เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 87

ตำหนักหลิงเซียว

ฮูหยินเฟิ่งนั่งอยู่ในห้องอุ่น ประตูและหน้าต่างปิดสนิท ภายในตำหนักจุดกำยาน ทำให้นางลืมตาไม่ขึ้นและหายใจติดขัด

จู่ ๆ กุ้ยเฟยก็เรียกตัวนางเข้าวัง บอกว่ามีเรื่องจะขอคำชี้แนะ

ทว่ามาแล้วกลับทิ้งให้นางอยู่ที่ห้องอุ่นเพียงลำพัง ทั้งยังให้คนจุดกำยานทั่วตำหนัก บอกว่ามีสรรพคุณช่วยให้สดชื่นและบำรุงลมปราณ

แต่นางดมแล้วก็รู้ว่าเป็นกำยานคุณภาพต่ำชัด ๆ

ล่วงเลยไปแล้วหนึ่งชั่วยาม กลุ่มควันลอยโขมงทั่วตำหนัก

ฮูหยินเฟิ่งถูกรมควันจนไม่ไหวแล้ว

นางหมายจะเปิดหน้าต่าง ทว่าหน้าต่างกลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ราวกับถูกคนลงสลักจากด้านนอก

ตามด้วยเดินไปที่ประตูต่อ

ผลักเปิด

ประตูไม่ขยับเขยื้อนเช่นกัน

นางเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา

หรือว่านางจะถูกขังอยู่ที่นี่!

เหงื่อเย็นผุดขึ้นที่หลังฮูหยินเฟิ่ง

กุ้ยเฟยคิดจะทำอะไร?

“แค่ก ๆ…”

กลิ่นกำยานอบอวลไม่ได้รับการระบายดุจควันไฟทำให้หายใจไม่ออก

ฮูหยินเฟิ่งหน้าซีด

นางราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบคอ เริ่มสำลักอย่างรุนแรง ดวงตามีน้ำตาไหลและวิงเวียนศีรษะ

ปังปังปัง!

นางตบประตูร้องตะโกนออกไปด้านนอกโดยไม่สนใจจารีตของสตรีชนชั้นสูงอีกต่อไป

“มีผู้ใดอยู่หรือไม่…เปิดประตู เปิดประตู…”

ภายในตำหนักชั้นในที่อยู่ห่างจากห้องอุ่นออกไปไม่ไกล

ชุนเหอกำลังแต่งตัวให้กุ้ยเฟย

ขันทีคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน

“พระนาง ฮูหยินเฟิ่งตบประตูต้องการออกมา เหมือนว่าจะไม่ไหวแล้ว…”

ภายในห้องอุ่นจุดกำยานเยอะมาก ทั้งยังเป็นกำยานคุณภาพต่ำและปิดประตูหน้าต่างสนิท ขนาดบุรุษร่างกายแข็งแรงก็ยังทนไม่ไหว

กุ้ยเฟยราวกับไม่ได้ยิน เพียงมองตัวเองในคันฉ่องอย่างเย็นชา

แผลเป็นบนใบหน้านางอัปลักษณ์น่าเกลียดมาก

แม้ว่าใช้ยาเพียงไม่กี่เดือนก็จะหายดี แต่ระหว่างนี้นางออกไปพบผู้ใดไม่ได้ หรือต่อให้อีกสักพักแผลก็จะตกสะเก็ดและหลุดออก กระนั้นนางก็ต้องแต่งหน้าหนาเตอะเพื่อปกป้องรอยแผลอยู่ดี

ทั้งหมดเป็นเพราะเฟิ่งเวยเฉียง!

เป็นเพราะการแข่งขันขี่ม้าโปโลนั่น!

ชุนเหอช่วยย้ำเตือนว่า

“พระนาง ท่านระบายโทสะกับฮูหยินเฟิ่งก็ถูกต้องดีแล้วเพคะ แต่อย่างไรนางก็เป็นมารดาของฮองเฮา หากว่า…”

มุมปากของกุ้ยเฟยยกโค้งอย่างเกียจคร้านและเย่อหยิ่ง

“ข้าจุดกำยานให้นางรู้สึกสดชื่น จะเป็นการทำร้ายนางได้อย่างไร?

“หากฮองเฮารู้ก็มีแต่จะรู้สึกขอบคุณต่อข้า

ฮูหยินเฟิ่งพยายามสะกดความเคียดแค้นด้วยสติ ใบหน้าของนางซีดเผือด

เพล้ง!

จู่ ๆ กุ้ยเฟยก็ทิ้งถ้วยชาลงพื้น

จากนั้นมองฮูหยินเฟิ่งพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ที่แท้เจ้าก็ยังจำได้อยู่หรือ?”

“หากไม่ใช่เพราะข้าช่วยไว้ บุตรชายคนโตของเจ้าคงตายไปนานแล้ว!

“ยิ่งไม่ต้องถามถึงโอกาสที่จะได้พลิกตัว ได้ยินว่าตอนนี้เข้ากรมป้องวังหลวง ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายซ้ายขั้นเก้า เกรงว่าอีกไม่กี่ปีคงได้เลื่อนขั้นเป็นองครักษ์ขั้นสาม!

“ไม่แปลกใจเลยที่พวกเจ้าจะไม่เห็นข้าในสายตาอีกต่อไป ใช่หรือไม่!”

ฮูหยินเฟิ่งอดทนอยู่เงียบ ๆ ไม่อยากโต้เถียงด้วย

นอกจากนี้นางก็เถียงกุ้ยเฟยไม่ได้เช่นกัน

ภายในตำหนักไม่มีคนอื่น กุ้ยเฟยตำหนิอย่างเย็นชา

“ไปบอกบุตรสาวของเจ้า อย่าฝันในสิ่งใดที่ไม่ใช่ของนาง!”

“ต่อให้ข้าจะแตะต้องนางที่เป็นฮองเฮาไม่ได้ ทว่า หากจะสังหารคนอื่น ๆ ในตระกูลเฟิ่งของพวกเจ้า อย่างเช่นบุตรชายของเจ้า มันก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ!”

“ข้าพูดเพียงคำเดียวก็จะมีคนในกรมป้องกันวังหลวงจัดการเขาทันที เข้าใจหรือไม่!”

ฮูหยินเฟิ่งเป็นห่วงบุตรชาย ต้องพยักหน้าอย่างกล้ำกลืนฝืนทน

“เพคะ หม่อมฉันจำไว้แล้ว”

เวลานี้เอง มีเสียงรายงานด้วยความเร่งร้อนดังมาจากด้านนอก

“พระนาง ฮองเฮาพาองครักษ์บุกเข้ามาแล้วเพคะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย