สาเหตุที่เมืองเซวียนเกิดการกบฎขึ้น เป็นเพราะเหล่าทหารไม่พอใจที่ราชสำนักให้เบี้ยเลี้ยงน้อยนิด เมื่อต่อสู้เรียกร้องไปก็ไร้ผล จึงก่อกบฏขึ้น
พอก่อกบฏ จวนจู้กั๋วกงก็ต้องพบกับภยันตราย ราษฎรออกมาต่อต้านเป็นจำนวนมาก
เมืองเซวียนนี้เป็นป้อมปราการสำคัญที่ใช้ในการควบคุมขนส่งเสบียง เป็นเส้นทางที่ทหารจำเป็นต้องผ่าน
กลยุทธ์สร้างความวุ่นวายที่จุดยุทธศาสตร์นี้ทำให้ทั้งราชสำนักและประชาชนตื่นตกใจ
ฤดูใบไม้ผลิ แสงอาทิตย์สาดส่อง เดิมควรมีบรรยากาศที่ดี ทว่าที่เมืองเซวียนกลับมีหมอกควันแห่งความทุกข์ปกคลุมไปทั่วเมือง
ด้านนอกประตูเมือง อู๋ไป๋กำลังคุมรถม้าและดึงบังเหียนให้ม้าหยุด
จากนั้นเขาก็เปิดผ้าม่านออกแล้วเสนอว่า
“ท่านแม่ทัพน้อย เมืองเซวียนเกิดความไม่สงบขึ้น พวกเราคงต้องอ้อมไปแล้วขอรับ”
ด้านในรถม้า
บาดแผลที่ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนหายดีแล้ว ทว่าช่วงนี้ยังไม่อาจมองแสงที่จ้าเกินไปได้
นางวางม้วนหนังสือในมือลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า
“อ้อมไปทางทิศตะวันออก”
ตามข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกับสายสืบนั่นมา กากเดนบางส่วนที่เหลืออยู่ของพรรคเทียนหลงอยู่ที่เมืองผาง
เดิมแผนการของนางคือลงไปทางใต้ ไล่ฆ่าจนถึงเมืองผาง
ทว่าเมื่อคิดดี ๆ แล้ว วิธีเช่นนี้ออกจะเป็นฝ่ายรับเกินไปเสียหน่อย
กากเดนที่เหลืออยู่ของพรรคเทียนหลงกระจัดกระจายไปทั่ว ต่อให้กำจัดที่เมืองผางไปแล้วก็ยังหลงเหลืออยู่ที่อื่นอีก โดยเฉพาะที่อยู่ของประมุขพรรคผู้นั้นที่บัดนี้ก็ยังสืบไม่พบ กลยุทธ์นี้ไม่อาจบรรลุวัตถุประสงค์ของนางได้
ด้วยเหตุนี้นางจึงตัดสินใจแวะไปที่พันธมิตรอู่หลินก่อน
การกำจัดพรรคมารระดับพรรคเทียนหลงควรที่จะร่วมปรึกษาหารือกับพันธมิตรอู่หลิน รวมพลังฝ่ายธรรมะ จึงจะสามารถกำจัดได้อย่างขุนรากถอนโคน
“ไปให้พ้น!”
เสียงตะโกนของอู๋ไป่ที่อยู่ด้านนอกดังขึ้น ทันใดนั้นรถม้าก็ถูกบังคับให้หยุด
เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดผ้าม่านออกดู จึงพบว่าเมื่อครู่รถม้าเกือบจะชนเด็กน้อยคนนึงเข้าแล้ว
เรื่องกระทันหันนี้เกือบจะทำให้หน้ากากของอู๋ไป่หลุดออกมาแล้ว
เขามองไปที่เด็กน้อยผู้นั้นอย่างรู้สึกโมโหอยู่บ้าง
เมื่อครู่อยู่ ๆ เด็กผู้หญิงที่อายุประมาณแปดขวบผู้นั้นก็พุ่งออกมา หากไม่ใช่เพราะเขาดึงบังเหียนม้าทันล่ะก็ นางคงตายไม่ก็บาดเจ็บไปแล้ว
เด็กหญิงสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ ผมคลุกฝุ่นใบหน้าคลุกดิน มัดผมจุกเหมือนลูกชิ้นสองก้อน ร่างที่เล็กจ้อยแบกห่อผ้าสีชมพูไว้บนหลัง มองดูก็รู้ว่าเป็นผู้ตกทุกข์ได้ยาก
ดูเหมือนนางจะถูกทำให้หวาดกลัว จึงทรุดนั่งอยู่กับพื้น ร้องไห้โฮใหญ่
เฟิ่งจิ่วเหยียนมองใบหน้าของนางแล้วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ลงจากม้าไปพยุงให้ลุกขึ้น
นึกไม่ถึงว่าจู่ ๆ เด็กหญิงจะเกาะขาตนเองแน่น
“พี่ชาย ท่านช่วยข้าที...”
“พ่อแม่ของเจ้าเล่า” เฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างใจเย็น
“พ่อกับแม่...พวกเขาหายไป เดิมทีพวกเราจะไปเมืองหลวงขอพึ่งญาติ ทว่าคนเยอะมาก ข้าไม่ได้ดูพวกเขาไว้ให้ดี พวกเขาเลยหลงทาง...”
เด็กหญิงพูดกระท่อนกระแท่น ดูตื่นตกใจไม่น้อย
อู่ไป๋กล่าวเตือน “นายท่าน พวกเรายังมีเรื่องต้องทำนะขอรับ”
เฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปรอบ ๆ
ยามนี้เหล่าผู้อพยพที่หิวโหยกำลังจ้องมองมาที่เด็กหญิงที่อยู่ข้างกายนาง
ราวกับว่าพอนางปล่อยมือ พวกเขาก็จะพุ่งมากลืนกินเด็กคนนี้ก็ไม่ปาน
นางพลันอุ้มเด็กหญิงขึ้นรถม้าด้วยมือข้างเดียว


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...