เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ามา ใบหน้านิ่งเฉยมองไปทางเซียวอวี้
จู่ ๆ เขาก็บอกว่าตนเองจะกลับวังหลวง ไม่อธิบายล่วงหน้า กลับมาพูดเอาวันที่จะต้องจากไป ไม่ใช่เพราะตั้งใจ อยากเห็นนางลนลานหรอกหรือ
“ไม่มีอะไรจะพูด” แววตาของนางสงบดั่งน้ำนิ่ง
สีหน้าของเซียวอวี้ตอนนี้ไม่น่าดูนัก
นางไร้น้ำใจเพียงนี้เชียวหรือ?
เขาเริ่มสงสัยจริง ๆ แล้วว่านางเพียงต้องการร่างกายของเขาเท่านั้น!
ระหว่างที่เซียวอวี้กำลังโศกเศร้านี้เอง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ถามกลับว่า
“ไม่ใช่ว่าพวกเราไปทางเดียวกันหรือ?”
เขากลับเมืองหลวง นางไปเมืองโบ๋วโจว ล้วนต้องลงใต้ทั้งคู่
แบบนี้แล้วหากจะบอกลากันตอนนี้ ออกจะเร็วไปเสียหน่อย
เซียวอวี้จึงได้สติกลับมา “เจ้าจะออกเดินทางไปกับเราหรือ?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบ
“แน่นอน การเดินทางไปเมืองโบ๋วโจวเป็นเรื่องด่วน”
......
เมื่อรู้ว่าจิ่วเหยียนจะไปแล้ว แม้ฮูหยินเมิ่งจะไม่อาจทำใจได้ ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร
แต่ไหนแต่ไรมาเด็กคนนี้ก็ไปมาดุจลม อยู่ได้เพียงไม่นาน
คำพูดพร่ำบ่น นางก็ไม่คิดจะพูดแล้ว จึงส่งเค้กเกาลัดถุงหนึ่งให้เฟิ่งจิ่วเหยียนนำไปกินระหว่างทาง
เพื่อให้ง่ายต่อการเดินทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงแต่งกายเป็นบุรุษ กลับมาสวมหน้ากากเงินชิ้นนั้นอีกครั้ง เมื่อออกจากจวนแม่ทัพ นางก็กลายเป็นซูฮ่วนแล้ว
เมื่อถึงเวลาต้องแยกจากกัน เวยเฉียงจับมือพี่สาวเอาไว้ แววตาเศร้าสร้อย
“ท่านพี่ เหตุใดจึงต้องไปอีกแล้วเล่า?”
สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนมีความอ่อนโยนอยู่หลายส่วน แล้วพูดกำชับนาง
“ก่อนหน้านี้ข้าซื้อชุดสตรีมาหลายชุด ไม่เคยได้ใส่ ร่างกายของพวกเราเท่า ๆ กัน เจ้าเอาไปใส่เถอะ อย่าคิดมาก รอเป็นเจ้าสาวอย่างสบายใจเถิด
“มีเรื่องอะไรก็เขียนจดหมายมาหาข้า”
เวยเฉียงพยักหน้าเบา ๆ “ท่านพี่ ท่านก็รักษาตัวด้วย ท่านแต่งงานเมื่อไหร่ ข้าจะต้องไปแน่นอน”
น้ำเสียงเฟิ่งจิ่วเหยียนมั่นคง “ได้ ข้าไปล่ะ อย่าร้องไห้”
เฟิ่งเวยเฉียงค่อย ๆ ปล่อยมือนาง พยักหน้า แล้วมองส่งนางขึ้นรถ
คนขับรถม้าคือหยิ่นลิ่ว
เขาหันไปมองผู้ที่อยู่ในรถม้าแล้วพูดว่า
“คุณชายซู ฝ่าบาททรงประทับอยู่ที่ค่ายเป่ยต้า เขากำชับข้าแต่เนิ่น ๆ ว่าหลังจากข้ารับท่านแล้ว ให้ตรงไปที่ค่ายทหาร”
“อืม” เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งเสียงตอบ แล้วพิงพนังพักผ่อน
เมื่อคืนวานเหนื่อยล้าอยู่บ้าง
ณ ค่ายเป่ยต้า
เซียวอวี้ตรวจสอบค่ายกองทัพเป็นรอบสุดท้าย แล้วพูดกับเมิ่งฉวี
“เรื่องแผนปฏิรูป รอเรากลับวังเรียกแม่ทัพสองสามท่านมาปรึกษาแล้วค่อยตัดสินใจ”
เขามีฐานะเป็นฮ่องเต้ เมื่อมองจากระยะยาวก็รู้ได้อย่างดีว่ามีเพียงการปฏิรูปเท่านั้น ที่จะทำให้กองทัพใหญ่แคว้นหนานฉีเกรียงไกรยิ่งขึ้น
ทว่าการปฏิรูปจะต้องทำอย่างเด็ดขาด ต้องรอบคอบ
นี่ไม่ใช่เรื่องที่พูดไม่กี่คำก็สรุปได้
เฉินจี๋เข้ามาในกระโจม คารวะแล้วรายงานเซียวอวี้
“ฝ่าบาท รถม้ามาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
คนเรามีพบก็มีจาก
เมิ่งฉวีส่งฮ่องเต้ถึงนอกค่าย ก็เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ข้างรถม้า
“อาจารย์” นางโค้งคำนับและกล่าวอำลา
เมิ่งฉวีกำชับนางอย่างเอาจริงเอาจัง “จากนี้ไปเจ้าต้องคอยสนับสนุนฝ่าบาทให้ดี”
เฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปทางเซียวอวี้ “อาจารย์ วังหลังไม่อาจก้าวก่ายเรื่องบ้านเมืองได้เจ้าค่ะ”
เซียวอวี้ยิ้มอย่างไม่แยแส
“เรื่องบ้านเมืองที่เจ้ายุ่งก็ไม่น้อยนะ”
เมิ่งฉวีรู้ตัวว่าตนพลั้งปากจึงเปลี่ยนเรื่อง “ทำหน้าที่ฮองเฮาให้ดีก็เป็นการช่วยสนับสนุนฝ่าบาทเช่นกัน”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...