ภายในตำหนักหย่งเหอ พระแท่นบรรทมผืนใหม่ถูกปูเรียบร้อย
เฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากห้องสรงน้ำแล้วเปลี่ยนมาสวมชุดทางการ
เหลียนซวงยกชาร้อนเข้ามาแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“พระนาง ท่าน…ร่วมบรรทมแล้วจริง ๆ หรือเพคะ?”
ใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีอารมณ์ใด ๆ
“เรื่องนี้ เจ้าไม่ต้องถามมาก”
เหลียนซวงได้ยินพระนางพูดแบบนี้ก็ยิ่งสงสัย งุนงงใหญ่ แต่ในเมื่อพระนางไม่ให้ถาม นางก็จะไม่ถามอีก
ทันใดนั้นเอง มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก
“พระนาง พระสนมกุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าเพคะ!”
หัวใจของเหลียนซวงเต้นผิดจังหวะโดยพลัน
“กุ้ยเฟยมาเข้าเฝ้าในเวลานี้ คิดว่าคงเป็นเรื่องที่ท่านร่วมบรรทมเป็นแน่ พระนางจะพบนางหรือไม่เพคะ?”
เฟิ่นจิ่วเหยียนดื่มชาที่ยังคงร้อนกรุ่น รู้สึกสบายในลำคอขึ้นมาก
นางเอ่ยอย่างราบเรียบ
“ให้นางเข้ามา”
……
ภายในตำหนักมีเฟิ่งจิ่วเหยียนกับกุ้ยเฟยแค่เพียงสองคน
กุ้ยเฟยมีสีหน้าเกรี้ยวกราดทันทีที่พบนาง ประหนึ่งจะพุ่งตัวเข้ามาฉีกกระชากร่างนางเป็นชิ้น ๆ ในอีกวินาทีถัดไป
“ฮองเฮาดูจะลำพองไม่น้อยเลยนะเพคะ”
เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ที่นั่น สายตาของนางว่างเปล่าและเหินห่าง ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา
นางไม่ตอบอะไรกุ้ยเฟย รับมือด้วยความสงบ
กุ้ยเฟยนั่งลงโดยไม่รอคำอนุญาต จากนั้นยิ้มอย่างมีเสน่ห์
“หม่อมฉันดูแล้ว เหตุใดท่านจึงดูไม่เหมือนเพิ่งผ่านการร่วมบรรทมเลยสักนิด?”
เฟิ่งจิ่วเหยียบยกถ้วยชาขึ้นเปิดฝาจิบอย่างสบาย ๆ
สีหน้าของกุ้ยเฟยเย็นยะเยียบโดยพลัน
“เฟิ่งเวยเฉียง ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะเสแสร้งได้ถึงเมื่อไร!
“เจ้าหมดเสียความบริสุทธิ์ไปนานแล้ว ไม่มีทางหลอกฝ่าบาทได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีโลหิตบนผ้าพรหมจรรย์!
“เจ้าหลอกทุกคนด้วยวิธีอะไรกันแน่!”
เฟิ่งจิ่วเหยียนเลิกเปลือกตาขึ้นมอง แววตาแหลมปราบ
“ข้าสงสัยมาโดยตลอด เหตุใดกุ้ยเฟยจึงมั่นใจนักว่า—ข้าไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว?”
แววตาของกุ้ยเฟยเย็นยะเยียบ
“ข้ามั่นใจได้อย่างไรงั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเพราะเหตุใดเล่า?”
เวลานี้ ดวงตามีเสน่ห์เย้ายวนของนางเปี่ยมด้วยความดูถูกและเย้ยหยัน
เฟิ่งจิ่วเหยียนวางถ้วยชาลงแล้วพูดอย่างราบเรียบ
“เจ้าส่งจดหมายถึงไทฮองไทเฮาโดยไม่ออกนาม ทำให้พระนางเข้าใจว่าข้าไม่บริสุทธิ์จนต้องรีบร้อนกลับมาตรวจสอบ”
กุ้ยเฟยว่าจบก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นอย่างอวดดีจองหอง
“ความจริงแล้ว ในคืนที่จ้าวเฉียนถูกสอบสวน ข้าก็กราบทูลฝ่าบาทไปแล้วว่าข้าเป็นคนสั่งการจ้าวเฉียนเอง
“แต่เจ้าดูสิ สุดท้ายฝ่าบาทก็ทรงยกโทษให้ข้าอย่างง่ายดาย”
นางลุกขึ้นเดินมาเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน จากนั้นขยับเข้ามากระซิบข้างหู
“อย่าว่าแต่สั่งให้โจรภูเขาลักพาตัวเจ้าตัวเลย ต่อให้สังหารเจ้า ฝ่าบาทก็จะไม่ลงโทษข้าอยู่ดี
“รู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร?
“ก็เพราะฝ่าบาทรักข้าจนไม่อาจแยกจากข้าไปได้”
กุ้ยเฟยไม่มีความเกรงกลัว นางไม่กลัวที่จะยอมรับกับเฟิ่งจิ่วเหยียน
เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ตรงนั้น ใจหล่นตุบลงสู่ก้นบึ้งหัวใจ
หากเป็นจริงดังที่กุ้ยเฟยว่า นั่นก็หมายความว่าฮ่องเต้รู้ทั้งรู้ว่ากุ้ยเฟยมีความผิดแต่ก็ยังเลือกที่จะเข้าข้าง…
กุ้ยเฟยหันมาจ้องเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสายตาชั่วร้าย
“ข้าสงสัยเหลือเกิน ทั้งที่นังแพศยาเช่นเจ้าสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว แต่เหตุใดจึงยังรอดมาได้อยู่”
จู่ ๆ น้ำเสียงของนางก็เปลี่ยนไป
“เว้นเสียแต่ว่า…เจ้าไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียงตัวจริง?!”
เฟิ่งจิ่วเหยียนฟังแล้วยกยิ้มมุมปาก
อุณหภูมิภายในตำหนักลดลงกระทันหันจนต้องตัวสั่นทั้งที่ไม่รู้สึกหนาว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...