กุ้ยเฟยดูราวกับเป็นพวกถ้ำมอง ดวงตาดำมืดฉายแววบ้าคลั่ง
ก่อนหน้านี้ไม่ว่านางจะได้ยินข่าวลือมากแค่ไหน ไม่ว่าฝ่าบาทจะไม่มาที่ตำหลักหลิงเซียวกี่วัน นางก็ยังเชื่อมั่นว่าฝ่าบาทไม่มีทางชายตามองนางสนมเจียเป็นแน่
นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่นางต้องมาเห็นนางสนมเจียทำตัวจนโดดเด่น เห็นนางสนมเจียถูกฝ่าบาทเรียกตัว...
กุ้ยเฟยยืนอยู่ในเงามืด สองมือกำแน่น ใจเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง
กับคนที่ไม่พึงใจแล้ว ฝ่าบาทไม่มีทางแสร้งพูดจาดีด้วย
เขาจะเดินจากไป ไม่ก็สั่งให้นางสนมเจียออกไป
แต่ผ่านไปพักหนึ่งแล้ว นางสนมเจียยังอยู่ตรงนั้นอยู่เลย...
“พระสนมเพคะ ข้างนอกลมแรงนัก เรากลับตำหนักหลิงเซียวกันดีหรือไม่เพคะ?” ชุนเหอเสนอเสียงเบา
พระสนมอารมณ์ไม่ดีแล้ว
หากยังอยู่ต่อไป เกรงว่าจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
กุ้ยเฟยถามอย่างอยากเอาชนะ
“นางสนมเจียขี่ม้าแบบนี้แล้วเหมือนหรงเฟยมากหรือไร!”
ชุนเหอกล้าตอบเสียที่ไหน
“นางสนมเจียเป็นแต่พูดเอาอกเอาใจ เทียบไม่ได้กับพระสนมที่งดงามทุกย่างก้าว หาใครเทียบเทียมมิได้”
ยามนี้กุ้ยเฟยอยากฟังแต่ความจริงเท่านั้น
“บอกข้ามาตามจริงซะ!”
ก่อนที่ชุนเหอจะมารับใช้กุ้ยเฟย นางเคยเป็นคนรับใช้ในวังมาก่อน
นางเคยพบหรงเฟยเป็นตัวเป็น ๆ มาก่อน
“เรียนพระสนม จากความคิดเห็นอันต่ำต้อยของข้าน้อย ยามที่นางสนมเจียขี่ม้านั้นเหมือน... ”
ในดวงตาของกุ้ยเฟยนั้นบรรจุไปด้วยความดำทะมึนดุร้ายและความไม่ยินยอม
ฝ่าบาททรงไม่อาจลืมหรงเฟยได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ
......
บนปะรำพิธี
นางสนมเจียพูดจ้อไม่หยุด
“ฝ่าบาท ในความฝันพี่หรงเฟยรับปากว่าวันนี้จะช่วยเป็นแรงสนับสนุนให้หม่อมฉัน”
“เดิมหม่อมฉันเองก็รู้สึกว่าช่างแปลกประหลาดมหัศจรรย์นัก”
“ทว่าเมื่อครู่ยามที่หม่อมฉันทำการแสดง จู่ ๆ ก็รู้สึกราวกับมีเทพเซียนมาช่วยเหลือเพคะ”
“บางทีอาจจะเป็นพี่หรงเฟยแสดงอิทธิฤทธิ์...”
สีหน้าของเซียวอวี้นิ่งเงียบราวกับน้ำนิ่ง
แม้แต่หลิวซื่อเหลียงที่ปรนนิบัติรับใช้เขามาหลายปีก็ยังไม่อาจมั่นใจ ว่านี่ฝ่าบาทกำลังระลึกถึงหรงเฟย หรือกำลังสงสัยคำพูดนี้ของนางสนมเจียกันแน่
เมื่อนางสนมเจียกล่าวจบ เซียวอวี้ก็เอ่ยถาม
“ท่าเกล็ดน้ำค้างโบยบินดั่งหิมะของเจ้า เรียนด้วยตนเองรึ”
นางสนมเจียคิดไตร่ตรองแล้วตอบ
“ใช่แล้วเพคะ แต่หม่อมฉันโง่เขลา เรียนได้ไม่ดีนัก”
ในดวงตาที่ดำขลับของเซียวอวี้นั้นคล้ายกับมีผลึกน้ำแข็ง สายตาคมปลาบส่งคำพูดให้นางสี่คำ
“ตงซือขมวดคิ้ว [1]”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
นางสนมเจียนิ่งงันค้างอยู่กับที่ ใบหน้าจากแดงเป็นขาว จนเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ
นางได้รับการโจมตีอย่างรุนแรง จนเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว
หลิวซื่อเหลียงเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกสงสารอยู่บ้าง
อันที่จริงแล้วนางสนมเจียทำได้ดีมาก แม้แต่เขาเองยังรู้สึกว่าคล้ายหรงเฟยยิ่ง
เป็นที่ฝ่าบาทโหดร้ายกับเหล่านางสนมมากเกินไป
เมื่อไทเฮาเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจ
“เหตุใดจึงจากไปเร็วเช่นนี้เล่า? หรือเขาจะไม่พึงพอใจในตัวนางสนมเจียหรือ?”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...