พอได้พูดถึง ‘ความเลวร้าย’ ของอวี๋หมิงหลางที่มีอยู่มากมาย หวางย่าเฟยก็แฉอย่างมีความสุข
อวี๋หมิงหลางยิ้มตาหยียื่นปีกไก่หนึ่งไม้ให้เขา อีกทั้งยังรินเครื่องดื่มให้ ปกติมือสไนเปอร์ที่อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมห้ามดื่มเหล้า
ถึงหวางย่าเฟยจะมีพรสวรรค์ด้านการยิงปืนชนิดที่เหนือคนอื่น แต่เขาก็ไม่มีทางเก่งถึงระดับอวี๋หมิงหลาง ขาดก็แค่เรื่องเซ้นส์
เซ้นส์ของอวี๋หมิงหลางเทียบได้กับสัตว์ แต่ใช้กับเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ ใช้กับคนอื่นแม่นหมด หวางย่าเฟยช้ากว่าเยอะ เบื้องหลังใบหน้ายิ้มแย้มของหัวหน้ากลางนั้นเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต หวางย่าเฟยยังดูไม่ออก ยังคงพูดคุยภาษาเดียวกันกับเสี่ยวเชี่ยน
“มาๆๆ กินเยอะๆนะ” อวี๋หมิงหลางยื่นให้อีกหลายไม้จนหวางย่าเฟยรู้สึกเซอร์ไพร้ส์ไม่น้อย จะไปรู้ได้อย่างไรว่าแท้ที่จริงในใจของอวี๋หมิงหลางกำลังคิดว่า ‘กินเยอะๆเลยนะ กลับหน่วยแกจะไม่ได้กินอีก จะเพิ่มเซตเอาให้ตายไปเลย’
“ในมุมมองทางจิตวิทยา มนุษย์มีสัญชาตญาณแห่งการโจมตี แต่ลักษณะการโจมตีของคนส่วนใหญ่ไม่ชัดเจนในสภาวะปกติ ถ้าถูกกระตุ้นโดยปัจจัยภายนอกก็อาจจะปล่อยสัญชาตญาณนี้ออกมาจนทำให้เกิดเป็นโรคจิตเวช สัญชาตญาณการโจมตีแบ่งออกเป็นต่อภายนอกกับต่อภายใน ต่อภายนอกก็คือโจมตีคนอื่น อย่างเช่น โรคอารมณ์แปรปรวนขั้นรุนแรง ภาวะมีแนวโน้มการใช้ความรุนแรง ภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง เป็นต้น ส่วนต่อภายในก็คือฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง โรคซึมเศร้าก็ถูกจัดอยู่ในประเภทนี้”
“งั้นช่วยวิเคราะห์หน่อยครับว่าคนแบบไหนที่มีแนวโน้มชอบโจมตี”
“ถึงสถานการณ์ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนมีปัจจัยด้านกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล แต่ส่วนใหญ่คนที่มีแนวโน้มโจมตีต่อภายนอกเกี่ยวข้องกับเรื่องสภาพแวดล้อมอย่างแยกกันไม่ได้ เด็กคนหนึ่งถ้าเติบโตมาในสังคมที่ใช้ความรุนแรงหรือตัวเขาไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างรุนแรงเขาก็จะเอาความรุนแรงนี้เป็นบรรทัดฐานของตัวเอง คนที่มีแนวโน้มชอบโจมตีคนอื่นมีจำนวนไม่น้อยในสังคม ซึ่งมันก็เกี่ยวกับการสั่งสอนภายในครอบครัว”
เสี่ยวเชี่ยนมักจะอธิบายเรื่องที่มีความซับซ้อนให้เข้าใจง่ายได้เสมอ คนที่คุยกับเธอ ต่อให้ไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องพวกนี้แม้แต่นิดเดียวก็สามารถฟังเธอเข้าใจได้อย่างสบาย ไม่เหมือนกับพวกหนอนหนังสือบางคนที่แค่อ้าปากก็ไม่มีใครเข้าใจ
“งั้นหัวหน้ากลางของพวกเราเป็นประเภทไหนเหรอครับ?” หวางย่าเฟยรู้สึกได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น
“เขาน่ะเหรอ…” เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองอวี๋หมิงหลาง รู้สึกได้ว่าเขาเอามือมาลูบขาเธออยู่ใต้โต๊ะ เพื่อเป็นการเตือนว่า พูดอะไรต้องรับผิดชอบนะ เดี๋ยวกลับไปจะเพิ่ม ‘เซตเมนู’ให้นะจ๊ะ
ไส้กรอกยี่ห้อหัวใจ มีให้กินจนอิ่ม…
ในฐานะที่เป็นจิตแพทย์ที่มีจรรยาบรรณ มีเหรอจะปล่อยให้คนบางคนมาขู่ได้?
เสี่ยวเชี่ยนทำเหมือนไม่รู้เรื่องที่เขาส่งสัญญาณแบบนั้น เธอตอบหวางย่าเฟยแบบสบายๆ
“แล้วนายคิดว่าเขาเป็นแบบไหนล่ะ?”
“ฮี่ๆ พูดตามตรงนะครับ ผมคิดว่าหัวหน้ากลาง—”
“หนุ่มน้อย กินสิกิน” อวี๋หมิงหลางคีบอาหารให้อีกรอบพร้อมทั้งส่งสายตาเตือนหวางย่าเฟย ต่อหน้าคู่หมั้นของเขาถ้ายังกล้าพูดจาพล่อยๆทำลายภาพลักษณ์ของเขาอีกล่ะก็ จะเอาจริงแล้วนะโว้ย
“หัวหน้ากลางพอแล้วครับ ผมกินไม่หมดหรอก” หวางย่าเฟยก็ยังไม่รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานมา
ให้กินเยอะขนาดนี้ก็ยังอุดปากแกไม่ได้ อวี๋หมิงหลางตะโกนในใจ
“หมอเฉิน อันที่จริงเมื่อกี้ผมล้อเล่นน่ะครับ จริงๆแล้วพวกเราต่างรู้ว่าหัวหน้ากลางทำเพื่อพวกเราทั้งนั้น ถึงทุกคนจะแอบเรียกเขาว่าซาตาน แต่พวกเราก็รู้สึกโชคดีที่มีซาตานแบบนี้เป็นหัวหน้า หมอไม่รู้แน่นอนว่าความสามารถในการรบของพวกเราแข็งแกร่งแค่ไหน อัตราการแพ้ของพวกเราน้อยสุดในบรรดาทหารบก นี่ก็เป็นเพราะหัวหน้ากลางฝึกพวกเรามาอย่างเข้มงวด ปกติฝึกเยอะตอนรบเลยเสียเลือดน้อย เขาเป็นฮีโร่ในใจของพวกเราครับ”
หวางย่าเฟยใช้โอกาสนี้พูดสิ่งที่อยู่ในใจแทนทุกคน
ปกติอายไม่กล้าพูดต่อหน้า ตอนนี้ถือโอกาสพูดให้ว่าที่ภรรยาของหัวหน้าได้ฟัง


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย