ฝั่งตะวันออกของสนามม้าหลวง ฮ่องเต้และรุ่ยอ๋องยืนอยู่ตรงนั้น ราวกับเพิ่งมาถึงเมื่อครู่
เสียนเฟยรีบเตือนให้นางสนมเจียเข้าไปทำความเคารพ
เมื่อทั้งสองคนเดินมาหยุดตรงหน้าฮ่องเต้ น้ำเสียงก็เบาหวิวดุจเมฆ
“ถวายบังคมฝ่าบาท”
รุ่ยอ๋องเองก็โค้งคำนับให้ทั้งสองคน
“กระหม่อมขอคารวะพระนางทั้งสอง”
นัยน์ตาของเขามักจะแฝงไปด้วยแววอบอุ่นเจือรอยยิ้ม มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนนิสัยดี
เซียวอวี้ละสายตาจากทิศทางที่ฮองเฮาขี่ม้าออกไป ทอดมองมายังทั้งสองคน
“ไม่ต้องพิธีรีตองมาก”
เสียนเฟยถอยไปอยู่หลังเขาอย่างสงบเสงี่ยม
ส่วนนางสนมเจียรีบคว้าโอกาสที่นาน ๆ ทีจะมีครั้งไว้อย่างตื่นเต้น
“ฝ่าบาท ท่านเสด็จมาขี่ม้าหรือเพคะ?”
เซียวอวี้ไม่ตอบนาง แต่เดินผ่านนางไป
รุ่ยอ๋องรีบเดินตามไปทันที
“พระนางทั้งสองผู้หนึ่งอ่อนหวานเรียบร้อย ผู้หนึ่งสดใสร่าเริง ฝ่าบาทช่างโชคดีเหลือเกิน”
คิ้วของเซียวอวี้คมปลาบ “อิจฉาหรือ? เช่นนั้นพรุ่งนี้เราจะมอบหมายคู่หมั้นให้เจ้า”
รุ่ยอ๋องประสานมือรับผิดด้วยรอยยิ้มทันที
“กระหม่อมผิดไปแล้ว!”
จากนั้น เขาก็เอ่ยถามอย่างจริงจัง
“แต่ได้ยินมาว่าเหล่านางสนมในวังหลังต่างมาฝึกขี่ม้าที่นี่ แต่ทำไมกระหม่อมเห็นแค่สองคนล่ะ?”
เซียวอวี้ไม่แยแส
หากฮองเฮาไม่บังคับ ก็แทบจะไม่มีใครฟังที่นางพูด แล้วจะให้เรียนขี่ม้าได้อย่างไร
การแข่งขันขี่ม้าโปโลในครั้งนี้ ไม่มีทางจัดขึ้นได้อย่างแน่นอน
……
ม้าดีต้องคัดสรร ย่อมจำเป็นต้องมีคนขี่ที่ดี
หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนขี่อยู่บนม้าตัวนั้นแล้ว มันก็เลิกพยศในทันที นอกจากเชื่องแล้วยังมีแรงคึก วิ่งออกไปหลายลี้ในชั่วอึดใจเดียว
เสียงลมหวือพัดผ่านใบหู
นานแล้วเหมือนกันที่นางไม่ได้ขี่ม้าอย่างดุเดือดเช่นนี้
“ย่ะ!”
ม้าตัวนั้นเหมือนฮึกเหิม จึงวิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
ผ่านไปสองเค่อยาม
แสงอาทิตย์สอดส่องผ่านชั้นเมฆ สะท้อนลงใจกลางอุทยานหลวง
หนึ่งคนและหนึ่งม้าพักผ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่
ม้ายืนพัก ส่วนเฟิ่งจิ่วเหยียนนอนราบบนพื้นหญ้า ใช้มือข้างหนึ่งรองท้ายทอยไว้ ส่วนอีกข้างวางบนดวงตา เพื่อบังแสงแดด
ฟี้ ๆ ——
แผ่นอกกระเพื่อมไหวตามจังหวะการหายใจ แต่มุมปากเผยอออก
“ตระกูลเฟิ่งอบรมสั่งสอนกิริยาเจ้ามาเช่นนี้หรือ?”
ทันใดนั้นเสียงจับผิดของคนผู้หนึ่ง พลันดึงอิสระชั่วคราวของนางกลับมา
เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นทันที
จึงเห็นฮ่องเต้ในฉลองพระองค์สำหรับทรงม้า จดจ้องมาที่นางอย่างเย็นชา
ราวกับว่านางทำเรื่องผิดร้ายแรงเอาไว้
นางสงบลงอย่างรวดเร็ว ปรับอารมณ์ แล้วโค้งคำนับตามธรรมเนียมของวังด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“ถวายบังคมฝ่าบาท”
เมื่อม้าตัวนั้นเห็นเซียวอวี้ ก็พุ่งเข้ามาหาอย่างคุ้นเคย ลืมเลือนไปหมดสิ้นว่าเมื่อครู่มันเข้ากับเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ดีเพียงใด
เฟิ่งจิ่วเหยียนยิ้มเยาะในใจ
สตรีในวังหลังห้อมล้อมฮ่องเต้ไม่เท่าไร แม้แต่ม้าก็ยังเป็นเช่นนั้น!
ด้านหลังของเซียวอวี้มีม้าอยู่หนึ่งตัว ขณะนี้กำลังกินหญ้าอย่างเชื่อง ๆ
ดูเหมือนเขาจะแค่บังเอิญขี่ม้าผ่านมาทางนี้
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...