เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าเรื่องนี้แปลกๆแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรบนโต๊ะอาหาร เธอคิดว่าอวี๋หมิงหลางคงอยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยจับโจรโรคจิต ขณะกินจึงช่วยอวี๋หมิงหลางแสดงความขอบคุณทุกคนโดยใช้น้ำผลไม้ดื่มแทนเหล้า
ทุกคนต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มเฮฮา มีแค่อวี๋หมิงหลางเท่านั้นที่รู้ว่าพอกินเสร็จเขากับเหล่าพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมานี้ต้องแยกจากกันจริงๆแล้ว
ถึงจะอยู่เมืองติดกันแต่ก็อยู่กันคนละหน่วยแล้ว
ต่อไปหากมีการซ้อมรบพวกเขาก็จะเป็นศัตรูกัน ต้องใช้วิธีในแบบทหารปกป้องเกียรติของตัวเอง นี่คือหน้าที่และศักดิ์ศรีของทหาร
แต่ในเวลานี้เขายังคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้ากลางของทุกคน ตอนอยู่นอกหน้าที่คนเหล่านี้เรียกเขาว่าลูกพี่ ตอนที่ไม่ได้ฝึกเขายังเคยเอาจดหมายรักที่เสียวเหม่ยเขียนให้อวดกับทุกคนด้วยความภูมิใจ อ่านออกเสียงให้ทุกคนฟังพร้อมทั้งแบ่งปันประสบการณ์ในการจีบสาว
ในสนามฝึกซ้อมคนเหล่านี้คือทหารของเขา พอหมดหน้าที่พวกเขาคือพี่น้อง แต่หลังจากวันนี้ไปทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงความทรงจำที่สวยงามเหลือไว้ในใจของอวี๋หมิงหลาง
ในที่สุดก็เข้าใจคำพูดที่เสี่ยวเชี่ยนชอบพูดติดปากบ่อยๆ คนบางคนเดินๆไปด้วยกันอยู่ดีๆก็ต้องแยกจาก ตอนนี้มันได้ทิ่มแทงจุดที่อ่อนแอที่สุดในสายเลือดลูกผู้ชายอย่างเขา
ร่วมมือกันไขคดีใหญ่ คู่หมั้นของหัวหน้ากลางก็อยู่ เหล่าทหารหาญเหล่านี้พากันสรวลเสเฮฮากันอย่างสนุกสนาน แต่ละคนพากันพูดชมเชยผลงานของอวี๋หมิงหลางให้เสี่ยวเชี่ยนฟัง
ถ้าอวี๋หมิงหลางไม่ได้ถูกย้ายไป เมื่อเขาเห็นภาพเหล่านี้ก็คงจะยิ้มพลางพูดว่า ไอ้พวกบ้าเอ๊ย อย่าทำให้ว่าที่พี่สะใภ้ตกใจสิ
แต่พอในใจของเขาเริ่มมีความเศร้าเข้าปกคลุม แล้วมาเห็นภาพต่างๆเหล่านี้ ในใจก็เต็มไปด้วยความเศร้าและเสียดาย
“ผมไปห้องน้ำหน่อยนะ” อวี๋หมิงหลางพูดกับเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า
อวี๋หมิงหลางลุกออกไป หนึ่งนาทีต่อมา หวางย่าเฟยรู้สึกว่าควรถามอวี๋หมิงหลางเรื่องเกี่ยวกับโรคหวาดกลัวการแต่งงานของเสี่ยวเชี่ยน
เขาจึงลุกขึ้นออกไปด้วย แล้วเดินไปทางห้องน้ำ ทันใดนั้นเขาก็เห็นอวี๋หมิงหลางยืนอยู่ตรงห้องโถงกับผู้ชายวัยกลางคน
“หมิงหลาง! พวกเรารอคุณมานานแล้ว! หัวหน้าเก่าคุณบอกพวกเราแล้วว่าคุณจะมาถึงในวันสองวัน ผมรอคุณทุกวันเลยนะ นึกไม่ถึงว่าออกมากินมื้อดึกจะมาเจอคุณที่นี่!”
ชายวัยกลางคนตบบ่าอวี๋หมิงหลางด้วยความดีใจพลางยิ้มหน้าบาน อวี๋หมิงหลางแค่ยิ้มให้เล็กน้อยตามมารยาท
“พรุ่งนี้ อ้อไม่สิ นี่ก็เช้ามืดแล้ว ควรถามว่าวันนี้คุณจะมาทำเรื่องย้ายเข้าเลยไหม?”
หวางย่าเฟยหลบอยู่หลังเสา ได้ยินทั้งสองคนคุยกันอย่างชัดเจน
ทันใดนั้นเขาก็นึกออก ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวชุดลำลองนี้มันผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายศัตรูตอนซ้อมรบไม่ใช่เหรอ? ซึ่งก็คือผู้บัญชาการสูงสุดของค่ายทหารที่นี่ แล้วทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นกับหัวหน้ากลางล่ะ?
“ได้ครับ ตอนเช้าผมจะเข้าไปทำเรื่องครับ” อวี๋หมิงหลางตอบ
ชายวัยกลางคนดีใจมาก แสดงอาการดีใจไม่หยุด
“ดีๆๆ! พวกเราต้องการผู้บัญชาการรบพิเศษเก่งๆแบบคุณมาก ผมเชื่อว่าถ้าคุณเข้ามาร่วมทีมหน่วยใหญ่เสินเจี้ยนของพวกเราจะต้องเก่งกว่า011อย่างแน่นอน! ซ้อมรบคราวก่อนหน่วยย่อยของคุณเล่นทหารปืนใหญ่ของเราซะน่วมเลย ทหารหน่วยรบพิเศษปาดคอได้ถึงตัว ตอนนั้นผมล่ะเกลียดหน่วย011ของพวกคุณจริงๆ แต่พอมาคิดดูดีๆ พวกเรากำลังจะสร้างหน่วยรบพิเศษแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะย้ายคุณมาได้จริงๆ!”
ฝีมือด้านการทหารของอวี๋หมิงหลางมีชื่อเสียงมากในแวดวงทหารบก การที่ย้ายเขามาได้ย่อมเป็นเรื่องใหญ่ที่น่ายินดี
หวางย่าเฟยฟังถึงตรงนี้ก็ตกใจมาก อะไรนะ?! หัวหน้ากลางจะย้ายไปแล้ว?
เมื่อเทียบกับสีหน้ายินดีที่ปิดไม่อยู่เลยสักนิดของผู้บัญชาการสูงสุด เห็นได้ชัดว่าอวี๋หมิงหลางไม่ได้แสดงอาการออกมามากมาย ผู้บัญชาการเห็นสีหน้าเรียบเฉยของเขาก็เข้าใจได้ทันที

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย