พอเห็นปู้หลีทำร้ายคนอื่นอีกแล้ว ผู้หญิงอ้วนที่ชื่อลั่วเสียวหย่าก็ทำท่าเหมือนจะเป็นลม ปู้หลีปล่อยมือด้วยความสะใจ
“ว่ามา อยากจะทำเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก? จะแจ้งตำรวจหรือให้ฉันชดใช้เงิน?”
เสี่ยวเชี่ยนเอาแต่จ้องใบหน้าของปู้หลี พอทำร้ายร่างกายเสร็จเขาก็ไม่มีสีหน้ารู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมีความสุขมาก นี่ก็เป็นหลักฐานยืนยันความคิดของเสี่ยวเชี่ยน
คนๆนี้มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง จะมากหรือน้อยก็เท่านั้น
มีนักศึกษาชายคนหนึ่งล้วงโทรศัพท์ออกมาเหมือนต้องการจะแจ้งตำรวจ เสี่ยวเชี่ยนเดินเข้าไปได้ถูกจังหวะพอดี
“พฤติกรรมของเขาในวันนี้ หากแจ้งตำรวจไปความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือไกล่เกลี่ยชดใช้กันไป จากการวิเคราะห์ของฉันมีความเป็นไปได้ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่คนๆนี้จะมีแนวโน้มเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง ถ้าไม่ยอมความ ลงโทษทางกฎหมายอย่างมากก็แค่จับขังแค่ไม่กี่วัน ถ้าเป็นแบบนั้นปัญหาก็มาแล้วล่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนมองนักศึกษาที่ยืนล้อมกันอยู่ จากนั้นก็ทำการสอนโดยใช้สถานการณ์จริง
“คนที่มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง จุดเด่นที่เห็นชัดที่สุดคืออะไร?”
เงียบ
เสี่ยวเชี่ยนยืนห่างจากปู้หลีสามก้าวได้ ยืนใกล้คนที่มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรงขนาดนี้ แถมยังพูดจายั่วโมโหด้วย ก็มีแค่เสี่ยวเชี่ยนเท่านั้นแหละที่ทำได้อย่างชิลด์ๆ
“ตอบไม่ได้ก็ปกติ เพราะมันเป็นเนื้อหาที่พวกเธอจะได้เรียนในเทอมต่อไป เดี๋ยวรุ่นพี่คนนี้จะสอนล่วงหน้าให้เอง จากการวิเคราะห์คนๆนี้ด้วยประสบการณ์การรักษาของฉัน ถ้ากล้าส่งเขาให้ตำรวจ พอเขาออกมาจากคุกความแค้นของเขาก็จะยิ่งทวีคูณ”
เสี่ยวเชี่ยนชี้ไปที่นักศึกษาหญิงที่ถูกเทตะปูใส่ นักศึกษาคนนั้นตกใจจนปากซีดไปแล้ว
“ฉันเชื่อว่าเธอก็คงจะคิดเหมือนฉันใช่ไหมล่ะ? เพราะแก่นแท้ของเธอไม่ใช่คนที่มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรงอย่างชัดเจน แต่เธอเป็นพวกเก่งแต่กับคนอ่อนแอ เวลาเกิดปัญหาเธอชอบที่จะใช้กำลังหรือวิธีที่ไม่ดีแก้ปัญหา ไม่เชื่อเรื่องศีลธรรม ดูถูกคนอ่อนแอ ส่วนคนๆนี้—”
เสี่ยวเชี่ยนชี้ไปที่ปู้หลี “ระดับการใช้ความรุนแรงของคนๆนี้ตรงไปตรงมายิ่งกว่า เธอเป็นพวกแค้นเงียบ ส่วนเขาเป็นพวกเปิดเผย อีกทั้งระดับความรุนแรงของเขาก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้อาจแค่เล็กน้อย ครั้งหน้าอาจได้หลั่งเลือดเลยล่ะ”
อย่าได้ใช้เหตุผลกับคนที่มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง คนประเภทนี้โดยแก่นแท้เกลียดและดูถูกคนที่ชอบใช้เหตุผล
ดังนั้นเสี่ยวเชี่ยนจึงได้ข้ามขั้นตอนการพูดด้วยเหตุผล แล้วพูดเรื่องจริงแทน
“ฉันยอมแล้ว!” นักศึกษาหญิงคนนั้นอึ้งไปกับคำพูดของเสี่ยวเชี่ยน เธอเริ่มรังแกเพื่อนผู้หญิงที่ฐานะด้อยกว่ามาตั้งแต่สมัยมอปลายแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอของแข็ง
ปู้หลีล้วงแบ๊งค์ห้าสิบออกมาวางบนโต๊ะ
“เอาไปซื้อยาแก้โง่กินซะนังแรด”
เขาหันไปชี้หน้าเสี่ยวเชี่ยน ดวงตาแดงยิ่งกว่าเมื่อครู่ นี่เป็นหนึ่งในอาการของคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
“แก มีหน้าที่อะไร? ดูปากดีนะ!”
“ฉันก็คือนักศึกษาที่มาสอนแทนที่พอออกจากปากนายกลายเป็นคนโง่คนหนึ่งที่รู้ไม่จริงไงล่ะ”
ภายในห้องนี้มีแต่นักศึกษาใหม่ เพิ่งเข้ามาเลยยังไม่รู้จักเจ๊เชี่ยนคนดัง และก็ย่อมไม่รู้จักสาวสวยคนนี้ที่เป็นจอมเทพเชี่ยนผู้สร้างตำนานในมหาวิทยาลัยเยอะที่สุด
ถึงจะไม่รู้จักเสี่ยวเชี่ยน แต่ดูจากบุคลิกท่าทางเมื่อครู่แค่นั้นก็ยอมแล้ว
ท่าทางเอาเรื่องของปู้หลีคนปกติเห็นแล้วก็กลัว แม้แต่นักศึกษาชายยังไม่กล้าเข้าไป แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับเดินเข้าไปใกล้อย่างหน้าตาเฉย แค่นี้ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกนับถือแล้ว
“หึหึ แกคิดจะเอาไง เอาเรื่องฉัน หรือรังแกผู้หญิงของฉัน?” ปู้หลีไม่สนใจหรอกว่าเสี่ยวเชี่ยนจะมีอิทธิพลแค่ไหน ในสายตาของเขานอกจากผู้หญิงอ้วนที่อยู่ข้างกายแล้ว ผู้หญิงคนอื่นก็แค่ขยะ ไม่ได้มีความงดงาม เขายึดอยู่หลักการเดียว
ไม่ยอมความก็ใช้กำลัง เกิดความตึงเครียดขึ้นมาระหว่างปู้หลีกับเสี่ยวเชี่ยน เขาชี้หน้าเสี่ยวเชี่ยนพลางพูด
“พวกแกทุกคนจำเอาไว้ให้ดี ต่อไปถ้าใครกล้าแตะต้องผู้หญิงของฉัน ต่อให้ฉันต้องตายก็จะลากพวกแกมาเป็นที่รองศพ!”
“นายรับปากฉันแล้วนะว่าจะไม่ทำร้ายคนอื่น!” ลั่วเสียวหย่าเห็นเขาทำตัวกร่างน้ำตาก็ไหลออกมา
เธอไม่ได้อยากให้แฟนตัวเองมา แต่ห้ามปู้หลีไม่ได้
ถ้าปู้หลีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาล่ะก็ใช้กำลังได้กับทุกคนยกเว้นลั่วเสียวหย่า เข้าคุกถี่เป็นว่าเล่น ถูกขังนานสุดก็ครึ่งปี นี่เพิ่งถูกปล่อยออกมาก็ยังไม่ทำตัวดีๆ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย