นี่ก็ใกล้ตีสามแล้ว ร่างกายเริ่มส่งสัญญาณเหนื่อยล้า
“นึกไม่ถึงว่าอาจารย์หลิวเหมยจะพูดแบบนี้—เสียวเหม่ย คุณมองเรื่องโหราศาสตร์ยังไง?”
“สองศาสตร์ที่ทัศนคติมุมมองที่มีต่อโลกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่อาจใช้วิทยาศาสตร์เป็นตัววัดคนที่ศึกษาด้านโหราศาสตร์ ถึงฉันจะเจอคนที่คิดว่าตัวเองดูดวงแม่นมามากมาย เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์หลอกลวงทั้งนั้น แต่มันก็ย่อมมีบางคนที่เป็นปรมาจารย์อย่างแท้จริง ถ้าจะให้พูดว่าพวกเขารู้โชคชะตาที่ฟ้าลิขิต ไม่สู้บอกว่าพวกเขามีข้อสรุปที่เป็นบรรทัดฐานเชื่อถือได้ดีกว่า”
อวี๋หมิงหลางพยักหน้า “ถือเป็นบทสรุปที่เป็นกลางของสภาพแวดล้อมภายนอกกับระบบภายใน หลอมเหลวเป็นหนึ่งเดียว”
ไม่ต้องสนว่าการทำนายดวงพวกนั้นจะแม่นไม่แม่น หลิวเหมยกับฟู่กุ้ยยังไงก็มีบทสรุปที่สวยงามแล้ว อันที่จริงถ้าลองคิดดูดีๆ หลิวเหมยเองก็ไม่ได้คิดจะเลิก คำพูดของเธอในตอนนั้นมีทางเลือกได้หลายทาง เธอพูดว่าให้ห่างกันสักพัก ไม่ได้บอกว่าเลิก
แสดงให้เห็นแล้วว่ายังไม่เลอะเลือนถึงขั้นสุด
“ทำไมไม่กลับบ้านล่ะ?” เสี่ยวเชี่ยนเห็นเขาจอดรถที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง
พรุ่งนี้เขาไม่ทำงานหรือไง?
“ง่วงไม่ขับ ผมได้วันหยุดพอดี เลยลามาพาคุณกลับบ้าน ต้าหลงจะสอบแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“…วันหยุดของนายปีนี้ใช้หมดแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เป็นวันหยุดที่ได้เพิ่มเพราะผมทำผลงานดีในแค้มป์ฝึก แค่วันเดียวก็พอให้ผมพาคุณกลับบ้านแล้ว แต่ตอนนี้ดึกมากแล้ว พวกเรานอนกันก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยขับรถกลับเมืองQ”
“งั้นวันมะรืนตอนเช้านายก็ต้องรีบกลับสิ?” เสี่ยวเชี่ยนสงสารเขา วันๆต้องมาเหนื่อยไปนู่นมานี่
“แค่นี้ก็ดีมากแล้ว เบื้องบนให้ผมหยุดเป็นกรณีพิเศษ”
ถ้าไม่มีเรื่องที่อวี๋หมิงหลางเตะแม่คนบ้าที่รังแกเสี่ยวเชี่ยน เขาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศขนาดนี้มีเหรอจะได้หยุดแค่วันเดียว อย่างน้อยๆก็ต้องมีงานมอบโล่เกียรติยศอะไรทำนองนั้น แต่อวี๋หมิงหลางไม่เสียใจเลยสักนิด เรื่องที่ทำไปแล้วได้ปกป้องครอบครัวจะไม่มีการต่อรองทั้งนั้น
“จริงๆเลย ทหารคนอื่นมีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่นายงานยุ่งทุกวัน ให้หยุดแค่วันเดียวนายกลับดีใจซะยกใหญ่”
เสี่ยวเชี่ยนอดบ่นในใจไม่ได้
เขาอยู่ถึงระดับนี้แล้ว ถ้าเป็นหน่วยอื่นได้หยุดเสาร์อาทิตย์ด้วยซ้ำ แต่ทหารหน่วยรบพิเศษก็พิเศษสมชื่อ ทำงานล่วงเวลาจนเป็นเรื่องปกติ แถมไม่ได้เงินเพิ่มด้วย นี่เป็นเรื่องที่น่าเกลียดสุดๆ วันเสาร์ต้องไปฝึกตามปกติ วันอาทิตย์ก็ยังต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
ตามปกติวันอาทิตย์อวี๋หมิงหลางต้องได้หยุด แต่หน่วยของเขานั้นงานเยอะมาก เวลาแทบไม่พอ ปกติแค่เขาเจียดเวลาออกมาได้ก็นับว่าดีมากแล้ว
กว่าจะได้หยุดหนึ่งวันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แถมยังพูดซะสวยหรูบอกว่าเป็นรางวัล
“ห้ามบ่นหน่วยผม! ระวังความคิดคุณด้วย!”
เสี่ยวเชี่ยน หึ ออกมา ไม่อยากจะเถียงกับนายเรื่องนี้หรอก
หลังทำเรื่องเข้าพักเสร็จ พอเข้าไปในห้องสายตาของเสี่ยวเชี่ยนก็จับจ้องไปที่เตียงกลมใหญ่ที่อยู่ตรงกลางที่ไม่อาจจะบรรยายได้
สีชมพูหวานแหววแบบที่ไม่อาจบรรยาย แถมยังมีม่านสีเดียวกันสี่มุมรอบเตียง ประกอบกับแสงไฟสีส้มนัวๆ แล้วยังจะบอลลูกใหญ่ที่อยู่ตรงมุมห้อง สมองของเสี่ยวเชี่ยนโผล่ขึ้นมาคำเดียว
โวะ!
สายตาเหลือบมองเสี่ยวเฉียง ตานี่มีอารมณ์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร แถมยังรู้จักที่แบบนี้ด้วย?
แน่นอนว่าไม่ได้ตกแต่งเพียบพร้อมเหมือนในหนังเอวีของประเทศหมู่เกาะแถวนี้ และก็ไม่ใช่โรงแรมม่านรูดที่มีอุปกรณ์อย่างกรง กุญแจมือ หรือแม้แต่สายห้อยที่จับคนไปผูกได้ แต่สำหรับยุคสมัยนี้แล้วก็ถือว่าล้ำมากในประเทศ!
อวี๋หมิงหลางไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ
เขาก็แค่อยากหาโรงแรมนอนพัก ไม่ได้คุ้นเคยกับสถานที่แถวนี้ เห็นป้ายไฟกระพริบโดดเด่นแถมโรงแรมก็ใหญ่เลยพาเสี่ยวเชี่ยนเข้ามา
“เอ๊ะ ทำไมห้องเป็นแบบนี้ล่ะ?” เสี่ยวเฉียงเดินดูรอบๆ รู้สึกแปลกๆพิกล

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย