“รุนแรงขนาดนั้นเลย?” มือหัวหน้าใหญ่ที่กำลังกดปุ่มหยุดชะงัก
จากนั้นก็ถูกข่วนโดยไม่เหนือความคาดหมาย…
“นี่คุณ ผมสังเกตดูนะ ตั้งแต่เหม่ยจิ้งป่วยคุณก็ชอบข่วน เกิดปีแมวเหรอ?”
อีกทั้งชอบข่วนอยู่ที่เดียว เปลี่ยนที่ข่วนบ้างไม่ได้หรือไง
“เพราะตาแก่อย่างคุณมันโง่ไง ถ้านักเรียนของฉันสมองช้าแบบคุณล่ะก็ฉันคงส่งคืนไปนานแล้ว”
“นิสัยเอะอะก็โมโหร้ายอย่างคุณถ้าเป็นทหารของผมล่ะก็ ผมถีบ—” หัวหน้าใหญ่พอเห็นศาสตราจารย์หลิวถลึงตาใส่ก็เสียวสันหลัง รีบเปลี่ยนเรื่อง “ผมชมไปนานแล้ว คุณนายเสี่ยวหลิวดูท่าทางฮึกเหิมมีพลังดีจังนะครับ”
ผู้ชายที่รู้จักปรับตัวตามสถานการณ์จะไม่ถูกข่วน เยี่ยมมาก
“ฉันบอกว่าคุณสมองช้ายังไม่ยอมรับอีก คุณเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เมื่อกี้ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจิตใต้สำนึกของคนเป็นยังไง?”
“ใช่ คุณบอกแล้ว” แต่ผมไม่เข้าใจไง
หัวหน้าใหญ่กล้าโวยวายแค่ในใจ เรื่องเกี่ยวกับวิชาชีพเฉพาะแบบนั้นเขาฟังเข้าใจก็บ้าแล้ว แต่ก็ต้องยอมเชื่อฟังให้ความร่วมมือไป
“เรื่องทุกอย่างที่ปกติพวกเราได้เจอ ได้เห็น ล้วนจะส่งผลต่อจิตใต้สำนึก ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนรักษาให้เหม่ยจิ้ง จิตใต้สำนึกของเขาก็ได้รับผลกระทบ เหม่ยจิ้งส่งผ่านอารมณ์ด้านลบให้เขา ตอนนี้เหม่ยจิ้งลืมไปแล้ว แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับนึกถึงเรื่องที่ไม่สบายใจ ไม่เห็นสีหน้าเขาเหรอว่าดูแย่แค่ไหน?”
ศาสตราจารย์หลิวมองตามหลังเสี่ยวเชี่ยนพลางพูดพึมพำด้วยความเป็นห่วง
“เมื่อกี้เขาถามฉันเรื่องหูแว่วด้วย เด็กคนนี้…เก็บทุกอย่างมาใส่ใจหมด”
ถึงแม้เสี่ยวเชี่ยนจะไม่เคยยอมรับว่าตัวเองเป็นคนดี ถึงขนาดที่ว่าชอบหาว่าตัวเองเป็นคนเลวบ่อยๆ แต่ศาสตราจารย์หลิวกลับเห็นในความพยายามของเธอเป็นอย่างมากตอนรักษาคนไข้ และด้วยความที่ตั้งใจมากจนเกินไป เสี่ยวเชี่ยนจึงตกอยู่ในห้วงความเศร้าของหูเหม่ยจิ้ง ยากที่จะดึงตัวเองออกมา ความรู้สึกแบบนี้จิตแพทย์มักเจอบ่อยๆ หรือที่เรียกกันว่าเกิดความรู้สึกร่วม
“อืมๆ เสี่ยวหลิวพูดถูก” หัวหน้าใหญ่พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่จริงๆแล้วเขาก็ยังคงไม่เข้าใจ
“จิตแพทย์เป็นอาชีพที่ไม่ง่าย ทุกวันต้องสัมผัสกับคนที่มีปัญหาทางจิตใจ ความรู้สึกด้านลบนี้พอส่งผ่านไปที่หมอก็จะหลงเหลืออยู่ในจิตใต้สำนึก หมอที่ดีต้องเกิดความรู้สึกร่วมไปกับคนไข้ แต่ความรู้สึกแบบนี้ถ้าระบายออกไปไม่ได้ หลงเหลืออยู่ในจิตใต้สำนึกมันก็จะก่อตัวเป็นขยะ สร้างความรำคาญใจให้หมอ ดังนั้นทุกครั้งที่ได้ยินข่าวจิตแพทย์เป็นโรคซึมเศร้า ฉันจะรู้สึกเสียดายมาก”
“ใช่ๆ เสียดายๆ—อะไรนะ? เสี่ยวเชี่ยนจะเป็นโรคซึมเศร้าเหรอ?” ในที่สุดหัวหน้าใหญ่ก็เข้าใจสักประโยคแล้ว
ปรากฏว่าก็ยังถูกข่วนอยู่ดี
“อย่าพูดบ้าๆ เสี่ยวเชี่ยนไม่มีทางเป็นโรคซึมเศร้า เพราะว่า—” ศาสตราจารย์หลิวชี้ไปที่โทรศัพท์มือถือของหัวหน้าใหญ่ “รีบโทรไปออกคำสั่งสิ ให้เจ้าเล็กรีบไปหาเสี่ยวเชี่ยน ลูกศิษย์ฉันต้องมาเป็นแบบนี้เพราะจัดการเรื่องให้พวกคุณไง เร็วๆ ถ้าจัดการไม่ดีล่ะก็ต่อไปคุณไม่ต้องกลับบ้านเลยนะ ฉันไม่ต้องการคุณ”
“……” พูดอย่างกับว่าตอนนี้ต้องการ ใบหย่ายังไม่ได้เปลี่ยนเป็นใบทะเบียนสมรสเลยนะ
หัวหน้าใหญ่แอบบ่นในใจแต่ก็รีบทำตามโดยดี โทรไปที่หน่วยแล้วใช้สถานะความเป็นผู้บัญชาการระดับสูงสั่งภารกิจให้อวี๋หมิงหลาง
พอวางสายในใจหัวหน้าใหญ่ยังคงคิดเรื่องที่ศาสตราจารย์หลิวพูดเมื่อครู่
“คุณบอกว่าเสี่ยวเชี่ยนไม่มีทางเป็นโรคซึมเศร้าเพราะอะไรเหรอ?”
“เพราะเขาหาวิธีระบายอารมณ์ได้แล้ว หัวใจมีที่พักพิง ก่อนหน้านี้ฉันยังรู้สึกว่าหมั้นเร็วไป ตอนนี้พอมาดูมันก็มีข้อดีเหมือนกัน บางทีคนมีพรสวรรค์แบบนี้ก็ควรมีบางอย่างมายึดเหนี่ยวไว้ให้ใจเขาไม่ลอยไปไกล เวลาเศร้าๆมีคนคอยช่วยเขาแบ่งเบาความรู้สึก”
แก่นแท้ของคำว่าครอบครัวควรเป็นแบบนั้น



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย