เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 98

ภายในตำหนักหย่งเหอ พระแท่นบรรทมผืนใหม่ถูกปูเรียบร้อย

เฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากห้องสรงน้ำแล้วเปลี่ยนมาสวมชุดทางการ

เหลียนซวงยกชาร้อนเข้ามาแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“พระนาง ท่าน…ร่วมบรรทมแล้วจริง ๆ หรือเพคะ?”

ใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีอารมณ์ใด ๆ

“เรื่องนี้ เจ้าไม่ต้องถามมาก”

เหลียนซวงได้ยินพระนางพูดแบบนี้ก็ยิ่งสงสัย งุนงงใหญ่ แต่ในเมื่อพระนางไม่ให้ถาม นางก็จะไม่ถามอีก

ทันใดนั้นเอง มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก

“พระนาง พระสนมกุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าเพคะ!”

หัวใจของเหลียนซวงเต้นผิดจังหวะโดยพลัน

“กุ้ยเฟยมาเข้าเฝ้าในเวลานี้ คิดว่าคงเป็นเรื่องที่ท่านร่วมบรรทมเป็นแน่ พระนางจะพบนางหรือไม่เพคะ?”

เฟิ่นจิ่วเหยียนดื่มชาที่ยังคงร้อนกรุ่น รู้สึกสบายในลำคอขึ้นมาก

นางเอ่ยอย่างราบเรียบ

“ให้นางเข้ามา”

……

ภายในตำหนักมีเฟิ่งจิ่วเหยียนกับกุ้ยเฟยแค่เพียงสองคน

กุ้ยเฟยมีสีหน้าเกรี้ยวกราดทันทีที่พบนาง ประหนึ่งจะพุ่งตัวเข้ามาฉีกกระชากร่างนางเป็นชิ้น ๆ ในอีกวินาทีถัดไป

“ฮองเฮาดูจะลำพองไม่น้อยเลยนะเพคะ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ที่นั่น สายตาของนางว่างเปล่าและเหินห่าง ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา

นางไม่ตอบอะไรกุ้ยเฟย รับมือด้วยความสงบ

กุ้ยเฟยนั่งลงโดยไม่รอคำอนุญาต จากนั้นยิ้มอย่างมีเสน่ห์

“หม่อมฉันดูแล้ว เหตุใดท่านจึงดูไม่เหมือนเพิ่งผ่านการร่วมบรรทมเลยสักนิด?”

เฟิ่งจิ่วเหยียบยกถ้วยชาขึ้นเปิดฝาจิบอย่างสบาย ๆ

สีหน้าของกุ้ยเฟยเย็นยะเยียบโดยพลัน

“เฟิ่งเวยเฉียง ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะเสแสร้งได้ถึงเมื่อไร!

“เจ้าหมดเสียความบริสุทธิ์ไปนานแล้ว ไม่มีทางหลอกฝ่าบาทได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีโลหิตบนผ้าพรหมจรรย์!

“เจ้าหลอกทุกคนด้วยวิธีอะไรกันแน่!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนเลิกเปลือกตาขึ้นมอง แววตาแหลมปราบ

“ข้าสงสัยมาโดยตลอด เหตุใดกุ้ยเฟยจึงมั่นใจนักว่า—ข้าไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว?”

แววตาของกุ้ยเฟยเย็นยะเยียบ

“ข้ามั่นใจได้อย่างไรงั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเพราะเหตุใดเล่า?”

เวลานี้ ดวงตามีเสน่ห์เย้ายวนของนางเปี่ยมด้วยความดูถูกและเย้ยหยัน

เฟิ่งจิ่วเหยียนวางถ้วยชาลงแล้วพูดอย่างราบเรียบ

“เจ้าส่งจดหมายถึงไทฮองไทเฮาโดยไม่ออกนาม ทำให้พระนางเข้าใจว่าข้าไม่บริสุทธิ์จนต้องรีบร้อนกลับมาตรวจสอบ”

กุ้ยเฟยว่าจบก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นอย่างอวดดีจองหอง

“ความจริงแล้ว ในคืนที่จ้าวเฉียนถูกสอบสวน ข้าก็กราบทูลฝ่าบาทไปแล้วว่าข้าเป็นคนสั่งการจ้าวเฉียนเอง

“แต่เจ้าดูสิ สุดท้ายฝ่าบาทก็ทรงยกโทษให้ข้าอย่างง่ายดาย”

นางลุกขึ้นเดินมาเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน จากนั้นขยับเข้ามากระซิบข้างหู

“อย่าว่าแต่สั่งให้โจรภูเขาลักพาตัวเจ้าตัวเลย ต่อให้สังหารเจ้า ฝ่าบาทก็จะไม่ลงโทษข้าอยู่ดี

“รู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร?

“ก็เพราะฝ่าบาทรักข้าจนไม่อาจแยกจากข้าไปได้”

กุ้ยเฟยไม่มีความเกรงกลัว นางไม่กลัวที่จะยอมรับกับเฟิ่งจิ่วเหยียน

เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ตรงนั้น ใจหล่นตุบลงสู่ก้นบึ้งหัวใจ

หากเป็นจริงดังที่กุ้ยเฟยว่า นั่นก็หมายความว่าฮ่องเต้รู้ทั้งรู้ว่ากุ้ยเฟยมีความผิดแต่ก็ยังเลือกที่จะเข้าข้าง…

กุ้ยเฟยหันมาจ้องเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสายตาชั่วร้าย

“ข้าสงสัยเหลือเกิน ทั้งที่นังแพศยาเช่นเจ้าสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว แต่เหตุใดจึงยังรอดมาได้อยู่”

จู่ ๆ น้ำเสียงของนางก็เปลี่ยนไป

“เว้นเสียแต่ว่า…เจ้าไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียงตัวจริง?!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนฟังแล้วยกยิ้มมุมปาก

อุณหภูมิภายในตำหนักลดลงกระทันหันจนต้องตัวสั่นทั้งที่ไม่รู้สึกหนาว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย