แม่ที่ชอบเด็กแรกเกิดมากเป็นพิเศษมีอยู่สองแบบ หนึ่งคือคนในครอบครัวต่างช่วยดูแลลูกให้ แบ่งเบาภาระของแม่ ทำให้คนเป็นแม่ได้มีความสุขกับการได้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ ส่วนอีกแบบก็คือ แสดงให้คนอื่นเห็นโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งก็คือการ ‘เสแสร้ง’ แต่อันที่จริงการเสแสร้งนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายสำหรับคนเป็นแม่
ผู้หญิงส่วนใหญ่ใช้ ‘การเสแสร้ง’ นี้สะกดจิตตัวเอง เมื่อคนรอบตัวคิดว่าการที่แม่รักลูกนั้นเป็นเรื่องปกติ ตัวเองก็จะสะกดจิตตัวเอง จากนั้นก็จะค่อยๆยอมรับบทบาทความเป็นแม่ หลงรักลูกตัวเองได้ไวยิ่งขึ้น
แต่ก็ไม่ตัดคนที่เป็นเหมือนพี่สะใภ้ทิ้ง ชีวิตไม่ง่าย อีกทั้งยังเหนื่อยแสนเหนื่อย การสะกดจิตไม่เป็นผลเท่าไร
หากลองไปถามคนที่ต้องเลี้ยงลูกเอง ถ้าไม่ต้องทุกข์ทรมานแบบนั้น มีเหรอจะไม่ชอบเด็ก?
เหมือนตอบรับคำพูดของเสี่ยวเชี่ยน ไม่รู้ว่ามีเสียงเด็กทารกร้องมาจากบ้านไหน ภายในหมู่บ้านที่มีการเก็บเสียงค่อนข้างดีนี้กลับยังมีเสียงรบกวนเล็ดลอดออกมาได้ เสียงร้องของเด็กลอยมาเข้าหูเสี่ยวเชี่ยนกับพี่สะใภ้อย่างชัดเจน
“ดูสิ เด็กแรกเกิดทั้งร้องทั้งงอแง หากอยากจะปรับตัวให้ชินกับการมีตัวตนของเขาย่อมต้องใช้เวลาทั้งนั้น ตอนนั้นพี่คงลำบากมากเลยใช่ไหมคะ?” เสี่ยวเชี่ยนพูดเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับเข้าถึงจิตใจ
“ใช่ พี่เหนื่อยแทบตาย ก่อนคลอดพี่น้ำหนักหกสิบ พอเลี้ยงลูกเองหายไปสิบโลได้ พอลูกโตหน่อยน้ำหนักพี่ถึงได้กลับมา มีช่วงหนึ่งมีเรื่องที่พี่อยากทำมากที่สุดก็คือนอนโง่ๆทั้งวันทั้งคืน”
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของพี่ค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนเองก็นึกถึงเมื่อชาติก่อนที่เธอต้องเลี้ยงดูเสี่ยวเหวย
ตอนนั้นเธอไม่มีใครในครอบครัว ชีวิตอยู่อย่างอัตคัด เลี้ยงลูกคนเดียวจนเกือบเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด ต่อมาพอลูกค่อยๆโตขึ้น เรียกแม่ได้ อ้อนเก่ง เสี่ยวเชี่ยนจึงยิ่งรักลูกมากขึ้น มากถึงขนาดยอมทิ้งโลกใบนี้ได้
โลกภายนอกรู้จักแต่ใช้ความคิดโบราณมาผูกมัดผู้หญิง ก็เหมือนกับความคิดของจู้จื่อที่คิดว่าผู้หญิงควรจะชอบเด็กอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว ถ้าเกลียดก็คือผิดปกติ ลำพังแค่ความคิดแบบนี้ก็ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ง่าย
ดังนั้นผู้หญิงหลังคลอดหลายคนจึงมักเป็นซึมเศร้าหลังคลอด
วิธีจัดการที่ถูกต้องก็คือแบ่งเบาภาระของคนเป็นแม่ คนในบ้านต้องช่วยเหลือ แล้วแม่เด็กก็จะมีความสุขที่ได้ให้ความรักและถูกรัก ฟังเสียงลูกเรียกแม่ครั้งแรก มองลูกหัดเดิน เห็นเขาค่อยๆเติบโต ความรู้สึกนั้นชนะทุกสิ่ง ความรักของแม่ก็จะเบ่งบาน แต่สถานการณ์ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน
อันที่จริงสถานการณ์แบบของพี่สะใภ้ก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร พบเจอได้บ่อยด้วยซ้ำ
สิ่งที่ได้รับยากที่สุดก็คือความเข้าใจ พอพี่สะใภ้ได้ยินว่ามีคนเข้าใจตัวเองในใจก็เกิดความรู้สึกซึ้งใจแบบที่พูดไม่ถูก ในช่วงเวลาที่เธอคิดว่าตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอยู่ๆก็มีคนเข้าใจเธอ ช่วยวิเคราะห์ปัญหาที่เกิด แค่นั้นก็เหมือนหัวใจได้รับการเยียวยา รู้สึกอบอุ่นหัวใจ
“งั้นเหม่ยเหวย เธอว่าพี่ควรทำไงดี?”
“ปัญหาของครอบครัวพี่ค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวฉันจะค่อยๆสรุปให้นะคะ ก่อนอื่นเลยต้องแก้ปัญหาการขาดแคลนความรักจากพ่อของพี่ในวัยเด็กที่ส่งผลกระทบในแง่ลบให้พี่ตอนนี้ หลังจากแก้ปัญหานี้แล้ว ความรู้สึกไม่ชอบเด็กของพี่ก็จะลดน้อยลง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็ยังคงเป็นการที่พ่อของเด็กต้องช่วยเลี้ยงลูกด้วย แบบนั้นถึงจะมีประโยชน์กับลูกและกับพี่ค่ะ”
“เขา…ไม่มีประโยชน์หรอก เขาไม่ยอมเลี้ยงลูก เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ชาย นี่เป็นงานของผู้หญิง”
“เรื่องนี้ต้องใจเย็นๆค่ะ ฉันมีวิธีจัดการ แต่ในระหว่างนี้แผนมีลูกคนที่สองของพี่ทางที่ดีต้องคิดให้รอบคอบค่ะ จะมีหรือไม่มีขึ้นอยู่กับพี่ แต่ฉันขอบอกอย่างรับผิดชอบได้เลยว่า สถานการณ์ครอบครัวของพี่ในเวลานี้ หากมีลูกคนที่สองมีแต่จะทำให้พี่เหนื่อยตาย แล้วปัญหาของลูกสาวคนโตก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น”
ยังคงใช้คำพูดเดิม การมีลูกไม่ได้ช่วยมัดใจผู้ชายเอาไว้
“แต่ถ้าพี่ไม่มี เขาก็จะหย่ากับพี่ให้ได้ ถ้าหย่ากันแล้วลูกสาวพี่จะทำไง?”
“ถ้าลูกคนที่สองของพี่เป็นผู้หญิงเขาก็หย่ากับพี่อยู่ดี แล้วลูกสาวของพี่ทั้งสองคนจะทำไงคะ? ปัญหาเดิมยังแก้ไม่ได้ ต่อให้พี่มีลูกกี่คนมันก็ไม่ช่วยอะไรค่ะ มีแต่จะเพิ่มความยุ่งยาก ตอนนี้ปัญหาที่ต้องแก้ก่อนเลยก็คืออาการซึมเศร้าของพี่ ฉันจะช่วยบำบัดจิตใจให้พี่รู้สึกรักลูกได้ไวขึ้น ต่อไปพี่จะพบว่าเพื่อลูกแล้วพี่มีพลังที่ไร้ขีดจำกัดในการทำลายทุกสิ่งที่ขวางทางพี่ไว้ รวมถึงสามีด้วยค่ะ”
ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ แต่คนเป็นแม่กลับแข็งแกร่ง สิ่งสำคัญก็คือ คนเป็นแม่ต้องยอมรับบทบาทที่เปลี่ยนไปให้ได้
หลังจากที่ทำการปรับสภาพอารมณ์แล้ว เสี่ยวเชี่ยนก็เริ่มดำเนินการรักษา พี่สะใภ้มีความกดดันภายในจิตใจมากจนมีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า บวกกับการขาดความรักในวัยเด็กทำให้ตอนนี้สภาพอารมณ์ของเธอไม่มั่นคง ขึ้นๆลงๆ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย