อวี๋หมิงหลางล้อมผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว การเก็บงานก็เป็นแค่เรื่องเพียงชั่วพริบตา เสี่ยวเชี่ยนมั่นใจในฝีมือของเขา เชื่อว่าเขาต้องช่วยหวางเสี่ยวออกมาได้แน่นอน—แน่นอนว่าระหว่างช่วยก็อาจมีทำให้คนร้ายโมโหจนหวางเสี่ยวหงอาจต้องสูญเสียแขนหรือขา บาดเจ็บบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้สึกว่าตัวเองติดค้างอะไรหวางเสี่ยวหง และก็ไม่คิดจะเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยผู้หญิงจิตใจโหดร้ายคนนี้ เธอจึงปฏิเสธทันที
อวี๋หมิงหลางไม่บังคับเธอ พอได้ยินเสียวเชี่ยนปฏิเสธเขาก็ตอบแค่ว่า เข้าใจแล้ว จากนั้นก็บอกให้เสี่ยวเชี่ยนระมัดระวังตัวแล้ววางสายไป
สิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้ก็คือ ตอนนี้อวี๋หมิงหลางต้องแบกรับความกดดันเท่าไรเพื่อเคารพการตัดสินใจของเธอ
“เขาจะมาหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?” ผู้หญิงจากหน่วยงานอื่นที่ทำงานร่วมกับอวี๋หมิงหลางบ่น เธอก็คือนักจิตวิทยาหลิวเหมียวจากศูนย์วิจัย ก่อนหน้านี้เคยทำงานร่วมกับเสี่ยวเชี่ยน ถูกเสี่ยวเชี่ยนข่มด้วยเรื่องความรู้เฉพาะทางและเรื่องส่วนตัว
คนร้ายหนีไปตอนที่พวกเธอกำลังทำวิจัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงต้องให้ความร่วมมือกับอวี๋หมิงหลางในปฏิบัติการตามจับ
อวี๋หมิงหลางแค่เหลือบมองเธอ “ทำไมคุณถึงไม่โกนหัวล่ะ?”
“มันเป็นความสมัครใจของฉัน คุณมีสิทธิ์ยุ่งเหรอ?”
“งั้นเรื่องที่เขาจะมาหรือไม่มาก็เป็นความสมัครใจของเขา ใครก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”
“เขาทำแบบนี้มันเห็นแก่ตัวเกินไป! ฉันเกลียดนักพวกที่ฐานะดีไม่แคร์ใครหน้าไหน ฉันรู้สึกอับอายที่มีเพื่อนร่วมอาชีพแบบนี้” หลิวเหมียวเกลียดเสี่ยวเชี่ยนมาก ดังนั้นจึงพูดด้วยอารมณ์
“อืม ตอนเขาได้เจอคุณก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน” อวี๋หมิงหลางพูดอย่างไม่เกรงใจ เขารู้จักเสี่ยวเชี่ยนดีที่สุด เธอไม่ได้มีนิสัยชอบดูถูกใคร และเกลียดพวกที่ชอบทำตัวมีศีลธรรมจอมปลอม
“ทำไมถึงพูดกับฉันแบบนี้?” หลิวเหมียวสะเทือนใจ เธอรู้สึกดีกับอวี๋หมิงหลางมาตลอด หลังจากที่รู้ว่าเขาแต่งงานกับเฉินเสี่ยวเชี่ยนแล้ว เธอก็แอบรับความจริงไม่ได้ ตอนนี้จึงหาโอกาสต่อว่าเสี่ยวเชี่ยน แต่กลับถูกอวี๋หมิงหลางว่ากลับ
“ผมก็แค่พูดไปตามความจริง ถ้าคุณเห็นทุกคนสำคัญขนาดนั้นก็ไปกู้โลกเลยสิ คุณจะไปช่วยทุกคนที่เดือดร้อนมันก็เป็นอิสระของคุณ แต่กรุณาอย่าเอามาตรฐานตัวเองไปบีบบังคับคนอื่น”
หลิวเหมียวถูกอวี๋หมิงหลางว่าจนขอบตาเริ่มแดง
เมื่อก่อนหัวหน้าOneมีท่าทีนิ่งเฉยกับเธอ ถึงจะไม่ได้ปฏิบัติต่อเธอเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้พูดจาทำร้ายจิตใจแบบนี้ เขาช่วยพูดแทนเมีย มันไม่ยุติธรรม!
“ในฐานะที่เขาเป็นจิตแพทย์ เห็นคนเดือดร้อนแล้วไม่ช่วยไร้จรรยาบรรณชัดๆ ฉันว่าเขาฉันผิดเหรอคะ?”
“ถ้าเขายอมมาก็คือเขามีน้ำใจ ถ้าเขาไม่ยอมมามันก็เป็นสิทธิ์ของเขา คุณไม่มีสิทธิ์เอาเรื่องศีลธรรมไปผูกมัดใคร”
อวี๋หมิงหลางกวักมือให้คนของเขาล้อมวงเข้ามาเตรียมหารือกลยุทธ์ช่วยเหลือตัวประกัน
คำพูดของอวี๋หมิงหลางฉีกหน้าของหลิวเหมียว เธออิจฉาเคียดแค้นเสี่ยวเชี่ยนมาตลอด แต่กลับถูกคนที่ตัวเองศรัทธาตบหน้าต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ หลิวเหมียวจึงหน้าเสีย
หัวหน้าเล็กลูกน้องของอวี๋หมิงหลางเอาศอกสะกิดหัวหน้าเล็กอีกคน ดูดิ ผู้หญิงหน้ายักษ์คนนี้น่ากลัวชะมัด
หัวหน้าใหญ่เย็นชาจริงๆ
หลิวเหมียวถือเป็นคนเก่งคนหนึ่ง อายุเพิ่งจะสามสิบต้นๆก็ได้ทำงานในศูนย์วิจัยแล้ว ความสามารถโดดเด่นมาก แถมยังเรียนถึงโพสต์ด็อก หน้าตาก็สวยสะดุดตา ถึงอายุจะมากกว่าอวี๋หมิงหลางหลายปี แต่ก็ดูแลผิวพรรณเป็นอย่างดีไม่ได้ดูแก่
ได้ยินว่าปกติมีคนหล่อๆรวยๆแวะมาขายขนมจีบไม่น้อย เป็นผู้หญิงที่ใครๆต่างก็เอาอกเอาใจ
หัวหน้าใหญ่เล่นฉีกหน้าเธอแบบนี้ แถมยังไม่สนว่าเธอเป็นผู้หญิงด้วย
แต่ใครใช้ให้เธอว่าภรรยาสุดที่รักของหัวหน้าใหญ่ล่ะ โดนแบบนี้ก็สมแล้ว
หลิวเหมียวยืนอยู่ที่เดิมด้วยอารมณ์เดือดปุดๆพลางนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของอวี๋หมิงหลาง จากนั้นก็มองอวี๋หมิงหลางมอบหมายภารกิจให้คนอื่นโดยทำเหมือนเธอเป็นอากาศ เธอรู้สึกไม่ยุติธรรมจึงเดินเข้าไปหา
“ฉันขอยืนยันคำเดิมให้เชิญเฉินเสี่ยวเชี่ยนที่คนร้ายต้องการมาช่วยประวิงเวลาในการช่วยเหลือตัวประกัน!”
“ผู้หญิงนี่น่ารำคาญจริง…” หัวหน้าเล็กคนหนึ่งพึมพำเสียงเบา


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย