เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้ว่าตนสลบไปนานแค่ไหนแล้ว ยามที่ลืมตาอีกครั้ง นางกับเซียวอวี้ยังคงอยู่ในเส้นทางนั้น
ทว่านางเห็นแสงสว่างอยู่ด้านหน้าราง ๆ
คาดว่าคงจะใกล้ทางออกมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในเวลาเดียวกันนี้เอง
ภายในวิหารลัทธิเต๋า
ท้องฟ้าสว่างแล้ว
เฉินจี๋และกลุ่มองครักษ์ยังไม่ได้จากไป
ไฟไหม้ใหญ่เมื่อคืนวาน เกือบจะทำลายวิหารลัทธิเต๋าทั้งหมดไปเสียแล้ว
ความโชคดีเพียงหนึ่งเดียวก็คือกลไกนั่นแข็งแกร่งมาก ไฟจึงไหม้ไปไม่ถึงใต้ดิน
เฉินจี๋มั่นใจว่าฝ่าบาทจะต้องปลอดภัยเป็นแน่
เพียงแต่กำแพงอิฐที่ใช้ควบคุมกลไกถูกไฟเผาจนพังทลายไปแล้ว ยามนี้จะช่วยฝ่าบาทออกมา ก็ทำได้แต่ขุดพื้นเท่านั้น
เขาสั่งการให้องครักษ์เหล่านั้นลงมือทันที
ส่วนทางด้านวังหลวง เขาทำได้เพียงปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นย่อมเกิดความโกลาหล
......
เซียวอวี้พาเฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากเส้นทางที่ทั้งแคบและยาวนั้นจนมาถึงมุมหนึ่งของหุบเขา
สองฝั่งเป็นเขาสูงชะลูดที่เต็มไปด้วยอันตรายและลำธารใสกระจ่างที่ส่งกลิ่นหอมหวาน
เขานำเฟิ่งจิ่วเหยียนไปวางไว้ข้างต้นไม้ จากนั้นก็ตรวจดูบาดแผลที่ขา
เฟิ่งจิ่วเหยียนห้ามเขาทันที
“ข้าใส่ยาเองแล้ว”
ยามนี้นางฟื้นฟูพลังกายกลับมาได้บางส่วน ทว่าน้ำเสียงยังคงแหบแห้ง
เซียวอวี้รู้ว่านางยังไม่อยากเปิดเผยตัวตน
ในเมื่อใส่ยาแล้ว คงไม่ได้เป็นอะไรมาก
เขามองนางด้วยแววตาสงบนิ่ง หน้ากากที่ทำจากเงินนั้นเลอะคราบเลือด ที่คางเองก็เช่นกัน
เขายื่นมือออกไปเช็ดให้โดยไม่รู้ตัว
เฟิ่งจิ่วเหยียนตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ จากนั้นนางก็หลบมือของเขาทันที
“ข้าติดค้างน้ำใจท่าน วันหน้าต้องตอบแทนท่านแน่”
เซียวอวี้บีบคางของนางให้หันกลับมา ใช้แรงบังคับเช็คคราบเลือดให้นาง
บนร่างของเขาเองก็มีคราบเลือดไม่น้อยเช่นกัน
อีกทั้งใบหน้าที่หล่อเหลางามสง่าก็เต็มไปด้วยความอ่อนล้า
ทว่าหาได้กระทบต่อความน่าเกรงขามของเขาไม่ เขามองนางอย่างระอาแล้วกล่าว
“หากนับกันจริง ๆ เป็นเราที่ติดค้างเจ้ากับตงฟางซื่อ
“อีกอย่างเจ้าก็เป็นเพื่อนสนิทของเรา
“การที่เราช่วยเจ้าไม่ใช่เรื่องสมควรหรอกหรือ”
ลมหายใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนออกจะแผ่วเบาอยู่บ้าง
“นี่ท่าน...ท่านตั้งใจมาช่วยพวกเราอย่างนั้นหรือ?”
เซียวอวี้ถามกลับ “ไม่เช่นนั้นเล่า? หรือดึกดื่นค่อนคืนเราควรมาเดินเล่นที่วิหารลัทธิเต๋ารึ?”
สตรีผู้นี้ ถึงยามนี้แล้วยังจะถามคำถามเช่นนี้อีก
ทว่าเมื่อย้อนคิดดู ยามนั้นเขาไม่ได้คิดจะเอาชีวิตมาทิ้งที่วิหารลัทธิเต๋านี้ ทั้ง ๆ ที่เขาบอกตัวเองไม่หยุดว่าเขาเป็นฮ่องเต้ เขาจะตายไม่ได้ ทว่ายามที่เห็นประตูกลไกจะปิดลง เมื่อคิดว่านางอาจจะตายอยู่ในนี้ สมองของเขาก็ว่างเปล่าไปหมด แล้วพลันกระโดดลงมาอย่างควบคุมไม่ได้
เป็นเขาที่บุ่มบ่ามเกินไป
ทว่า...
เขาจ้องมองไปที่คนตรงหน้านิ่งแล้วลอบถอนหายใจกับตัวเอง
ครั้งนี้โชคดีที่เขาบุ่มบ่าม
ยามนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก นางประหลาดใจยิ่งกว่าเมื่อคืนวานที่เห็นเซียวอวี้ปรากฎตัวในห้องลับเสียอีก
นางคิดว่าเป็นความบังเอิญที่เขาอยู่ที่นั่นพอดี หรือเขาอาจจะถูกนักฆ่าของพรรคเทียนหลงล่อเข้ามา

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...