สิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเขียนภายในจดหมายนั้น เป็นเพียงการเล่าสถานการณ์คร่าว ๆ เท่านั้น ในยามนี้จึงได้โอกาสเล่ารายละเอียดขอ
งเหตุการณ์ให้กับฮูหยินเฟิ่งได้ฟังเสียที
หลังจากนั้น ทั้งสามแม่ลูกก็พากันหารือว่าควรจะจัดการกับความสัมพันธ์ของตระกูลซ่งอย่างไร
เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงแนะนำออกไปว่า: “สิ่งที่สำคัญที่สุดในยามนี้คือการเปิดเผยเรื่องรางให้ทั้งสองฝั่งได้ทราบ หากพวกท่านมิมีความเห็นอันใดละก็ ข้าจักได้จัดเตรียมรถม้าไปหาตระกูลซ่งที่จางโจวเลย เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจของฝั่งพวกเรา”
ฮูหยินเฟิ่งพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เจ้าพูดถูก พวกเราต้องไปหาตระกูลซ่ง”
“แล้วท่านพ่อ...” เวยเฉียงเอ่ยเสียงเบาถึงคนที่ถูกละเลยออกมา
ใบหน้าของฮูหยินเฟิ่งดูไม่พอใจเล็กน้อย
เมื่อคิดไปถึงสิ่งที่เขาทำนั้น นางอยากจะบีบคอเขาให้ตายเสียด้วยซ้ำ
เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเป็นคนกล่าวออกมาว่า: “ข้าจะไปคุยกับท่านพ่อเอง”
ห้องข้าง ๆ
นายท่านเฟิ่งร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางเอ่ยถามเฟิ่งจิ่วเหยียน
“แทนที่จะให้ตระกูลซ่งมาหาพวกเราแทน เหตุใดพวกเราต้องไปจางโจวด้วย? ข้าไม่ไป! บุตรสาวของข้ายังต้องกังวลด้วยหรือว่าจะแต่งออกไปไม่ได้? ในเมื่อตระกูลซ่งไม่ต้องการนาง มีอีกหลายตระกูลที่ต้องการนางเช่นกัน!”
ท่าทีของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเย็นชาและแข็งกร้าวขึ้นมาในทันที
“หากท่านมิอยากไป มารดาไปเพียงผู้เดียวก็ย่อมได้
“ สิ่งที่ตระกูลซ่งต้องการนั้น คือความจริงใจจากตระกูลเฟิ่ง
“ขาดท่านไปสักคนก็หาได้เป็นอันใดไม่”
นายท่านเฟิ่งพันตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที
“เจ้าเด็กหัวรั้น! ข้าเป็นถึงหัวหน้าครอบครัว บุตรสาวจักแต่งออกไปทั้งที ต้องเป็นข้าที่เป็นคนจัดการเท่านั้น!”
เย็นวันนั้น ทั้งสองสามีภรรยาตระกูลเมิ่งมาพร้อมกับของขวัญ
นายท่านเฟิ่งจึงหาเรื่องในทันที ยืนกรานจะอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปพบปะพวกเขาที่ข้างนอก
“จะไปหาพวกเขาทำไมกัน! เลี้ยงดูบุตรสาวที่น่ารักของข้าจนกลายมาเป็นเช่นนี้ ยังคิดว่าข้าต้องไปขอบคุณพวกเขาอีกหรือ!”
ดังนั้น คนอื่น ๆ ต่างพากันพูดคุยหัวเราะเฮฮาอยู่ภายในห้องโถง มีเพียงนายท่านเฟิ่งที่มัวแต่อุดอู้อยู่ในห้องอยู่คนเดียวเท่านั้น
เขาคิดว่าจักมีคนมาเชื้อเชิญเขา จนกระทั่งสองสามีภรรยาตระกูลเมิ่งออกไปแล้ว ก็หาได้มีผู้ใดมาตามเขาไม่
นายท่านเฟิ่งโกรธเกรี้ยวมากเสียจนกัดฟันกรอดออกมา
เขาเกลียดชายแดนเหนือแห่งนี้
ยามที่อยู่ในเมืองหลวงนั้น เขาเป็นถึงหัวหน้าตระกูล หาได้มีผู้ใดกล้าดูถูกเขาไม่
พอมาถึงชายแดนเหนือ ทุกคน... ต่างก็รังแกเขา! ! !
วันรุ่งขึ้น
ทุกคนในครอบครัวต่างพากันขึ้นรถม้า
นายท่านเฟิ่งก็อยากขึ้นรถม้าด้วยเช่นกัน ทว่า กลับถูกฮูหยินเฟิ่งเอ็ดกลับมา
“ข้าอยากจะคุยกับบุตรสาว ท่านไปนั่งคันข้างหลังเสีย!”
คนขับรถม้าที่อยู่คันด้านหลังคือต้วนเจิ้ง เป็นคันที่บรรทุกสัมภาระ อาหารแห้งและแม้แต่หญ้าม้าเอาไว้
นายท่านเฟิ่งจึงได้แต่ปีนขึ้นไปนั่งด้วยความหดหู่
เมื่อคืนเขานอนแยกห้องกับฮูหยิน เดิมทีคิดว่านางจะหายโกรธเขาบ้างแล้ว ผู้ใดจักไปคิดกันว่านางยังโกรธเขาอยู่
จางโจวอยู่ไม่ไกลจากชายแดนเหนือมากนัก ใช้เวลาขับรถม้าเพียงห้าวันก็มาถึง
เมื่อขบวนพากันมาถึงโรงพักแรมนั้น สองพี่น้องจึงพากันนอนห้องหนึ่ง อู๋ไป๋และต้วนเจิ้งนอนอยู่หนึ่ง
นายท่านเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่งที่ถูกทิ้งเอาไว้นั้น ฮูหยินเฟิ่งยังมิยอมให้อภัยสามีที่ส่งบุตรสาวของนางไปทนทุกข์ยากได้ ไม่ว่าอย่างไรก็มิคิดจะนอนร่วมห้องกับเขา
เฟิ่งเวยเฉียงที่สูญเสียความทรงจำไปนั้น ย่อมมิเข้าใจเรื่องราว
นายท่านเฟิ่งรู้สึกน้อยใจยิ่งนัก เขามิผิด! เขาทำทุกอย่างเพื่อตระกูลเฟิ่ง!
วันพรุ่งนี้จะเป็นการไปเยี่ยมเยียนตระกูลซ่งแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงมาที่ห้องของนายท่านเฟิ่ง เพื่ออธิบายบางสิ่งบางอย่างให้เขาฟัง
นายท่านเฟิ่งจึงตั้งใจฟังเป็นอย่างดี หาได้มีท่าทีโต้แย้งอันใดไม่
จนกระทั่งเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังจะจากไป จู่ ๆ นายท่านเฟิ่งก็พูดขึ้นมา
“ฝ่าบาทยังมิได้สถาปนาฮองเฮาคนใด ทั้งยังปลดนางสนมในวังหลังจนหมด ทั้งเจ้าและฝ่าบาท…”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...