แม่หลิวเหมยคิดแบบนั้น ฟู่กุ้ยพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ขานี่สามวันแล้วครับ กระดูกหักเล็กน้อยไม่ได้หนักมาก พักสักเดือนก็หายครับ ไม่กระทบต่อการเดิน หลิวเหมยเป็นห่วงผมมากเกินไปถึงได้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ผมเลยมาดูครับ”
แม่หลิวเหมยมองอวี๋หมิงหลาง เสี่ยวเฉียงรีบเสริม
“ใช่ครับ แม่ผมดูให้แล้ว อาการไม่หนัก ใช้ยาสูตรประจำตระกูลของบ้านผมช่วยด้วย เดือนนึงก็หายครับ รับรองว่ากลับมากระโดดโลดเต้นได้เหมือนเดิม คนหนุ่มฟื้นตัวไวครับ อีกอย่างฟู่กุ้ยก็ไม่ใช่กระดูกแตกละเอียด ไม่กระทบการเดินแน่นอนครับ”
แม่หลิวเหมยรีบยิ้มให้ “ฟู่กุ้ยอย่าถือสานะ เด็กคนนี้ถูกพวกเราตามใจจนเคยตัว อวี๋หลิวเหมย! คิดได้หรือยัง? ฟู่กุ้ยขาหักแบบนี้ยังมาอุตส่าห์มาหา เรายังจะไปล้อเล่นรุนแรงกับเขาแบบนั้นอีก ยังไม่รีบมาขอโทษฟู่กุ้ยอีก!”
สมกับเป็นผู้ใหญ่ พูดจายังเหลือทางให้เดิน พูดแบบนี้เหมือนต้องการทำให้เรื่องเล็กลง
เดิมพวกเธอก็พอใจในตัวว่าที่ลูกเขยคนนี้อยู่แล้ว แล้วจะปล่อยให้เกิดเรื่องระหองระแหงก่อนจัดงานแต่งได้อย่างไร?
หัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ทำงานรับราชการรู้จักพูดจาให้ถูกกาลเทศะ แต่กลับคลอดลูกอย่างหลิวเหมยที่แข็งนอกอ่อนในออกมา พูดส่งไปให้หลิวเหมยขนาดนี้แล้วแต่หลิวเหมยกลับไม่ทำตาม
“หนูไม่ขอโทษ! หนูจะไม่เจอพี่เขา! อยากจะทำอะไรก็ทำเลย! เลี่ยวฟู่กุ้ยอย่ามายุ่งกับฉันอีก ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!” หลิวเหมยชี้ไปที่ประตูแล้วพูดอย่างไม่ไว้หน้า
“หา!” แม่หลิวเหมยกุมขมับ แย่แล้ว รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
“คุณน้าใจเย็นๆนะครับ ตอนนี้หลิวเหมยอารมณ์ไม่ดี เธอไม่ได้พูดจริงหรอกครับ บางครั้งเธอก็เหมือนเด็ก พูดจาเอาแต่ใจ อีกเดี๋ยวก็ดีขึ้นครับ”
“ใช่ๆๆ นิสัยเหมือนเด็ก” แม่หลิวเหมยเห็นท่าทางฟู่กุ้ยเหมือนไม่ถือสา เขาดูไม่เห็นด้วยกับหลิวเหมย แบบนั้นก็ดีเลย
“อาผมนอนอยู่โรงพยาบาลใช่ไหมครับ? ไปครับ เดี๋ยวผมพาไป จะได้ไปเยี่ยมอาด้วย” อวี๋หมิงหลางพูดได้จังหวะพอดี
แม่หลิวเหมยได้แต่ยิ้มขอโทษอวี๋หมิงหลางกับเสี่ยวเชี่ยน “ขอโทษด้วยนะจ๊ะที่ทำให้พวกหนูต้องมาดูคนทะเลาะกัน เด็กคนนี้ชอบทำตัวเอาแต่ใจเหมือนเด็ก เสี่ยวเชี่ยนคงเหนื่อยแย่ ตอนเขาอยู่กับหนูคงทำให้ปวดหัวมากเลยใช่ไหม”
เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้เป็นแค่ภรรยาของอวี๋หมิงหลาง แม่หลิวเหมยรู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนเป็นน้องสาวที่เป็นลูกติดภรรยาใหม่ของพ่อฟู่กุ้ยอีกด้วย หากมองอีกมุมหนึ่งก็เป็นน้องสาวว่าที่สามีในอนาคตของหลิวเหมย เธอยังรู้มาอีกว่า เสี่ยวเชี่ยนเป็นคนที่ค่อนข้างมีอิทธิพล เอาเป็นว่าเข้าทางเสี่ยวเชี่ยน เรื่องแม่สามีในอนาคตของหลิวเหมยก็ไม่น่ายากแล้ว
แม่หลิวเหมยฉลาดจริงๆ รู้ว่าถ้าเข้าทางเสี่ยวเชี่ยนอีกหน่อยหลิวเหมยแต่งไปก็จะสบายหน่อย จึงแสดงท่าทางเกรงอกเกรงใจเสี่ยวเชี่ยน
ถ้าเสี่ยวเชี่ยนไม่มีประสบการณ์จากชาติก่อนที่เจอคนมาเยอะ ไม่แน่เธออาจอ่อนไหวตามคำพูดไปแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ ปกติหลิวเหมยนิสัยดีมาก หนูอยู่กับเขามีความสุขดีค่ะ แม่หนูชอบเขามาก อาเลี่ยวก็ด้วย ถ้าแต่งเข้าบ้านหนูรับรองไม่ถูกเอาเปรียบแน่นอนค่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนเองก็มีท่าทีแบบเดียวกับแม่หลิวเหมย พูดจาให้เกียรติและพยายามผูกสัมพันธ์ เพียงแต่คำพูดเกรงใจทั้งหลายคนที่เจนสนามแล้วก็จะละไว้ในฐานที่เข้าใจ เสี่ยวเชี่ยนพูดได้ตรงใจที่แม่หลิวเหมยต้องการพอดี
“คุณน้าครับ ผมอยากคุยกับหลิวเหมย ช่วยบอกคุณอาหน่อยนะครับว่าพวกเราจะไปถึงช้าหน่อย”
“ไม่ต้องไปหรอกนี่มันตั้งกี่โมงแล้ว? คืนนี้ก็นอนที่นี่แหละนะ เดี๋ยวน้าหาที่นอนให้” แม่หลิวเหมยเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของฟู่กุ้ย เขาอยากคุยกับหลิวเหมยตามลำพัง
ครั้นแล้วเสี่ยวเชี่ยน อวี๋หมิงหลาง และแม่หลิวเหมยจึงออกจากบ้าน ทิ้งฟู่กุ้ยกับหลิวเหมยไว้ หลิวเหมยอารมณ์ไม่ดี เอาแต่ร้องไห้ ฟู่กุ้ยเช็ดน้ำตาให้เธอ เธอร้องเขาก็เช็ด
“เอาล่ะเลิกร้องเถอะ ตาบวมหมดแล้ว”
“ไม่ต้องมายุ่ง!”
“ถ้าไม่ให้พี่ยุ่งกับเธอแล้วจะให้ยุ่งกับใคร? เธอเป็นภรรยาพี่ไม่ใช่เหรอ?”
เป็นครั้งแรกที่ฟู่กุ้ยเรียกว่าภรรยา หลิวเหมยได้ยินแล้วก็ใบหน้าร้อนผ่าว ร้องไห้หนักกว่าเดิม คราวนี้มาพร้อมเสียง
ผู้ชายที่ดีแบบนี้ใครจะทิ้งลง เขาดีกับเธอมากจริงๆ
แต่เธอกลับจะทำทุกคนตายกันหมดบ้าน ฮือ…
“อาจารย์เธอบอกว่าดวงเธอชงอีกแล้วใช่ไหม?” นิ้วมือของเขาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบา หลิวเหมยมองเขาอย่างตกใจ จากนั้นก็จ้องด้วยความสงสัย คล้ายกับกำลังถามว่ารู้ได้อย่างไร
สีหน้าที่เก็บความรู้สึกไม่เก่งแบบนี้ทำให้ฟู่กุ้ยรู้ว่าตัวเองเดาถูก
“เด็กโง่ พวกเรากำลังไปกันได้ดีแบบนี้อยู่ๆเธอก็มาทำไม่ดีใส่พี่ นอกจากอาจารย์เธอพูดจาให้สะเทือนใจอีกแล้วยังจะมีเหตุผลอะไรอีก?”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย