อวี๋หมิงหลางรู้สึกว่าช่วงเวลาขอแต่งงานมาถึงแล้ว
ใช้มือเปล่าจับงูประทับใจฟ้าดิน ถ้าอย่างนั้นเสียวเหม่ยก็ต้องประทับใจอย่างแน่นอน
“ในถุงของพวกคุณใช่งูหรือเปล่า?”
มีเสียงดังมาจากบนเนิน เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางเงยหน้าไปพร้อมกัน บนยอดเนินมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ รูปร่างผอมไม่สูง แต่งตัวคล้ายกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในภูเขา ผิวค่อนข้างคล้ำ
“นายเลี้ยงงูเหรอ?” อวี๋หมิงหลางหน้านิ่ว
“ใช่ครับ บ้านผมเปิดโรงแรมอยู่บนยอดเขา ชุ่ยเอ๋อเป็นสัตว์เลี้ยงของผม มันเป็นงูตัวสีเขียว ถึงจะดูน่ากลัวแต่มันไม่มีพิษนะครับ”
ในใจของอวี๋หมิงหลางมีคำว่า แม่ง ตัวโตๆ เขาทำหน้าตกใจทันทีต่อการถูกตบหน้าที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วรีบใช้ทักษะการแสดงที่มีทั้งหมดชี้ไปที่ถุง
“นายหมายความว่า นี่ไม่ใช่งูเขียวไผ่มีพิษเหรอ?”
“ไม่ใช่แน่นอนครับ งูเขียวไผ่หัวเป็นสามเปลี่ยม แต่ชุ่ยเอ๋อของผมหัวมนๆ ไม่มีพิษ”
อวี๋หมิงหลางรีบทำสีหน้าเหมือนเพิ่งเข้าใจ แล้วหันไปทำสีหน้าเหมือนตัวเองเพิ่งรู้กับเสี่ยวเชี่ยนที่กำลังมองเขาด้วยท่าทางสงสัย
“เสียวเหม่ย ดูท่าความรู้ของพี่จะยังมีไม่มากพอ คนเรานี่นะ เรียนได้ยันแก่จริงๆ อย่าเป็นเหมือนผมเมื่อกี้นะ ที่ความรู้แค่หางอึ่งแต่ทำอวดรู้ มองงูไม่มีพิษเป็นมีพิษได้”
รีบพูดดักคอก่อนที่เธอจะแฉ อวี๋หมิงหลางแอบชื่นชมตัวเองเบาๆ
ความประทับใจทั้งหมดที่มีของเสี่ยวเชี่ยนหายไปจนหมดเกลี้ยง พูดเรื่องงูมีพิษไม่มีพิษจนเธอเชื่อสนิท แต่โอกาสที่อวี๋หมิงหลางที่เป็นถึงหัวหน้าหน่วยรบพิเศษที่ฝึกในป่าในภูเขามานานจะผิดพลาดเรื่องพวกนี้ก็คงต่ำพอๆกับการที่จิตแพทย์อย่างเธอจะสับสนเรื่องง่ายๆอย่างโรควิตกกังวลกับโรคซึมเศร้า
ในบรรดาวิชาที่พวกเขาต้องเรียนมีวิชาการจำแนกสัตว์มีพิษในป่า ความผิดระดับต่ำแบบนี้อวี๋หมิงหลางไม่มีทางพลาดแน่นอน
ดังนั้นคนบางคนที่เมื่อครู่กำลังรอเธอพยักหน้าเรื่องแต่งงาน ตอนนี้เริ่มที่จะใช้เทคนิคการแสดงหลอกให้เธอสงสาร
อวี๋หมิงหลางไม่กล้ามองเธอ เพราะต่อให้ไม่มองก็สัมผัสได้ถึงความโกรธที่แผ่ซ่านออกมา แย่แล้วๆ อุตส่าห์จะแสดงออกว่าเป็นผู้ชายที่พึ่งพาได้ เพื่อได้รับความไว้วางใจจากเธอ ช่วยเธอกำจัดความหวาดกลัวเรื่องแต่งงานแล้วรับปากจะเป็นเจ้าสาวให้เขา ทุกอย่างพังหมดแล้ว
อวี๋หมิงหลางเอาความโกรธไปลงกับเด็กหนุ่มที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวนี้
“ทำไมนายถึงได้เลี้ยงงูเล่า อีกอย่างภูเขาออกจะใหญ่ ทำไมปล่อยงูแล้วถึงรู้ว่าจะต้องมาตามหาตรงนี้?”
เด็กหนุ่มร่างผอมเห็นอวี๋หมิงหลางตะคอกก็กลัวจนหัวหด ตอบกลับแบบกลัวๆ
“ผมนั่งเป่าขลุ่ยอยู่ที่ลำธารข้างหน้า ผมวางชุ่ยเอ๋อไว้ในตะกร้า ปกติก็เป็นอย่างนั้น แต่วันนี้ไม่รู้มันเป็นอะไรเลื้อยออกจากตะกร้า ผมได้ยินเสียงจากทางนี้ก็เลยวิ่งมาดู ตรงนี้ก็ห่างจากลำธารไม่ไกลเท่าไรด้วยครับ…”
นั่นก็เพราะเมื่อกี้อวี๋หมิงหลางต้องการได้รับความไว้วางใจจากเสียวเหม่ย ก่อนจับงูได้ตะโกนประโยคที่แสนประทับใจออกมา นั่นก็คือถ้าชาติหน้ามีจริงจะยอมแต่งงานกับเขาหรือเปล่า
เด็กหนุ่มได้ยินเสียงก็เลยวิ่งหามาตามทาง พอเห็นอวี๋หมิงหลางถือถุงที่มีบางสิ่งขยับอยู่ข้างในเขาก็ต้องถามสิ
ประสบความสำเร็จในการแฉคนหน้าด้านบางคน
อวี๋หมิงหลางโยนถุงให้เด็กหนุ่มคนนั้นพร้อมสายตาจ้องแบบจะกินหัว เด็กหนุ่มห่อไหล่ด้วยความกลัวที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด
เสี่ยวเชี่ยนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ในใจมีคำว่า เหอๆ ตัวโตๆ
อวี๋หมิงหลางไอ้คนหน้าด้าน ได้เห็นธาตุแท้ของคนอย่างนายอีกแล้ว
“ถ้าชาติหน้ามีจริง ยังจะให้ฉันแต่งงานด้วยอีกไหม?” เสี่ยวเชี่ยนถามอย่างเย็นชา
อวี๋หมิงหลางยิ้มแหยๆพลางพยักหน้า “แน่นอน…”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย