“ใครทำผิดต่อฉัน ฉันก็ใช้การกระทำแสดงออก ไม่เคยอัดอั้นไว้ในใจ ในสายตาของฉันโลกนี้ไม่มีคนมากมายที่ทำให้ฉันต้องเก็บความแค้นไว้ในใจ และฉันก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับโลกใบนี้ ดังนั้นฉันถึงอยู่ได้อย่างสบายใจ วิชานี้ถือเป็นการตอบแทนอาหารของเธอแล้วกัน กลับไปคิดดูให้ดีๆ”
เสี่ยวเชี่ยนตื่นมาอย่างอารมณ์ดี จึงยอมให้บทเรียนกับผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำเสพติดการแต่งหน้า
“คนบางคนถ้าไม่ให้แอบเคียดแค้น…ยังจะมีทางอื่นอีกเหรอ?” คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนได้ทิ่มแทงเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของจิตใจเย่เสียวอวี่
“แน่นอน เย่เสียวอวี่ จริงๆแล้วความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อแม่ไม่ค่อยดีใช่หรือเปล่า? ฉันว่าเธอดีกับเวยเวยมากกว่าพ่อแม่เสียอีก” หลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนชี้แนะผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำแล้วก็เปลี่ยนหัวข้อเข้าประเด็นหลักอย่างเนียนๆ
“ฉันไม่อยากพูดถึง”
เสี่ยวเชี่ยนยักไหล่ เย่เสียวอวี่มีใจที่ระแวงเธอมาก ใช้การสนทนาไม่มีทางเข้าถึงจิตใจได้แน่ แต่ประธานเชี่ยนไม่เคยยอมแพ้กับอุปสรรค เธอมีวิธีแก้ปัญหาเยอะแยะ
กินข้าวเสร็จเสี่ยวเชี่ยนก็ลุกไปเปิดเพลง แล้วเลยไปจุดตะเกียงน้ำมันหอมระเหย
เดิมเย่เสียวอวี่กำลังจะเก็บโต๊ะ แต่กลับถูกเสียงเพลงเบาๆดึงดูด
“นี่เพลงอะไรน่ะ เพราะดี เอาไปเปิดในรายการฉันน่าจะเหมาะ”
“ฉันจะบอกเธอถึงแผนการรักษาในช่วงนี้ มีขั้นหนึ่งที่ต้องใช้ดนตรีบำบัด ดนตรีช่วยรักษาโรคจิตเวชได้มากมาย ไม่เชื่อเธอลองนั่งบนโซฟาหลับตาฟังดูสิ~”
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มระรื่นประหนึ่งเป็นสาววัยรุ่น
เย่เสียวอวี่รีบทำตามในทันใด นั่งบนโซฟาหลับตาฟังเพลง ไม่รู้ว่าเธอได้กลิ่นอะไร แต่เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เสี่ยวเชี่ยนยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอ จากนั้นก็เริ่มสะกดจิต
“รู้สึกว่าร่างกายผ่อนคลายลงไหม?”
“อืม สบายดี”
“ปล่อยวางความคิด ตอนนี้เธออยู่ในป่าเขียวขจี รอบตัวเธอเต็มไปด้วยดอกไม้ใบหญ้า…” การกระตุ้นให้เกิดจินตนาการเป็นขั้นแรกของการสะกดจิต
เย่เสียวอวี่ไม่เคยเจอการสะกดจิตมาก่อน ยิ่งไม่รู้ใหญ่ว่าเสี่ยวเชี่ยนถนัดเรื่องพูดชี้นำคนมาก ไม่นานเย่เสียวอวี่ก็ถูกสะกดจิต
รู้สึกได้ว่าเย่เสียวอวี่เข้าสู่ภาวะถูกสะกดจิตไปได้ครึ่งทางแล้ว หลังจากที่ร่างกายของเธอผ่อนคลาย เสี่ยวเชี่ยนก็เริ่มถาม
“บอกฉันหน่อยว่าเธอคิดยังไงกับพ่อแม่ อย่าปิดบัง คิดยังไงก็พูดออกมา”
“แม่ฉันเป็นคนที่ฉลาดหัวไว ไม่ยอมเสียเปรียบแม้แต่นิดเดียว ชอบคิดว่าตัวเองควบคุมทุกสิ่ง คิดเล็กคิดน้อยมองเงินเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เขาชอบคิดว่าฉันยังสวยไม่พอ สมบูรณ์แบบไม่พอ พ่อฉันไม่ค่อยกลับบ้านตอนฉันเด็กๆ ฉันเลยอยู่กับแม่เป็นส่วนใหญ่ แต่ฉันรู้สึกว่าแม่รักตัวเองมากกว่า ฉันยังสู้เงินไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“พ่อเธอทำงานอะไร?”
“ตอนนี้เป็นผู้จัดการหน่วยงานเอกชน ตอนฉันเด็กๆเขาทำงานรัฐวิสาหกิจ วันๆไปเลี้ยงสังสรรค์จนดึกดื่นถึงกลับบ้าน ต่อมาหน่วยงานนั้นปิดตัวลง เขาเลยไปผันตัวไปเป็นนักธุรกิจ พอเจ๊งก็เลยไปทำงานให้เอกชน”
“เวยเวยมีความสัมพันธ์ยังไงกับพ่อแม่เธอบ้าง?”
“ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีกับแม่ฉัน แม่ฉันเป็นคนใจแคบ เขาชอบพาเวยเวยไปไว้บ้านอา แต่พ่อไม่เห็นด้วย สองคนก็เลยทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยๆ ฉันรู้สึกว่าพ่อรักเวยเวยมาก ชอบซื้อเสื้อผ้าให้เวยเวย”
“พ่อเธอมีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรงหรือเปล่า?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย