เข้าสู่ระบบผ่าน

แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง นิยาย บท 3

“พี่หยวน ฮือฮือ...”

“หากพี่มาช้าไปกว่านี้ ฉันจะต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วแน่ ๆ” หลี่ชิวจวี๋ร่ำไห้

จางหยวนโอบกอดหลี่ชิวจวี๋เอาไว้ ก้มหน้าลงเพื่อจะพูดปลอบใจสักสองสามคำ

คิดไม่ถึงว่าทันทีที่สายตาโฟกัสลงไปด้านล่าง ก็เห็นว่าเสื้อผ้าของหลี่ชิวจวี๋ยุ่งเหยิง

หน้าอกที่ขาวราวหิมะ เผยให้เห็นครึ่งหนึ่ง และกำลังแนบชิดกับหน้าอกของจางหยวน...

พอเขาได้สัมผัสถึงความนุ่มนวลของหลี่ชิวจวี๋ สูดดมกลิ่นหอมจากร่างกายของ เธอ จางหยวนที่เพิ่งจะมีสติสัมปชัญญะก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกฟุ้งซ่านเล็กน้อย และรู้สึกคันจมูกขึ้นมาทันที

โดยเฉพาะตอนที่เขานึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนรู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นอันแผ่วเบาในใจ

ผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ แถมยังเป็นม่ายมาหลายปี หรือว่า จะทำกิจที่ยังทำกับหลี่ชิวจวี๋ไม่เสร็จต่อไป...

แต่พอจางหยวนสังเกตเห็นว่า เสื้อผ้าที่หลี่ชิวจวี๋ใส่ ดูเหมือนจะเป็นเสื้อผ้าแบบเดียวกับตอนที่เธอใส่ตอนแต่งงานเข้ามาในหมู่บ้านเซี่ยวาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะลังเล

เฮ้อ!

พี่ชิวจวี๋ก็เป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกัน

แถมยังเป็นผู้มีพระคุณของจางหยวนด้วย

ครอบครัวของหลี่ชิวจวี๋และครอบครัวของจางหยวนเป็นเพื่อนบ้านกัน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะรักษาอาการป่วยของจางหยวน พ่อแม่ของจางหยวนไม่เพียงแต่ใช้เงินออมทั้งหมดของครอบครัว ยังได้ขายที่ดินจำนวนมาก และยังติดหนี้ข้างนอกอีกหลายก้อน

ถึงขนาดที่ว่า พ่อของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่กลับไม่ไปรักษา ตอนนี้นอนล้มป่วยอยู่บนเตียง แม่ของเขาจึงต้องแบกรับภาระทั้งหมดของครอบครัวเพียงคนเดียว จนต้องป่วยจากการทำงานหนัก

เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนี้ คนที่มีอำนาจในหมู่บ้านเหล่านั้น จึงรังแกครอบครัวจางหยวนทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพราะต้องการที่จะครอบครองที่ดินของบ้านจางหยวน

มีเพียงหลี่ชิวจวี๋เท่านั้นที่ดูแลครอบครัวของจางหยวนเป็นอย่างดี

เมื่อรู้ว่าครอบครัวของจางหยวนลำบาก หลี่ชิวจวี๋จึงถือโอกาสใช้จางหยวนช่วยเธอทำงาน แล้วส่งข้าวส่งอาหารไปให้ครอบครัวของจางหยวน

เมื่อก่อน จางหยวนไม่รู้อะไรเลย

แต่ตอนนี้ เขาได้กลับมาเป็นปกติแล้ว

เขาแอบสาบานในใจว่า ต่อไปจะต้องหาเงินให้ได้เยอะ ๆ เพื่อที่จะได้ตอบแทนพ่อแม่และพี่ชิวจวี๋เป็นอย่างดี

ในขณะเดียวกัน ความกระเหี้ยนกระหือรือของจางหยวนที่มีในตอนแรก ก็ได้จางหายไป

หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อหลี่ชิวจวี๋สงบสติอารมณ์ได้แล้ว จางหยวนก็พูดว่า: "พี่ชิวจวี๋ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว พวกเรารีบเก็บข้าวโพดกลับไปกันเถอะ"

หลี่ชิวจวี๋จัดระเบียบเสื้อผ้าตนเองเล็กน้อย แปรงผมที่กระเซอะกระเซิง แล้วพยักหน้าตอบรับ

พอทั้งสองออกจากสระน้ำไปแล้ว ก็ไปที่ไร่ข้าวโพด เพื่อเอาข้าวโพดที่อยู่ในไร่ขึ้นรถ

ภายใต้พระอาทิตย์ตกดิน

จางหยวนลากรถสามล้อ ส่วนหลี่ชิวจวี๋ก็ช่วยเข็นรถสามล้ออยู่ข้าง ๆ

เธออดไม่ได้ที่จะแอบมองจางหยวน

“แปลกจัง! ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพี่หยวนไม่เหมือนเมื่อก่อน?”

แม้ว่าหลี่ชิวจวี๋จะสงสัย แต่ก็ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก

เพราะอีกไม่นานก็จะถึงบ้านเธอแล้ว

จางหยวนช่วยหลี่ชิวจวี๋ย้ายถุงข้าวโพดหนึ่งถุงไปวางไว้ใต้ชายคาบ้าน

หลี่ชิวจวี๋รีบเข้าไปในบ้านเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็ก่อไฟทำอาหาร

เดิมทีจางหยวนคิดว่าจะจากไปหลังจากทำงานเสร็จ แต่ไม่สามารถต้านทานความกระตือรือร้นของหลี่ชิวจวี๋ได้ จึงทำได้แค่มาที่ห้องนั่งเล่นเพื่อทานอาหาร

“พี่หยวน พี่ลำบากแล้ว กินเยอะ ๆ นะ!”

หลี่ชิวจวี๋คีบอาหารให้กับจางหยวนอย่างกระตือรือร้น

ทันทีที่จางหยวนเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นหลี่ชิวจวี๋สวมชุดเดรสสั้นแขนกุดสีขาว หน้าอกนูน ซึ่งดูเหมือนจะไม่สามารถปกปิดทิวทัศน์ที่สวยงามในนั้นได้

สิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อหลี่ชิวจวี๋นั่งลง ชุดเดรสที่สั้นมากตัวนั้น เกือบจะถึงต้นขาของเธอเลย

ผิวที่เผยออกมาแบบวับ ๆ แวม ๆ ทำให้จางหยวนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย จึงรีบก้มหน้าลงเพื่อกินข้าว

หลี่ชิวจวี๋ไม่รู้ว่าจางหยวนกลับมามีสติสัมปชัญญะแล้ว เธอจึงไม่อายที่จะเผยเนื้อหนังมังสาออกมา

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเห็นสายตาของจางหยวน เธอก็รู้สึกถึงความสุขที่อธิบายไม่ได้

ต้องบอกว่า ทักษะการทำอาหารของหลี่ชิวจวี๋นั้นยอดเยี่ยมมากจริง ๆ

จางหยวนกินข้าวไปสามชาม

เขาลูบหน้าท้องที่กลมป่องของตน วางตะเกียบลง แล้วกำลังจะจากไป

ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไปเขากลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหว

หลี่ชิวจวี๋เป็นคนที่มีเสน่ห์มากจริง ๆ

แต่ทว่า ทันทีที่เขาลุกขึ้น ก็ถูกหลี่ชิวจวี๋ดึงเอาไว้

“เฮ้ พี่หยวน เสื้อยืดของพี่ขาดแล้ว เดี๋ยวพี่สะใภ้จะปะชุนให้พี่นะ”

แต่วันนี้หลังจากที่เธอลงสระน้ำหลังเขา และได้ต่อสู้กับหม่าเหล่าซานแล้ว

ผลที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างความร้อนและความเย็น ทำให้อาการเจ็บป่วยเดิม ๆ ของเธอกำเริบก่อนเวลา

จางหยวนจึงรีบเปิดลิ้นชักแล้วหยิบยาออกมาจากข้างในตามคำแนะนำ

หลังจากอ่านคำแนะนำบนขวดยาแล้ว จางหยวนก็ส่ายหัว แล้วพูดว่า: "พี่สะใภ้ ตอนนี้อาการของพี่รุนแรงมาก กินยาจะทำให้ออกฤทธิ์ช้า ผมนวดให้พี่ดีกว่า จะได้เห็นผลเร็วขึ้น"

หลี่ชิวจวี๋มีสีหน้าที่งุนงง จางหยวนนวดเป็นด้วยเหรอ?

จางหยวนไม่รอให้หลี่ชิวจวี๋ตอบรับ อุ้มหลี่ชิวจวี๋ขึ้นมา พาไปที่ห้องนอน แล้ววางเธอลงบนเตียง

เนื่องจากชุดเดรสของหลี่ชิวจวี๋สั้นมาก ชายกระโปรงจึงถูกม้วนขึ้นในเวลานี้

ตำแหน่งใต้สะเอว ถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตาของจางหยวน

มันช่างเป็นภาพที่ทำให้เลือดและชีพจรของคนพุ่งกระฉูด

ขาอันเรียวขาวเหล่านั้น น่าจะเป็นสิ่งที่เล่นตลอดชีวิตก็ไม่มีวันเบื่อ

แต่จางหยวนกลับเมินเฉย

ในตอนนี้การรักษาโรคเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เขาให้หลี่ชิวจวี๋นอนราบ แล้วยกขาทั้งสองข้างขึ้น

จากนั้นจางหยวนก็ยื่นมือขวาออกมาแล้ววางลงบนหน้าท้องของหลี่ชิวจวี๋ หลังจากพบจุดฝังเข็มแล้ว เขาก็เริ่มถูมันเบา ๆ

เดิมทีหลี่ชิวจวี๋ไม่เชื่อ

แต่ไม่นาน เธอก็รู้สึกถึงกระแสความร้อนที่ไหลออกมาจากฝ่ามือของจางหยวน เข้าสู่ร่างกายของตนเอง

ไม่นานหลังจากนั้น ด้วยการกระทำของจางหยวนผนวกกับเวลาที่ผ่านไป ความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ บรรเทาลง

หลี่ชอวจวี๋รู้สึกผ่อนคลายไปทั่วทั้งร่างกาย

"โอ๊ย……"

เธออดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงร้องออกมา แต่ก็รีบเบือนหน้าหนีด้วยความอาย

จากนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นแล้วพินิจมองจางหยวนอย่างเงียบ ๆ

จางหยวนที่เปลือยท่อนบน นอกจากจะมีรูปร่างสมส่วนแล้ว ยังมีกล้ามเนื้อหน้าท้องอีกด้วย

ใบหน้าที่สวยงามของ หลี่ชิวจวี๋ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่รู้ตัว...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง