เมื่อชาติก่อนเสี่ยวเชี่ยนเคยไปที่ราบสูงชิงไห่ แต่เธอไปเที่ยว ด้วยสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นออกซิเจนน้อยเธออยู่ได้ครึ่งวันก็ทนไม่ไหวแล้ว แต่มีคนกลุ่มหนึ่งต้องอยู่ประจำที่นั่นเพื่อปกป้องประเทศ
“ฉันสะเทือนใจที่เห็นทหารเลียน้ำแข็งดับกระหาย ตอนนั้นฉันคิดว่าโลกออกจะกว้างใหญ่ ความรักมีตั้งหลายแบบ แล้วทำไมฉันจะต้องมานั่งคิดมากเรื่องรักๆใคร่ๆของชายหญิงด้วย? ยังมีเรื่องอีกมากมายที่รอฉันไปค้นพบอยู่ ยังมีโลกที่ฉันไม่รู้จักรอฉันไปสำรวจ พอฉันเห็นโลกภายนอกฉันถึงได้รู้ว่า ยังมีความโหดร้ายอีกมากที่ฉันไม่เคยเจอ”
ดังนั้นเพลงของอวี๋หมิงซีถึงได้มีหลากหลายแบบ ความสามารถในการร้องเพลงของเธอไม่ได้มาจากการนั่งรออยู่เฉยๆ แต่มาจากการที่เธอไปฝึกฝนค้นพบด้วยตัวเอง ทักษะการร้องของเธอไม่ใช่ดอกไม้ที่ไร้ดิน มันคือการตกผลึกหลังจากที่ฝ่าลมฝนมามากมาย ไม่ว่าอวี๋หมิงซีจะจัดการกับความรู้สึกได้ดีหรือแย่ แต่เรื่องความสามารถนั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน
“จนถึงตอนนี้ การเปลี่ยนแปลงของเส้นทางความรักของพี่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ปกติ การหนีออกจากบ้านของเด็กวัยรุ่นกลับทำให้ได้พบกับทิวทัศน์ที่สวยงามและได้ไล่ตามความฝัน นี่คือแรงบันดาลใจ—แล้วทำไมภายหลังถึงไม่กลับบ้านล่ะคะ?”
เสี่ยวเชี่ยนวิเคราะห์ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ เรื่องนี้ของอวี๋หมิงซีก็ยังคงเป็นเรื่องปกติ แต่สาวน้อยหลังจากหนีออกจากบ้านรู้ว่าตัวเองผิดแล้ว ทำไมยังดันทุรังจะไปต่อ?
“เดิมฉันกะว่าอายุเต็มยี่สิบจะลาออก แต่ก่อนหน้าไม่กี่วันที่ฉันเตรียมตัวลาออกฉันโทรไปที่บ้าน พ่อแม่ไม่อยู่พอดี อาหญิงเป็นคนรับสาย เขาบอกฉันว่า หลายปีก่อนมีเด็กหนุ่มมาหาฉัน แต่ถูกปู่ไล่กลับไป”
“ซุนเสีย?”
“ใช่ ที่บ้านเขาเกิดเรื่องเลยต้องลางานเพื่อกลับบ้าน พอเขาจัดการธุระเสร็จเลยกลับมาหาฉัน ถูกปู่ฉันพูดจาไม่ดีใส่ อารมณ์ประมาณว่าหมาวัดคิดจะเด็ดดอกฟ้า ฉันร้อนใจมากอยากไปอธิบายกับเขา ได้ยินว่าเขาไปแถวชายแดน แต่ก็ไม่รู้ที่ไหน”
ดังนั้นช่วงหลายปีมานี้อวี๋หมิงซีจึงไปที่ทุรกันดารบ่อยๆ เธออยากลองเสี่ยงดวงดูว่าจะหาซุนเสียเจอไหม เธอติดค้างคำขอโทษเขา
ครอบครัวของซุนเสียต่างบอกว่าเขาขาดการติดต่อไปแล้ว อาจจะตายอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่อวี๋หมิงซีไม่เชื่อ เธอมั่นใจว่าเป็นเพราะครอบครัวเธอพูดจาต่อว่าเขาอย่างรุนแรง เขาเลยออกไปอยู่ในที่ที่ไกลแสนไกล
ดังนั้นพอคณะการแสดงจะไปยังที่กันดารเธอก็ขออาสาไปหมด สร้างเกียรติให้ตัวเองได้ไม่น้อย แต่เธอก็ยังคงหาซุนเสียไม่เจอ
“คำพูดของอาหญิงเชื่อได้เหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนเคยมีเรื่องกับอาหญิงมาก่อน เล่นงานอาหญิงจนหมดสภาพ และได้ทำให้อาหญิงที่มีนิสัยเอาแต่ใจรู้จักสงบปากสงบคำไปมากทีเดียว ได้ยินกิตติศัพท์ของอาหญิงสมัยสาวๆมานานแล้ว ชอบสร้างความวุ่นวายให้คนอื่น
เสี่ยวเชี่ยนเคยเจอปู่ของอวี๋หมิงหลางตอนงานหมั้น นิสัยหัวรั้น มีมาดขรึมแบบทหารเก่า เรื่องแบบนี้ดูไม่เหมือนเขาเป็นคนทำ มันควรเป็นอาหญิงฉวยโอกาสตอนที่พี่ชายพี่สะใภ้ไปทำงาน ที่บ้านไม่มีใครอยู่ ทำเรื่องนี้เองมากกว่า แล้วก็โยนความผิดไปให้พ่อตัวเอง
อวี๋หมิงซีเหมือนฉุกคิดขึ้นได้ คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนทำให้เธอเอะใจ นั่นสิ ช่วงหลายปีมานี้ทำไมเธอไม่เคยคิดมาทางนี้เลยนะ?
แต่มาคิดตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว
กว่าเธอจะตามหาซุนเสียเจอก็หลังจากนั้นสี่ปี เธอเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงของกองทัพ เขากลายเป็นนักโทษ—โทษของเขาไม่มีระยะเวลาสิ้นสุด


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย