ถึงแม้ว่ากุ้ยเฟยจะขี่ม้าเป็น แต่นางก็ไม่ได้ขี่ม้ามานานมากแล้ว
ก่อนที่จะแสดงให้ฝ่าบาทดู ล้วนต้องฝึกฝนเสียก่อน และสถานที่เดียวในวังที่สามารถขี่ม้าได้ก็คือสนามม้าหลวง
“เจ้าว่ากระไรนะ? พระสนมของพวกเราเข้าไปไม่ได้งั้นหรือ?” ชุนเหอแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
เจ้าสุนัขรับใช้ของสนามม้าหลวงนี่ ถึงกับกล้าขัดขวางพระสนม!
ณ ประตูทางเข้าสนามม้าหลวง
ผู้ดูแลสนามม้าหลวงยิ้มแหย ใบหน้าขื่นขมด้วยความลำบากใจ
“กุ้ยเฟย ไม่ใช่ว่าข้าน้อยขัดขวางท่าน เป็นเบื้องบนมีคำสั่งลงมา ข้าน้อยไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!”
ใบหน้าของกุ้ยเฟยเย็นวาบ
ในวังหลังแห่งนี้ยังมีสถานที่ที่นางไม่อาจเข้าไปได้?
เรื่องอย่างการโต้เถียงกันเช่นนี้ ยังไม่ถึงคราวที่กุ้ยเฟยจะต้องออกปากเอง
ชุนเหอออกหน้าซักถาม
“ก่อนหน้านี้พระสนมก็เข้าไปได้ เหตุใดวันนี้จึงเข้าไม่ได้? นี่กฎของผู้ใดกัน?”
ผู้ดูแลเช็ดเหงื่อแล้วเช็ดเหงื่ออีก
“เป็น...เป็นฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮาทรงตรัสว่า สนามม้าหลวงแห่งนี้มีม้าและอุปกรณ์ขี่ม้าอยู่จำกัด มีเพียงเหล่าพระสนมที่เข้าร่วมการแข่งขี่ม้าโปโลเท่านั้นจึงจะเข้ามาได้ อีกทั้งยังต้องได้รับการอนุญาตจากกพระนาง ถึงจะสามารถ...”
“บังอาจ!” สายตาของกุ้ยเฟยดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก
เฟิ่งเวยเฉียงนังแพศยานั่น นางมีสิทธิ์ทำเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน!
ผู้ดูแลถูกกดดันจนก้มหัวต่ำลงเรื่อย ๆ
“ฮองเฮาทรงทำเพื่อความปลอดภัยของพระสนมทุกพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
“กุ้ยเฟยพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยเพียงปฏิบัติตามคำสั่ง ขอท่านได้โปรดอย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจเลยพ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮาไม่ทรงอนุญาต ถ้าหาก...ถ้าหากฝ่าบาททรงอนุญาตล่ะก็ ข้าน้อยย่อมต้องเปิดประตูให้ท่านอย่างไม่กระบิดกระบวนแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮองเฮาเขามิอาจล่วงเกิน สนมรักของฝ่าบาทเขายิ่งไม่อาจที่จะล่วงเกินได้
......
ณ ตำหนักหย่งเหอ
หลิวซื่อเหลียงมาเชิญคนด้วยตนเอง
“ฮองเฮา ฝ่าบาททรงเรียกท่านไปซักถามพ่ะย่ะค่ะ”
เหลียนซวงถามฮองเฮาอย่างวิตกกังวล
“ฮองเฮา ต้องเป็นกุ้ยเฟยไปฟ้องฮ่องเต้แน่เลยเพคะ”
เฟิ่งจิ่วเหยียนวางพู่กันในมือลงบนแท่นวางพู่กันหยก
ทั่วร่างแสดงให้เห็นถึงความสงบนิ่งที่แม้ไท่ซานจะถล่มลงก็ไม่อาจทำให้นางเปลี่ยนสีหน้าได้ นางออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เฉยชา
“เปลี่ยนชุด”
หลังเวลาผ่านไปสองเค่อ [1]
ภายในห้องทรงพระอักษร
เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้ามาในห้อง ก็เห็นฮ่องเต้นั่งอยู่หลังโต๊ะ ส่วนกุ้ยเฟยยืนอยู่ข้างกายเขา โฉมสราญผู้นี้สองตาแดงระเรื่อ อ่อนช้อยบอบบางดั่งกิ่งหลิวที่ลู่ลม
“หม่อมฉันคารวะฝ่าบาทเพคะ”
คิ้วตาของเซียวอวี้น่าเกรงขาม กรามแกร่งคมคร้าม
“ฮองเฮาช่างน่าเกรงขามยิ่ง ต่อไปเมื่อเราจะไปสนามม้าหลวง ก็ต้องขออนุญาตจากเจ้ารึ!”
ดูเผิน ๆ กุ้ยเฟยเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรม ทว่าในแววตากลับซ่อนคมมีดเอาไว้
นังแพศยานี่คิดหรือว่ามีตราประทับทองแล้วก็สามารถทำตามอำเภอใจได้?
เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...