เมื่อเหล่านางสนมวิ่งออกไป ก็พบว่าฝ่าบาทเสด็จกลับไปตั้งนานแล้ว
พวกนางรู้สึกเสียดาย
ไม่น่าแอบอู้เลย ไม่อย่างนั้นก็คงได้เจอฝ่าบาทแล้ว
โอกาสที่พวกนางจะได้เจอฝ่าบาทมีอยู่น้อยยิ่งนัก
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกลับแล้ว มีเพียงกุ้ยเฟยที่ยังอยู่ที่เดิม
นางย่อมไม่จำเป็นต้องกระเหี้ยนกระหือรือเหมือนคนอื่น
ตราบใดที่นางอยากเจอฝ่าบาท นางก็สามารถเจอได้ทุกเมื่อ
นางสนมเจียเก็บงำเอาไว้ไม่ได้ จึงนำเรื่องนี้ไปบอกกล่าวกับทุกคนอย่างอดรนทนรอไม่ไหว
จากนั้นก็ถูกส่งต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งยังใส่สีตีไข่ พูดเสียจนฟังดูสวยหรู
สำหรับนางสนมที่มีโอกาสน้อยนักในการได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท ต่างชวนให้รู้สึกอิจฉา
แทนที่จะทนเปล่าเปลี่ยวอยู่ในตำหนัก สู้ออกมาเสี่ยงดวงที่สนามม้าหลวงยังจะดีกว่า
วันต่อมา ยังไม่ถึงเวลาฝึก เหล่านางสนมก็มาที่สนามม้าหลวงกันแล้ว
ทว่า หลังจากนั้นอีกหลายวัน ฝ่าบาทก็ไม่ได้เสด็จมาที่สนามม้าหลวงอีกเลย
ทุกคนต่างทอดถอนใจกันอีก
“นางสนมเจียแค่โชคดี ผู้ใดสามารถรับรองได้ว่าพวกเราจะโชคดีได้เจอฝ่าบาทเช่นนั้น?”
“นั่นสิ ใช่ว่าฝ่าบาทจะเสด็จมาที่สนามม้าหลวงทุกวันเสียหน่อย ข้าว่าพวกเรากลับไปเล่นไพ่นกกระจอกเหมือนเดิมดีกว่า”
พลันมีเสียงแผ่วเบาดังขึ้นมาท่ามกลางผู้คน
“แต่โอกาสที่ฝ่าบาทจะเสด็จมาสนามม้าหลวง ต้องมากกว่าจำนวนครั้งที่มาตำหนักของพวกเราเป็นแน่”
เมื่อถ้อยคำนี้หลุดออกมา ทุกคนต่างเงียบไปครู่หนึ่ง
“เจ้าพูดก็ถูก ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทเสด็จไปแต่ละตำหนัก ก็เพราะฮองเฮาบังคับให้เขากระจายความเมตตาอย่างเท่าเทียม ตั้งแต่นั้นก็ไม่เคย…เฮ้อ ข้าว่า เราตั้งใจฝึกดีกว่า ไม่ช้าก็เร็วฝ่าบาทคงเสด็จมาอีก”
ทันใดนั้น พลันมีเสียงเสียดสีดังมาจากข้างหลังทุกคน
“ทำไมกัน ตอนนี้ทุกคนคิดว่าขี่ม้าเป็นเรื่องง่ายหรืออย่างไร?”
เมื่อหันไปมอง ก็พบว่าเป็นหนิงเฟยที่ก่อนหน้านี้ไปเข้าเฝ้าไทเฮาตลอด
แล้วทำไมนางถึงมา?
หนิงเฟยมองสำรวจพวกนาง แล้วเอ่ยขึ้นต่อ
“อย่างแรกชุดขี่ม้านี้ก็ไม่ใช่ว่าใครใส่แล้วจะเคยชิน
“อย่างเช่นนางสนมจวง พอสวมชุดขี่ม้า ก็ยิ่งทำให้เห็นชัดเจนว่าหน้าอกของเจ้าแบนราบเหมือนแผ่นหลัง ฝ่าบาทมาเห็นคงหมดอารมณ์”
นางสนมจวงที่ถูกหัวเราะเยาะก้มหน้าลงอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ จากนั้นก็ก้าวถอยไปอยู่หลังฝูงชน
หนิงเฟยเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“อีกอย่าง พวกเจ้าเตรียมใจมาตกจากหลังม้าแล้วหรือไม่? ยิ่งกว่านั้น ทุกครั้งหลังขี่ม้าเสร็จ ระหว่างขาทั้งสองข้างก็จะถูกเสียดสีจนบวมแดง หนักเข้าหน่อย วันรุ่งขึ้นคงเดินไม่ได้
“คนที่ขี่ม้าเก่ง ถึงได้น่ามอง สามารถเข้าตาฝ่าบาทได้
“หากขี่ม้าแบบเงอะงะ ใครจะไปอยากมอง? มีแต่จะทำให้ฝ่าบาทรำคาญพวกเจ้ามากกว่าเดิม”
แม้นคำพูดของหนิงเฟยจะไม่น่าฟัง แต่ก็สมเหตุสมผล
แต่กระนั้นก็มีคนถามว่า
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หนิงเฟยมาทำไมล่ะ?”
หนิงเฟยเบ้ปาก
“ข้าก็แค่ผ่านมาเท่านั้น”
หลังอาหารมื้อเย็น
ภายในตำหนักหย่งเหอ
นางคิดออกแล้ว ว่าจะไล่ต้อนกุ้ยเฟยอย่างไร
……
“เกล็ดน้ำค้างโบยบินดั่งหิมะ? มันคือสิ่งใดหรือ?” นางสนมเจียมีสีหน้าสงสัย
หลังจากที่สาวใช้แอบบอกนาง นางก็ประหลาดใจปนลิงโลด
“เช่นนี้ก็หมายความว่า หากข้าเรียนกระบวนท่าเกล็ดน้ำค้างโบยบินดั่งหิมะได้ ก็จะสามารถดึงดูดความสนใจจากฝ่าบาทได้อย่างนั้นน่ะสิ?”
สาวใช้รีบพยักหน้า
“เพคะ พระนาง แต่เรื่องนี้ถูกส่งต่อออกไปแล้ว พระนางต้องรีบคว้าไว้นะเพคะ!”
นางสนมเจียค่อนข้างมั่นใจ “ปกติพวกนางไม่เคยฝึกซ้อม แล้วจะมาสู้ข้าได้อย่างไร”
หลายวันต่อมา
“พระนางเพคะ เป็นดั่งที่ท่านคาดคิดเอาไว้ มีหลายคนกำลังฝึกกระบวนท่าเกล็ดน้ำค้างโบยบินดั่งหิมะ แต่ทางกุ้ยเฟยยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร”
นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเรียบนิ่ง แฝงไปด้วยไอสังหาร
“ส่งต่อคำสั่งของข้าออกไป ช่วงนี้อากาศเย็น กุ้ยเฟยมีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง ไม่ต้องมาที่สนามม้าก็ได้”
“เพคะ พระนาง!”
……
ณ ตำหนักหลิงเซียว
“ให้ข้าพักผ่อนอย่างนั้นหรือ?”
กุ้ยเฟยขมวดคิ้ว
ฮองเฮาหวังดีเช่นนี้จริง ๆ หรือ?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...