เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 83

ข้างนอกห้องที่หวังเทียนไห่อยู่ มีองครักษ์สองคนเฝ้าอยู่

เมื่อถึงตอนค่ำ มีนางกำนัลคนหนึ่งเอาอาหารมาส่ง

พวกองครักษ์เห็นว่ามีสุราเพิ่มมาหนึ่งชุด ก็แปลกประหลาดใจ

นางกำนัลพูดอธิบายว่า “ฮองเฮาตรัสว่า พวกเจ้าเฝ้าเวรยามมีความดี สิ่งนี้ประทานให้กับพวกเจ้า”

พวกองครักษ์รีบรับเอาสุรามา พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงประทานให้!”

ทว่าเมื่อดื่มสุราลงคอหลายคำ ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา

ตูม!

ตูม!

ตามด้วยเสียงล้มดังขึ้นมาสองที พวกองครักษ์ก็ล้มกองลงบนพื้น

จากนั้น นางกำนัลที่นำอาหารมาส่งก็ปรากฏตัว พร้อมเข้าไปในห้อง

หวังเทียนไห่ที่นอนหลับแล้ว ตกใจตื่นเพราะเสียงนี้

“เจ้าเป็นใคร!”

จากนั้นก็เห็นคนที่มา เอากริชเล่มหนึ่งออกมา

นางกำนัลคนนั้นกำลังจะลงมือ ข้างนอกก็มีไฟสว่างขึ้นมาทันที

หวังเทียนไห่กัดฟัน

“รีบไป! เจ้าหลงกลแล้ว!”

เพิ่งพูดเสร็จ องครักษ์หลายคนพุ่งเข้ามา ล้อมรอบทั้งสองคนไว้

หวังเทียนไห่เห็นท่าไม่ดี แย่งเอากริชในมือนางกำนัลมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็แทงอกนางเข้าอย่างจัง

นางกำนัลคนนั้นเบิกตาโต ไม่นานก็ขาดใจตาย

หวังเทียนไห่ตะโกนพูดขึ้นมาว่า

“มีนักฆ่า! ข้าฆ่าตายแล้ว!”

เวลานี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ข้างนอก

สายตาของนางประกายแววสังหารอย่างเยือกเย็น

“ลากตัวคนออกมา!”

หวังเทียนไห่แสดงท่าทีไม่ยอมรับผิด ทั่วทั้งร่างกายฉายแววรัศมีแห่งความบ้าคลั่งออกมา

“พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมากักขังข้า!”

“เป็นฮองเฮาแล้วไม่ต้องรักษากฎในวัง ละเมิดการประชาทัณฑ์หรือ!”

“ข้าจะออกไป!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูนางกำนัลที่ถูกแทงคนนั้นแวบหนึ่ง

นางยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจ...

“สืบประวัติของนางให้ละเอียด เป็นคนของตำหนักไหน”

“พ่ะย่ะค่ะ พระนาง!”

หวังเทียนไห่เห็น “ศพ” นางกำนัลคนนั้นถูกลากไป ทันใดนั้นก็ตะโกนพูดขึ้นมาว่า

“ไม่ต้องสอบสวนแล้ว!

“ข้าเอง ล้วนเป็นฝีมือของเข้า!”

เห็นที กุ้ยเฟยไม่ไว้ใจเขา

ตราบที่เขายังมีชีวิตอยู่ พระนางก็จะไม่วางใจ

หวังเทียนไห่ยอมรับผิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เป็นเรื่องที่คาดคิดไม่ถึง

เฟิ่งจิ่วเหยียนมีรับสั่งขึ้นมาทันทีว่า

“ไปเชิญฝ่าบาท”

ไม่นาน ขบวนเสด็จมาถึงตำหนักหย่งเหอ

เซียวอวี้นั่งอยู่บนที่นั่งหลัก เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ด้านข้างเขา

คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น คือหวังเทียนไห่

แววตาเซียวอวี้แคบหรี่ลง

“ลากตัวคนผู้นี้ลงไป ใช้ม้าห้าตัวลากศพแยกเป็นส่วนๆ!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

จากนั้น เขาก็มีรับสั่งว่า

“นอกจากฮองเฮา คนอื่นล้วนถอยออกไป”

เหลียนซวงค่อนข้างเป็นกังวล

ครั้งที่แล้วฮ่องเต้ทรราชก็บีบไหล่พระนางจนหลุด ครั้งนี้คิดอยากจะทำอะไรอีก?

หลังจากทุกคนล้วนออกไปแล้ว

เซียวอวี้เงยหน้าขึ้นมาจับจ้องมองดูฮองเฮาของเขา ดวงตาสีอ่อน แสดงออกถึงความเยือกเย็นมืดมน

“อ้างเพียงเจตนารมณ์ของสวรรค์ ก็สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมกุ้ยเฟยถึงหล่นตกบนหินกรวดฝั่งตะวันออกพอดีหรือ

“อีกอย่าง หากเขาคิดอยากปองร้ายกุ้ยเฟยกับนางสนมเจีย ทำไมกลิ่นดอกฟรีเซียบนเกราะหวายของกุ้ยเฟยถึงมีน้อย

“ฮองเฮา หวังเทียนไห่คนเดียว ก็คิดอยากให้เราพอใจหรือ?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว

“หม่อมฉันก็รู้ว่า เรื่องนี้มีข้อสงสัยมากมาย

“คนที่คนร้ายคิดอยากทำร้ายที่สุด น่าจะเป็นนางสนมเจีย

“กุ้ยเฟยนั้น เพียงใช้เป็นการพรางตา

“ในวันการแข่งขันขี่ม้าโปโล หม่อมฉันคอยสังเกตดูนางสนมเจียตลอด เพราะหม่อมฉันคิดว่า คนที่คิดอยากทำร้ายนางสนมเจีย จะต้องมีความเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน

“อย่างเช่น เมื่อเห็นม้าของนางสนมเจียกำลังจะบ้าคลั่ง ก็จะรีบหลอกล่อนางไปยังบริเวณหินกรวดฝั่งตะวันออก

“และจากการที่หม่อมฉันสังเกต ตอนนั้นที่หลอกล่อนางสนมเจียไปสู่อันตราย ไม่มีอย่างอื่น ซึ่งก็คือลูกของกุ้ยเฟยลูกนั้น!”

ดวงตาสีเข้มของเซียวอวี้ แสดงออกถึงความไม่แน่นอน ราวกับเหวกว้างลึก

เขาพรวดลุกยืน คว้าดึงแขนของนางมาอย่างเสียงดัง “ฮัว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย