โรงพักแรมเวี่ยหลัย
เฟิ่งจิ่วเหยียนมาหาติงหยวนเอ๋อร์
ผู้ป่วยพลางนอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง พร้อมด้วยลูกศิษย์ร่วมสำนักสองคนคอยดูแลอยู่
“รองเจ้าสำนัก…” ติงหยวนเอ๋อร์พยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียง
เหลิ่งเซียนเอ๋อร์รีบก้าวไปข้างหน้า พลางกล่าวว่า “นอนลงดี ๆ เถิด”
สายตาของติงหยวนเอ๋อร์มองผ่านคนอื่น ๆ ไปจนหยุดที่ร่างของเฟิ่งจิ่วเหยียน
“เป็นท่านที่ช่วยข้าเอาไว้”
ถึงแม้เมื่อวานร่างกายของนางจักอ่อนแรง ทว่า จดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
หากมิใช่เพราะคุณชายท่านนี้ละก็ นางก็มิรู้ว่าตนเองจักต้องพบเจอกับอะไรบ้าง
ภายในห้องมิอาจมีพื้นที่ให้คนรั้งอยู่ได้มากมายนัก ดังนั้น ทั้งเซียวอวี้และเจียงหลินจึงออกมาอยู่ด้านนอกห้องแทน
เจียงหลินยกสองแขนขึ้นมากอดอก ก่อนจะประเมินดูเซียวอวี้ พลางเอ่ยถามว่า
“สหายเซียว ตกลงเจ้าเป็นใครกันแน่?”
ผู้ที่สามารถเชิญกองทัพพิทักษ์เมืองไท่ชางมาได้นั้น ย่อมมิใช่คนยุทธภพธรรมดาอย่างแน่นอน
เซียวอวี้มิตอบอันใดกลับไป เขาเอาแต่จดจ่อมองเข้าไปภายในห้องด้วยความเหม่อลอย
เฉินจี๋ที่อยู่ด้านข้างนั้น นึกเป็นกังวลเกี่ยวกับวรกายมังกรยิ่งนัก
เมื่อคืนวานฝ่าบาทพิจารณาคดีทั้งคืน ในยามนี้ยังออกมาที่โรงพักแรมเป็นเพื่อนเฟิ่งจิ่วเหยียนอีก พระองค์หาได้พักผ่อนเลยแม้แต่น้อย จักปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปได้อย่างไร?
ภายในห้อง
เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยซักถามติงหยวนเอ๋อร์
“เจ้าจำได้หรือไม่ ว่าเป็นผู้ใดที่ลักพาตัวเจ้าไป?”
ใบหน้าของติงหยวนเอ๋อร์พลันซีดเผือดไปในทันที พลางหวนคิดถึงความทรงจำเมื่อคืน ก่อนจะค่อย ๆ ตอบกลับมา
“เป็นหญิงชราหลังค่อมนางหนึ่ง ลักษณะของนางดูธรรมดายิ่งนัก”
“นางทำอะไรกับเจ้า” เฟิ่งจิ่วเหยียนถาม
“นาง... ต้องการใช้ข้าฝึกฝนวรยุทธ์ มิรู้ว่าเป็นวิชามนตร์ดำอะไรกัน ทำเอาพลังในกายข้าปั่นป่วนไปหมด แม้แต่กำลังภายในก็หายไป”
ติงหยวนเอ๋อร์ขมวดคิ้วพลางมองไปที่เหลิ่งเซียนเอ๋อร์
“รองเจ้าสำนักเจ้าคะ พวกเราจักต้องจับหญิงชราผู้นี้ให้ได้ ข้ากลัวว่านางจะไปทำร้ายผู้อื่นอีก”
เหลิ่งเซียนเอ๋อร์พยักหน้าลง “แน่นอน”
เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ยถามออกมาด้วยความเย็นชา
“เจ้าจำได้หรือไม่ ว่าตนเองถูกนำไปขังเอาไว้ที่ใด?”
ติงหยวนเอ๋อร์ส่ายหัวไปมา
“จำได้ไม่แม่นนัก วันนั้น ข้าฉวยโอกาสตอนนางไม่อยู่ ถึงหนีนางออกมาได้ ในยามนั้นข้ายังมึน ๆ งง ๆ อีกด้วย ทั้งยังเป็นในยามราตรีอีก จำได้แค่ว่าตนเองเอาแต่วิ่ง วิ่งไม่มีหยุด จนกระทั่งข้าถูกคนจับไป จนตนเองไปลงเอยอยู่ที่สนามประลองยุทธ์”
เหลิ่งเซียนเอ๋อร์เอ่ยเตือนเฟิ่งจิ่วเหยียน
“ศิษย์น้องติงร่างกายยังคงอ่อนแออยู่ คงมิอาจรับได้กับคำถามเช่นนี้ของเจ้า”
เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“อย่างน้อยนางก็ยังมีชีวิตรอด”
ในเมื่อติงหยวนเอ๋อร์สามารถให้เบาะแสเพิ่มเติมได้มากมายเช่นนี้ ย่อมเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นที่จะรอดพ้นจากความตาย

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...