมีเหตุการณ์ณ์ฮ่องเต้ฮองเฮาหย่าร้างกันมาก่อน!
หลังจากจบการว่าความลงแล้วนั้น ฝ่าบาทก็รีบเสด็จไปที่ตำหนักหย่งเหอในทันที
ซุนหมัวมัวเอ่ยทำความเคารพฝ่าบาทอยู่ด้านนอกตำหนัก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นนั้น เห็นได้ชัดว่าสองสามวันที่ผ่านมา นางมีท่าทีเป็นกังวลใจยิ่งนัก

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...