บ้าไปแล้ว!
ความโอหังของลีวายทำเอาโซอี้และพ่อแม่ของเธอแทบคลั่ง
การติดคุกนานหกปีทำให้เขาเสียสติไปแล้วหรือ?
“ดีล่ะถ้าเธอว่าอย่างนั้น” โซอี้ส่งโทรศัพท์มือถือของเธอให้ลีวายโดยตรง “งั้นก็พิสูจน์สิ ฉันอยากเห็นว่าเธอจะทำให้ครอบครัวแกร์ริสันก้มหัวให้เธอเพราะคำๆ เดียวได้ยังไง!”
“ฉัน...” ลีวายนิ่งไป
มันเป็นความจริงที่ว่าเขากำจัดครอบครัวแกร์ริสันได้ด้วยคำพูดของเขา แต่ในเมื่อเขาบอกไปแล้วว่าให้เวลาคนพวกนั้นหนึ่งเดือน มันคงจะจืดชืดเกินไปที่จะทำลายพวกนั้นในตอนนี้
“นั่นไง ทำไม่ได้ใช่ไหม? งั้นก็อย่าพูดจาใหญ่โตอีก!” โซอี้กระแทกโทรศัพท์ลงกับพื้นแสดงให้เห็นว่าเธอโกรธจริงๆ
จากนั้น พ่อแม่ของเธอก็ดันตัวลีวายออกไป “ไปซะ ที่นี่ไม่ต้อนรับแก เรามีงานเลี้ยงครอบครัวที่ต้องไป!”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ตุณแม่ คุณพ่อ ให้เขาเข้ามาเถอะ!”
“หมายความว่าไง โซอี้?”
“หนูจะไม่แต่งงานใหม่ สามีหนูกลับมาแล้ว”
เมื่อแอรอนและเคทลินพูดให้เธอเปลี่ยนใจไม่ได้ จึงได้แต่ปล่อยให้เขาเข้าบ้าน จากนั้น โซอี้ก็พาลีวายเข้าไปที่ห้องนอนของเธอ
“ในเมื่อเธอกลับมาแล้ว เธอก็ยังเป็นสามีของฉัน ฉันไม่สนใจคำพูดซุบซิบนินทาหรอก แล้วฉันก็เชื่อว่าเธอไม่ผิด และใครก็ตามที่ตาไม่บอดต้องมองเห็นว่าครอบครัวแกร์ริสันต่างหากที่ใส่ร้ายป้ายสีเธอ”
ลีวายรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในหัวใจเขา เธอเชื่อใจเขา และนั่นก็เกินพอแล้ว
“แต่เธอต้องสัญญากับฉันว่าจะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์และอยู่กับความเป็นจริง ฉันเชื่อว่าด้วยความสามารถของเธอ เธอจะต้องทำสำเร็จได้แน่ ฉันจะให้เวลาเธอห้าปี”
“ไม่จำเป็นหรอก” ลีวายตอบ “ขอแค่เดือนเดียว ภายในหนึ่งเดือน ฉันจะ...”
“พอเถอะ! ฉันไม่อยากฟังคำพูดเหลวไหลไม่มีเหตุผลของเธอแล้ว! ทำไมถึงอยู่กับความเป็นจริงไม่ได้ล่ะ?” โซอี้ขึ้นเสียง
“ต่อให้ตอนนี้เธอไม่มีอะไรเลย ขอแค่เธอเดินไปทีละก้าว ฉันเชื่อว่าเธอจะกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งแน่นอน”
ลีวายหยุดพูดอย่างเชื่อฟัง
“ฉันซื้อให้เธอเมื่อหกปีก่อน” โซอี้หยิบชุดสูทออกมาจากตู้เสื้อผ้า “เปลี่ยนชุดซะแล้วตามฉันไปงานเลี้ยงครอบครัว”
“โซอี้ เกิดอะไรขึ้นกับเธอนะ?”
พอเห็นลีวายแต่งตัวเต็มยศ แอรอนกับเคทลินก็ต้องไม่พอใจเป็นธรรมดา โซอี้คล้องแขนลีวาย “แม่คะ พ่อคะ ตอนนี้ลีวายคือสามีหนู คืนนี้หนูจะบอกคุณปู่ให้ชัดเจน”
แอรอนและเคทลินมองลีวายอย่างไม่พอใจแล้วถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร “เห็นแก่สวรรค์เถอะ”
งานเลี้ยงของครอบครัวโลเปซจัดขึ้นที่ภัตตาคารโกลเด้น พอร์ต แบบเช่าเหมาทั้งร้าน แม้ว่าครอบครัวโลเปซจะไม่มีอิทธิพลเหมือนครอบครัวแกร์ริสัน แต่พวกเขาก็จัดว่าอยู่เหนือค่าเฉลี่ยในนอร์ธ แฮมป์ตัน
เมื่อโซอี้และครอบครัวมาถึงห้องโถงใหญ่ พวกเขาถูกต้อนรับด้วยสายตาแปลกๆ แกมขบขัน ในอดีต เมื่อโซอี้กับลีวายแต่งงานกัน สถานะครอบครัวของแอรอนนับว่าอยู่สูงที่สุดในครอบครัวโลเปซ แต่หลังจากลีวายตกอับ ครอบครัวของแอรอนก็เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต และสถานะของพวกเขาในครอบครัวโลเปซก็ตกต่ำลง กลายเป็นเป้าของการเย้ยหยัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานต่างๆ ของครอบครัว
“ดูสิ นั่นลีวายใช่มั้ยที่อยู่ข้างๆ โซอี้น่ะ?”
“ใช่ เขานั่นแหละ! ถูกปล่อยออกจากเรือนจำแล้วเหรอ?” สายตาทุกคู่มองมาที่ลีวายทันที
แฮร์รี่ หัวหน้าครอบครัวโลเปซ หายใจฟืดฟาดและทำเป็นมองไม่เห็นคนทั้งสี่ คนโปรดของผู้เฒ่าตอนนี้คือเฟเบียน ลูกชายคนโตและครอบครัวของเขา สาเหตุหลักก็เพราะซามูเอล โรเบิร์ตสัน ลูกเขยของ เฟเบียน ซึ่งเป็นลูกครึ่งหลายชนชาติ เกิดมาร่ำรวยและเคยอาศัยอยู่ต่างประเทศ
ครั้งนี้ แฮร์รี่กำลังจะจับคู่โซอี้ให้กับคริส น้องชายของซามูเอล ที่มองโซอี้อย่างปรารถนามาสักพักหนึ่งแล้ว เมื่อไม่มีใครใส่ใจพวกเขา แอรอนและครอบครัวจึงได้แต่หาที่นั่งเอง
ขณะที่พวกเขากำลังจะนั่งลง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ไม่ได้นะแอรอน พวกนายนั่งตรงนี้ไม่ได้” นั่นเป็นคำเตือนของเฮนรี่ ลูกชายคนที่สองของครอบครัวโลเปซ
“อะไรนะ?”
“งานเลี้ยงครอบครัวครั้งนี้กำหนดที่นั่งไว้เรียบร้อยแล้ว”
แอรอนงง “ยังไงล่ะ?”
“มีโต๊ะสี่ตัวในงานเลี้ยงครอบครัว และกำหนดตามจำนวนเงินสนับสนุนครอบครัว”
“ยกตัวอย่าง โต๊ะตัวแรกเป็นของครอบครัวที่ส่งเงินเข้ากงสีมากกว่าห้าล้านในหนึ่งปี หนึ่งล้านสำหรับโต๊ะที่สอง หนึ่งแสนได้โต๊ะที่สาม น้อยกว่านั้นก็ได้โต๊ะสุดท้าย หรือจะให้ฉันพูดว่าไม่ได้ส่งเงินเลยก็ได้”
เฮนรี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ปีนี้ครอบครัวเราทำกำไรงาม เราก็เลยส่งเข้ากงสีได้ห้าล้าน เพราะฉะนั้นต้องขอโทษด้วย แต่โต๊ะนี้เป็นของเรา”
“แน่นอนว่านายจะนั่งโต๊ะแรกโดยไม่ต้องจ่ายเข้ากงสีก็ได้ ถ้าครอบครัวนายมีทรัพย์สินหลายสิบล้านนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนทวงบัลลังก์เทพ