กุ้ยเฟยคิดไม่ตกว่าเฟิ่งเวยเฉียงผ่านการตรวจพรหมจรรย์มาได้อย่างไร
ครั้นคิดไปคิดมาก็มีแต่ข้อสรุปที่ว่า “คนตรงหน้าไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียง” ที่สามารถอธิบายได้
แต่นี่มันก็เหลวไหลเกินไป
หากนางไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียงแล้วจะเป็นผู้ใด?
เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้แก้ตัวอะไรต่อข้อสงสัยของกุ้ยเฟย
นางมองกุ้ยเฟยตรง ๆ น้ำเสียงเย็นยะเยียบและลึกทุ้ม
“ถูกต้อง ข้าไม่ใช่เฟิ่งเวยเฉียง
“นับจากวันที่ถูกโจรภูเขาจับตัวไป ข้าก็ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว”
กุ้ยเฟยรู้สึกถึงไอเย็นที่กดดัน
นางคิดจะถอยห่างออกไปแต่ถูกดึงอกเสื้อเอาไว้
นางถูกบังคับให้ต้องย่อตัวลง บาดแผลบนร่างถูกดึงรั้งจนเจ็บแสนสาหัส
“เจ้า…ปล่อยนะ!”
เฟิ่งจิ่วเหยียนลากตัวนางแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น
นัยต์ตาของกุ้ยเฟยสั่นไหว
เงาดำปกคลุมลงบนตัวนาง ราวกับผีร้ายที่คืบคลานขึ้นมาจากนรก
แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนมีรอยยิ้มที่เบาบางมาก
“ต่างแดนมียาวิเศษอย่างหนึ่งใช้ทาลงบนผิวเป็นเวลาสี่สิบเก้าวันแล้วจะลอกคราบเกิดใหม่ บาดแผลทั้งหมดจะมลายหายไป ผิวนิ่มละเอียดดุจทารก
“นอกจากนี้ยังมีวิชาซ่อมแซม สามารถทำให้หญิงที่เสียพรหมจรรย์ไปแล้วกลับมามีพรหมจรรย์เหมือนเดิม
“กระบวนนี้เจ็บปวดทรมานมาก
“แต่ผลลัพธ์ที่ได้นับว่าไม่เลวเลยจริง ๆ
“มิเช่นนั้น เจ้าคิดว่าข้าจะกล้าแต่งงานเข้ามาอยู่ในวังได้อย่างไร?”
กุ้ยเฟยเบิกตาโพลง ใต้เปลือกตากระตุกอย่างรุนแรง
ที่แท้…
นังแพศยานี่ได้ใช้ยาลับ!
……
ตำหนักหลิงเซียว
กุ้ยเฟยปาแจกันแตกไปหลายใบ
“ที่แท้ก็เพราะยาลับ นังแพศยายอมทุ่มตัวจริง ๆ!
“ข้าเคยได้ยินเรื่องยาแบบนั้นเช่นกัน ทว่าใช้แล้วมีโอกาสรอดแค่หนึ่งในเก้า
“นึกไม่ถึงว่านางจะหายาเจอ ทั้งยังรอดชีวิตมาได้!
“มีสิทธิ์อะไรกัน!”
ชุนเหอไม่กล้าเก็บเศษแจกันบนพื้น ได้แต่รอให้เพลิงโทสะของพระสนมบรรเทาลง
ขณะเดียวกันก็รู้สึกตกใจ
ที่แท้ฮองเฮาก็ฟื้นสภาพร่างกายตัวเองให้กลับมาเป็นปกติด้วยยาลับ
มิน่าเล่า นางกับตระกูลเฟิ่งถึงได้กล้าเข้าพิธีแต่งงานทั้งที่มีความเสี่ยงโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูง
มิน่าเล่า แม้แต่หมัวมัวที่ตรวจพรหมจรรย์ในวังก็ยังจับไม่ได้
แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ
วันนี้ฝ่าบาทเข้าหอกับฮองเฮาจริงหรือ?
เดิมทีหลิงเยี่ยนเอ๋อร์คิดจะใช้ไทฮองไทเฮาเป็นเครื่องมือกำจัดฮองเฮา
นึกไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะกลับกลายเป็นการทำร้ายตัวเอง
นางอดฟุ้งซ่านไม่ได้
จะเป็นบ้าอยู่แล้ว!
ต้องถามฝ่าบาทให้ได้…
หลังจากหารือเสร็จ เซียวอวี้ให้รุ่ยอ๋องอยู่ต่อแค่คนเดียวเพื่อตำหนิ
“ปกติแล้วเจ้าเป็นคนสุขุมใจเย็น เมิ่งสิงโจวป้อนยามอมเมาอะไรให้เจ้ากันแน่ เจ้าถึงได้ต้องปกป้องเขาขนาดนี้!”
“กระหม่อมมีความผิด แต่กระหม่อมไม่อาจทนเห็นขุนนางผู้ภักดีถูกใส่ร้าย ขอฝ่าบาททรงตรวจสอบ อย่าได้ให้ทหารตามชายแดนต้องหมดกำลังใจ”
รุ่ยอ๋องให้คำแนะนำอย่างจริงใจ กลัวว่าฮ่องเต้จะเชื่อข่าวลือเหล่านั้นและสั่งลงโทษเมิ่งสิงโจว
เซียวอวี้มีพี่น้องหลายคน แต่กลับไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สู้รุ่ยอ๋องซึ่งเป็นน้องชายต่างแซ่ได้
เขากล่าวเสียงทุ้ม
“สนามม้าหลวงส่งอาชามาหลายตัว เจ้าจงเลือกหนึ่งตัวแล้วส่งไปค่ายเป่ยต้าพร้อมกับของรางวัลของเรา”
รุ่ยอ๋องได้ยินว่าจะให้ตัวเองเลือกอาชาเป็นรางวัลให้เมิ่งสิงโจวก็เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
ม่านราตรีปกคลุมสี่ทิศ แสงจันทร์เย็นยะเยือก
เซียวอวี้สั่งให้เคลื่อนขบวนเสด็จไปตำหนักหลิงเซียว
กุ้ยเฟยมีน้ำตาเอ่อคลอทันทีที่เห็นเขา
“ฝ่าบาท…”
เซียวอวี้มุ่นคิ้วเล็กน้อย
“เจ็บแผลอีกแล้วหรือ?”
ข้ารับใช้ถอยออกไปกันหมด กุ้ยเฟยซึ่งหน้าซีดเผือดมองดวงหน้าเย็นชาของฮ่องเต้ด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความรัก จากนั้นพูดด้วยความเศร้าเสียใจ
“ฝ่าบาท ท่านกับฮองเฮา…เป็นเรื่องจริงหรือเพคะ?”
สีหน้าของเซียวอวี้นิ่งขรึม
“เจ้ายังคงเป็นสนมรักของเรา”
“เช่นนั้นท่านไม่ได้แตะต้องฮองเฮาหรือเพคะ?” กุ้ยเฟยถามต่ออย่างดึงดัน
เซียวอวี้กำลังจะเอ่ยปาก แต่แล้วกลับมีเสียงตะโกนดังมาจากนอกตำหนัก
“ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงหมดสติไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...