เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 70

ตามปกติน้อยมากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนจะขี่ม้า ส่วนมากนางจะนั่งดูอยู่ข้างสนาม

ยามที่การฝึกในวันนี้กำลังจะจบลง รุ่ยอ๋องก็มาที่สนามม้าหลวง

“น้องเขยคารวะพี่สะใภ้”

โดยปกติแล้วรุ่ยอ๋องมักจะมาพร้อมกับฮ่องเต้เสมอ

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปข้างหลังรุ่ยอ๋องโดยไม่รู้ตัว ทว่ากลับไม่เห็นฮ่องเต้ทรราช

“วันนี้มีแค่ข้าคนเดียวพ่ะย่ะค่ะ” รุ่ยอ๋องกล่าวด้วยรอยยิ้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนราวกับอาบน้ำฝนท่ามกลางสายลมในฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่น

เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ารับคารวะ จากนั้นก็ดึงสายตากลับไปมองสนมหลายคนที่กำลังขี่ม้าอยู่ไกล ๆ

นางคิดว่าพอรุ่ยอ๋องทักทายเสร็จก็จะไปที่อื่นต่อ ทว่าเขากลับยืนอยู่ข้างนางและเริ่มชวนนางคุยเล่น

“พี่สะใภ้ทุ่มเทกายใจ หากต้องการ ข้าสามารถโน้มน้าวให้ฝ่าบาทมาที่สนามม้าหลวงบ่อย ๆ ได้”

เหลียนซวงมองไปที่เขาด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย พบว่าท่าทีของเขาไม่เหมือนพูดเล่น ดวงตาคู่นั้นโค้งอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน

“ไม่จำเป็น” เฟิ่งจิ่วเหยียนปฏิเสธทันที ไม่แม้แต่จะหันไปมองรุ่ยอ๋อง

รุ่ยอ๋องรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง รอยยิ้มกลับมาอย่างรวดเร็ว

“ดูเหมือนข้าจะพูดเรื่องไม่จำเป็นเสียแล้ว พี่สะใภ้ ข้าไม่รบกวนแล้ว”

“อืม”

เฟิ่งจิ่วเหยียนมักจะวางตัวเฉยชา จึงตอบแบบขอไปที

ก่อนที่รุ่ยอ๋องจะจากไป ก็ตั้งใจพูดประโยคหนึ่งทิ้งไว้

“น้องเขยขออวยพรให้พี่สะใภ้สมหวังดังปรารถนา ผูกพันรักมั่นกับเสด็จพี่ รักกันจนแก่เฒ่า”

เฟิ่งจิ่วเหยียน: ?

สติไม่ดีรึ?

นางเหมือนคนที่กำลังแย่งชิงความโปรดปรานหรือไงกัน?

......

ณ ตำหนักฉือหนิง

หนิงเฟยสักการะองค์พระเป็นเพื่อนไทเฮา บรรยากาศแลดูเงียบสงบอย่างแท้จริง

ไทเฮาทรงหลับตา พระหัตถ์หมุนเคลื่อนลูกประคำไปพลาง เอ่ยปากรับสั่งไปพลาง

“ซิ่วหว่าน ข้าจำได้ว่าเจ้าเองก็เคยเรียนขี่ม้า เหตุใดจึงไม่เข้าร่วมการแข่งขันขี่ม้าโปโลเล่า?”

สีหน้าของหนิงเฟยซีดลงในชั่วพริบตา ราวกับเผลอคิดถึงอดีตที่เลวร้าย

นางพยายามปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ แล้วตอบด้วยเสียงที่แหบเล็กน้อย

“ท่านป้า ข้าไม่ยินดีที่จะหลับหูหลับตาสร้างเรื่องวุ่นวายพร้อมกับฮองเฮาเพคะ

“งานการแข่งขันขี่ม้าโปโลไม่สามารถได้จัดขึ้นได้หรอก และฝ่าบาทก็ไม่มีทางโปรดปรานนางสนมเจียได้

หากฝ่าบาทจะโปรดปรานนางสนมเจียจริง ก่อนหน้านี้ก็คงจะโปรดปรานสนิทชิดใกล้กับนางไปนานแล้ว

ข่าวเล่าลือในวังพวกนี้ มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะหลงเชื่อจนวิ่งตามกันไปราวกับฝูงเป็ด ข้าไม่เชื่อเพคะ”

“ฮองเฮาทุ่มเทกายใจเพื่อจัดงานแข่งขันขี่ม้าโปโลขึ้น เกรงว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงจะไม่ใช่เรื่องนี้”

งานแข่งขี่ม้าโปโลใกล้เข้ามา

ทักษะการขี่ม้าของนางสนมเจียเองก็สุกงอมเต็มที่ โดดเด่นออกมาจากเหล่าสนมทั้งหลาย

ตัวนางเองก็คิดว่านางจะสามารถทำให้ผู้คนในงานแข่งขันขี่ม้าโปโลตกตะลึงได้อย่างแน่นอน

นางสนมบางคนเริ่มผูกมิตรกับนางสนมเจีย โดยหวังว่าพอนางสนมเจียได้ดีแล้วจะไม่ลืมตน

“ได้ยินว่าในวันแข่งขันขี่ม้าโปโล ไทเฮา ฝ่าบาท รุ่ยอ๋องล้วนมาชมการแข่งขันทุกพระองค์ จะมีของรางวัลมากมายเลยนะ! น้องเจียจะต้องได้ตำแหน่งผู้ชนะเลิศเป็นแน่!”

นางสนมเจียยิ้มพลางพูดอย่างถ่อมตน

“ไม่ขนาดนั้นหรอก! กุ้ยเฟยขี่ม้าเก่งกว่าข้ามากนัก!”

พวกนางกระซิบกันเสียงเบา “การแข่งขันขี่ม้าโปโลไม่เพียงต้องขี่ม้าเก่ง ยังต้องควบคุมลูกบอลได้ดีอีกด้วย พวกเราไม่ค่อยเห็นกุ้ยเฟยควบคุมลูกบอลเลย”

นางสนมหลายคนคุยเล่นกันอย่างมีความสุข หารู้ไม่ว่ากุ้ยเฟยนั้นอยู่ไม่ไกลและกำลังมองพวกนางอยู่

แววตาของนางเย็นยะเยือกราวกับงูที่กำลังแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ

ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง

เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่บนที่สูง มองพวกนางที่อยู่ข้างล่างจากด้านบน สายตาตกลงไปบนร่างของกุ้ยเฟย

ทันใดนั้นเองนางก็หมุนตัวเงยหน้าขึ้นมองแสงอาทิตย์ ทิ้งเงามืดที่ทอดยาวเอาไว้เบื้องหลัง

ถึงเวลาที่ให้กุ้ยเฟยจะได้ลิ้มลองรสชาติของการที่ร่างแหลกสลายตายอย่างทรมานบ้างแล้ว...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย