เมื่อเห็นน้องชายตายต่อหน้าต่อตา หวังโซ่วเหรินก็คำรามด้วยความโมโหอย่างสุดเสียง
“ไม่! โซ่วอี้ โซ่วอี้!!!”
เขาจ้องมองไปทางองครักษ์ใบ้ผู้นั้นด้วยแววตาเคียดแค้น
“เป็นเจ้า เป็นเจ้าสังหารน้องชายข้า! ข้าต้องการให้เจ้าตาย!!”
องครักษ์ใบ้วางคันธนูลง แววตาเยือกเย็นไร้ความรู้สึก
เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองเขาโดยไม่กระพริบตา มือกำไว้แน่นอย่างอดมิได้
เหล่ากองทัพกบฏที่จับตัวราษฎรเห็นหวังโซ่วอี้ตายแล้ว ก็ทำสิ่งใดไม่ถูก
หวังโซ่วเหรินจึงสั่งการกองกำลังนั้น
“สังหารพวกเขา! ฝ่าบาทและราชสำนักเดิมก็มิเคยสนใจชีวิตของราษฎรเมืองเซวียนอยู่แล้ว! เช่นนั้นก็สังหารพวกเขาให้หมด! ข้าต้องการให้พวกเขาถูกฝังไปพร้อมกับโซ่วอี้!”
กองทัพกบฏเหล่านั้นต่างมองหน้ากัน กำลังลังเล และไม่มีการลงมือ
หวังโซ่วเหรินผิดหวังอย่างหนัก
“เหล่าราษฎรเมืองเซวียน จงฟังให้ดี ฝ่าบาทมิใช่ตัวจริง! ราชสำนักมาเพื่อสังหารราษฎรทั้งเมือง! พวกเขาต้องการจะสังหารกองทัพกบฏอย่างพวกเรา พวกเจ้าก็ไม่รอดเช่นกัน! จงรีบหนีไป!
“ประตูเมืองเปิดแล้ว จงหนีไป---”
เหล่าราษฎรที่หลบซ่อนอยู่ในบ้านเรือนของตนได้ยินเสียงแว่ว ๆ ก็รู้สึกกระวนกระวาย
บางคนยืนกรานที่จะหลบซ่อนอยู่ภายในบ้าน
บางคนก็เชื่อคำพูดของหวังโซ่วเหริน จึงพาครอบครัวหนีไปทางประตูเมือง
ทว่ากลับเห็นเจ้าหน้าที่ทหารปิดกั้นอยู่ที่ประตูเมืองนั้น ในชั่วขณะหนึ่ง เหล่าราษฎรก็เกิดความโกลาหล
“อ๊าอ๊าอ๊า! จะฆ่าคนแล้ว!”
“ข้ารู้อยู่แล้ว ฝ่าบาททรงมิสนพระทัยความเป็นความตายของพวกเราอยู่แล้ว!”
“อย่างไรก็ต้องตาย ก็สู้กับพวกเขาเลย!”
ราษฎรที่ถูกบีบให้จนตรอกต้องการจะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทหารจริง ๆ
รุ่ยอ๋องตะโกนขึ้นทันที: “ทั้งหมดหยุดก่อน! ราชสำนักมิใช่เพิกเฉยต่อพวกเจ้า!”
ทว่าคำอธิบายของเขาถูกกลบด้วยเสียงของผู้คนที่ดังจอแจ
ราษฎรเข้ามารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาพยายามสุดชีวิตที่จะออกจากเมือง
เหล่าเจ้าหน้าที่ทหารไม่มีคำสั่งของรุ่ยอ๋อง จะลงมือกับราษฎรมิได้ และมีทหารจำนวนมากถูกหมัดหนัก ๆ ของชาวบ้าน บางคนถูกสตรีดึงผม กระชากชุดเกราะ
พวกนางร้องไห้โวยวาย: “หลีกไป! หลีกไปให้หมด! พวกเจ้าไม่มีพ่อแม่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูหรืออย่างไร? พวกเจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่?”
“ถุย! สุนัขรับใช้ของราชสำนัก!”
“สวรรค์ พวกเราทำผิดสิ่งใด? พวกเราถูกกองทัพกบฏควบคุมเป็นตัวประกัน ฝ่าบาทกลับหลบอยู่ในที่ไกล ๆ เรื่องนี้ก็ถือว่าแล้วกันไป ทว่าเหตุใดแม้แต่พวกเราก็ต้องถูกสังหารด้วย!”
หวังโซ่วเหรินเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ถูกต้อง! มันเป็นเช่นนี้! ต่อให้ราชสำนักจะปราบปรามเมืองเซวียนให้สงบเรียบร้อยอย่างไร คนใต้หล้าต่างก็รู้ว่า ฝ่าบาททรงมิสนพระทัยความเป็นความตายของราษฎร กษัตริย์บีบให้ราษฎรก่อกบฏ ฮ่าฮ่า...”
เขาเงยหน้าพร้อมตะโกนว่า: “ก่อกบฏ! ทุกคนจงต่อต้าน!!”
ขณะกำลังเกิดความโกลาหลอยู่นั้น องครักษ์ใบ้ผู้นั้นก็กระโดดขึ้นหลังม้า เห็นในมือเขาถือคันธนูและลูกธนู และลูกธนูดอกหนึ่งก็ยิงไปสังหารราษฎรที่เป็นหัวโจกก่อจลาจลผู้นั้น
ราษฎรคนอื่นเห็นเช่นนี้ เนื่องจากกลัวตาย ร่างกายจึงแข็งเกร็งตามสัญชาตญาณ ไม่มีการเคลื่อนไหว ในดวงตาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความโกรธแค้น
เสียงดังจอแจหายไปแล้ว มีแต่ความเงียบ
ทันใดนั้น ต่อหน้าฝูงชน องครักษ์ใบ้ผู้นั้นก็ถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นดวงหน้าอันหล่อเหลา น่าเกรงขามและหวาดหวั่น แววตายิ่งคมคายและโหดเหี้ยม ดั่งกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า ทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพยกย่อง...


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...