ณ ห้องส่วนตัวในโรงพักแรม
เจินเจินคารวะเซียวอวี้อย่างเต็มพิธีการ
“หม่อมฉันคารวะฝ่าบาทเพคะ!”
เซียวอวี้หันไปอธิบายให้เฟิ่งจิ่วเหยียนฟัง
“นี่คือบุตรสาวของเจินหรูไห่ นามเจินเจิน เราสั่งให้นางจัดตั้งกองทัพหญิง”
เจินเจินคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างคนระดับเดียวกัน
เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบ
เจินเจินพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมาว่า
“วันที่ฝ่าบาทเสด็จไปตรวจสอบกองทัพทรงเห็นข้าว่าใช้ทวนยาวได้ดี จึงทรงให้ข้าเข้าร่วมกองทัพตามอุดมการณ์ของข้า ทั้งยังทรงช่วยถอนหมั้นให้ข้า
“ฝ่าบาททรงมีบุญคุณต่อข้า ข้าไม่มีทางทำผิดต่อความคาดหวังนี้เด็ดขาด
“สตรีในเมืองหลวงส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงดูอย่างเอาแต่ใจมาแต่เด็ก ไม่มีเด็กสาวสมัครเป็นทหารหญิงซักเท่าใด ข้าจึงลองมาที่เมืองอันดู
“นึกไม่ถึงว่าจะบังเอิญถึงเพียงนี้...”
ยามที่นางกำลังพูดอยู่ เซียวอวี้สังเกตสีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสีหน้าคลุมเครือ
ทว่าเพราะมีหน้ากากบังอยู่ เขาจึงได้แต่ตัดสินจากแววตาและวงโค้งของมุมปากว่านางอารมณ์ดีหรือไม่ดี
ทว่านางเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมา ทำให้เขาเดาไม่ถูก
เขายอมรับ ตอนแรกนั้นเขารู้สึกว่าเจินเจินมีส่วนที่เหมือนนางจริง ๆ ใช้ทวนยาวเหมือนกัน เป็นสตรีที่แต่งกายเป็นบุรุษเช่นกัน ทั้งยังอยากเป็นแม่ทัพหญิงเหมือนกันอีก
เขาไม่อยากให้คนมีความสามารถถูกฝังกลบไป จึงช่วยเจินเจินซักครั้ง
ทว่าตอนนี้คนทั้งสองพบกันเข้า เขากลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
กลัวก็แต่ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนจะเข้าใจความรู้สึกที่เขามีต่อเจินเจินผิดไป
ยังดีที่เจินเจินไม่ได้พูดเรื่องที่ผ่านไปแล้ว นางแนะนำอาหารขึ้นชื่อสองสามอย่างของเมืองอันให้คนทั้งสองแทน
นางใจกว้างและตรงไปตรงมา อยู่ในช่วงวัยที่งดงามที่สุดของหญิงสาว แต่กลับมีกลิ่นอายสุขุมหนักแน่นอย่างผู้มีประสบการณ์
แม้จะเผชิญหน้ากับฮ่องเต้ของแคว้นก็ยังไม่หวาดกลัว
ไม่เหมือนสตรีนางอื่นที่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดจา
ทว่านี่ก็หมายความว่าเซียวอวี้ไม่ได้ทำให้นางหวาดกลัว
เฟิ่งจิ่วเหยียนอดที่จะวิเคราะห์ต่อไม่ได้
ดูเหมือนว่าความรู้สึกที่เซียวอวี้มีต่อคุณหนูตระกูลเจินผู้นี้จะไม่ธรรมดา
แต่นางไม่ได้คิดว่าเซียวอวี้จะเอาเจินเจินผู้นี้มาแทนที่นาง
เขาชื่นชมสตรีที่ไม่ยอมรับการถูกบังคับ
นางเป็นเช่นนี้พอดี เจินเจินก็เช่นกัน
ทว่าสิ่งที่นางใส่ใจก็คือ เวียวอวี้จะสามารถเปลี่ยนกลับมาชอบสตรีได้หรือไม่
“ฝ่าบาท หลายวันมานี้หม่อมฉันรับสมัครทหารหญิงได้ยี่สิบกว่าคนแล้วเพคะ!”
“ทว่าส่วนใหญ่เป็นเด็กจากบ้านที่ยากจน สิ่งที่ถามถึงมากที่สุดก็คือเบี้ยหวัด...”
ที่จริงแล้วเจินเจินหวังว่าเซียวอวี้จะเพิ่มเบี้ยหวัดให้ทหารหญิง จะได้ดึงดูดให้มีสตรีมาเข้าร่วมกองทัพมากขึ้น
เฟิ่งจิ่วเหยียนฟังอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ได้พูดแทรก
ตอนที่นางคิดจะคีบผัก เซียวอวี้ก็ช่วยคีบใส่จานให้นางแล้ว
ท่าทางนี้ดูเป็นธรรมชาติมาก ราวกับว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นใกล้ชิดกันอย่างมาก
เจินเจินรู้สึกประหลาดใจมาก
ดูเหมือนว่าฝ่าบาทจะทรงปฏิบัติต่อคุณชายซูผู้นี้อย่างสนิทสนมยิ่งกว่ารุ่ยอ๋องเสียอีก

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...