เพราะภายในร้านอาหารที่ขนาดไม่เล็กนี้ นอกจากเธอกับอวี๋หมิงหลางแล้วยังมีคนรู้จักนั่งอยู่อีกโต๊ะ
“หมอเฉิน” หูเหม่ยจิ้งพอเห็นเสี่ยวเชี่ยนก็โบกมือให้อย่างดีใจ
“หัวหน้ากลาง” หวางย่าเฟยเองก็ยืนขึ้น
โต๊ะนี้ไม่เพียงแต่จะมีหูเหม่ยจิ้งกับฉู่เซวียนสองสามีภรรยานั่งอยู่ ยังมีหวางย่าเฟยที่เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันเสร็จได้รับอันดับที่ดีนั่งอยู่ด้วย
หวางย่าเฟยเป็นเพื่อนกับหูเหม่ยจิ้ง ตอนนั้นที่เขาได้เจอกับเสี่ยวเชี่ยนก็เป็นเพราะฉู่เซวียนแนะนำ
พวกเขาเป็นเพื่อนเก่ากัน เสี่ยวเชี่ยนเคยรักษาให้ทั้งสามคน
หวางย่าเฟยได้รับการรักษาไประยะหนึ่งก็หายสนิท ก่อนหน้านี้ปีครึ่งเขาได้เข้าร่วมการทดสอบจนได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ011 ต่อมาได้เป็นมือสไนเปอร์ฝีมือยอดเยี่ยมรับช่วงต่อจากอวี๋หมิงหลาง
ตอนแรกหวางย่าเฟยยังเกลียดเสี่ยวเชี่ยน เพราะเธอเอาเรื่องที่เขามีปัญหาสุขภาพไปรายงาน ทำให้เขาพลาดโอกาสเข้าทีมของทหารหน่วยรบพิเศษ แต่ต่อมาทั้งสองคนก็ทลายกำแพงในใจได้ เขาเลือกให้เสี่ยวเชี่ยนรักษา นึกไม่ถึงว่าพอเขาหายแล้ว หน่วย011จะจัดการทดสอบให้เขาเป็นกรณีพิเศษ
เป็นการทดสอบที่มีเขาเพียงแค่คนเดียว
หลังจากที่หวางย่าเฟยได้เข้าหน่วยไปแล้ว เขาเคยไปหาอวี๋หมิงหลางเป็นการส่วนตัวเพื่อถามว่าเป็นเพราะเสี่ยวเชี่ยนช่วยพูดหรือเปล่าถึงได้จัดการทดสอบให้เขาเป็นกรณีพิเศษ อวี๋หมิงหลางบอกว่าก็ครึ่งๆ
อวี๋หมิงหลางถูกใจความสามารถของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นทุนเดิม เสี่ยวเชี่ยนเองก็รับรองให้หวางย่าเฟยว่าเขาไม่ได้มีอาการผิดปกติทางจิตใจที่จะส่งผลต่อการทำงาน
แต่สิ่งที่ทำให้หน่วย011จัดสอบให้เป็นพิเศษเป็นเพราะความพยายามและความสามารถของตัวหวางย่าเฟยเอง หลังจากที่ถูกปฏิเสธไปคราวก่อนเขายังสามารถลุกขึ้นมาให้ความร่วมมือในการรักษาอีกทั้งยังทำการฝึกตามปกติ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าสภาพจิตใจของเขาสามารถเป็นมือสไนเปอร์มือวางอันดับหนึ่งได้
หลังเสร็จเรื่องหวางย่าเฟยรู้สึกขอบคุณมาก เขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนตอบเขามาว่า ฝนตกฟ้าร้องก็ยังเป็นเพราะสวรรค์เมตตา
เห็นค่าในความล้มเหลว เพราะถ้าจัดการกับความล้มเหลวให้ดีก็จะกลายเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่า
หวางย่าเฟยรู้สึกกับอวี๋หมิงหลางและเสี่ยวเชี่ยนแตกต่างออกไป ซึ่งเขาไปแสดงออกในการฝึกที่พยายามมากเป็นพิเศษ ทำให้อวี๋หมิงหลางได้ทหารเก่งๆเพิ่มเข้ามา
ส่วนหูเหม่ยจิ้งและสามีรู้สึกขอบคุณเสี่ยวเชี่ยนยิ่งกว่า ถึงหูเหม่ยจิ้งจะจำเรื่องที่เสี่ยวเชี่ยนช่วยปลุกตัวตนให้เธอไม่ได้ แต่ฉู่เซวียนสามีเธอจำได้ชัดเจน หลังจากที่ลูกในท้องของหูเหม่ยจิ้งคลอดออกมา เขาก็ได้เชิญเสี่ยวเชี่ยนไปเป็นสักขีพยานให้กับปาฏิหาริย์ของชีวิตน้อยๆนี้
พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางทั้งโต๊ะก็พากันดีใจ
“เจ้าตัวแสบทำไมยังไม่นอนอีก?” เสี่ยวเชี่ยนเดินเข้าไปแล้วก็เห็นเด็กน้อยตัวอ้วนในอ้อมกอดของหูเหม่ยจิ้ง
“อย่าให้พูดเลย เด็กแสบคนนี้พลังเยอะเหลือเกิน ดึกดื่นไม่หลับไม่นอนก่อกวนฉันกับพ่อเขาอยู่เรื่อย นี่พ่อเขากลับจากเลิกงานเจอย่าเฟยพอดีเลยออกมากินข้าวด้วยกัน” หูเหม่ยจิ้งส่งเด็กให้เสี่ยวเชี่ยนอุ้ม
เด็กคนนี้พอไปอยู่กับเสี่ยวเชี่ยนก็เอาแต่ยิ้ม เด็กอายุไม่ถึงสองขวบแต่อ้วนตุ๊ต๊ะ พ่อกับแม่ทุ่มเทความรักทั้งหมดที่มี ดูได้จากเนื้อหนังที่เกินออกมา นี่เป็นเด็กที่เติบโตในครอบครัวที่มีความสุข
“หมอเฉินฉันว่าเสียวส่วงชอบหมอมากเลยนะคะ พอหมออุ้มเขาก็ยิ้มไม่หยุดเลย” หูเหม่ยจิ้งสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่เจอเสี่ยวเชี่ยนลูกชายจะดีใจมาก อีกทั้งยังพยายามเอามือตีเสี่ยวเชี่ยน
“เขาคงถูกชะตาฉันมั้งคะ” เสี่ยวเชี่ยนอุ้มเด็กพลางยิ้มแย้ม
เด็กคนนี้มีชื่อจริงว่าฉู่ส่วง ชื่อเล่นชื่อหลางหลาง
ตอนเกิดฉู่เซวียนถามหูเหม่ยจิ้งว่าจะให้ลูกชื่ออะไร เธอตอบอย่างไม่ลังเลว่า ชื่อจริงให้ชื่อฉู่ส่วง ชื่อเล่นว่าหลางหลาง
เกือบทำศาสตราจารย์หลิวที่ไปด้วยช็อคตาย ยังนึกว่าเพราะเธอนึกอะไรออกหรือเปล่า
แต่ไม่เลย ส่วนใหญ่หูเหม่ยจิ้งจะค่อนข้างอ่อนโยน มีอารมณ์ร้อนบ้างเล็กน้อย แต่นิสัยกลมกลืนกันได้ดี เธอนึกเรื่องเมื่อก่อนไม่ออกเลยแม้แต่น้อย

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย