ค่ำคืนนี้ ผ่านไปอย่างยาวนานมาก
จนกระทั่งฟ้าสางเล็กน้อย จางหยวนที่อยู่ในถ้ำก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา
เมื่อเห็นใบหน้าอันเรียวเล็กที่ประณีตสวยงามที่อยู่ตรงหน้า และสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอันอบอุ่นในอ้อมแขน เขาก็รู้สึกว่าตนเองกำลังฝันอยู่ครู่หนึ่ง
แต่ไม่นานจางหยวนก็รู้ว่า ตนเองไม่ได้ฝันไป
เพราะเรือนร่างอันงดงามของสาวสวยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา มันนุ่มนวลอ่อนโยนมากจริง ๆ !
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า...
"ซี๊ด!"
จางหยวนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
เมื่อคืนนี้ เขาถูกสาวน้อยคนนี้ผลักจริง ๆ !
แม้ว่าตอนนี้ พวกเขาทั้งสองจะกอดกันแบบห่าง ๆ ก็ตาม!
จางหยวนกลืนน้ำลาย ตอนนี้สถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่คิดแล้ว!
ทำยังไงดี?
ควรทำยังไง?
แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องลุกขึ้นไปสวมเสื้อผ้าก่อน!
จางหยวนผลักหญิงสาวออกไปด้วยความระมัดระวัง
แต่ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังมากแค่ไหน
ขณะที่ทั้งสองแยกจากกัน เด็กสาวยังคงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย
ม่านตาของจางหยวนหดลงเล็กน้อย แล้วแอบพูดว่าแย่แล้ว!
ทันใดนั้นเอง หญิงสาวก็ลืมตาขึ้น
เมื่อฉู่เสวี่ยฉีเห็นจางหยวน แล้วเห็นร่างที่เปลือยเปล่าของตนเอง รวมทั้งความยุ่งเหยิงบนพื้น
เธอก็ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
จางหยวนจึงฉวยโอกาสนี้กระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาแล้วคิดจะวิ่งออกไปข้างนอก
แต่สิ่งที่ทำให้เขางงก็คือ ฉู่เสวี่ยฉีที่อยู่ข้างหลังเขาไม่ได้ร้ัองเอะอะโวยวายอย่างที่เขาจินตนาการเอาไว้
ในทางตรงกันข้าม เธอกลับเรียกจางหยวนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างเห็นได้ชัด
“นาย ยังไปไม่ได้! สวมเสื้อผ้ารอฉันอยู่ตรงนั้น!”
เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็รู้สึกงุนงง
แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เป็นเรื่องยากที่เขาจะสวมเสื้อผ้าแล้วปฏิเสธในสิ่งที่เกิดขึ้น
พอทั้งสองสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว
เมื่อมองไปที่ฉู่เสวี่ยฉีที่ผมเผ้ารุงรัง สีหน้าซีดเผือด จางหยวนก็อยากจะขอโทษเธอทันที
สีแดงสดใสที่อยู่ไม่ไกลพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า การคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาถูกต้อง
ผู้หญิงคนนี้เป็นผักกาดขาวอ่อนที่ยังไม่เคยถูกหมูแตะต้องจริง ๆ ...
แน่นอนว่า ต้องเป็นก่อนหน้าเมื่อคืนนี้!
จางหยวนขยับริมฝีปาก กำลังจะเอ่ยปากขอโทษ
ในเวลานี้ฉู่เสวี่ยฉีก็หยิบแบ้งค์ห้าร้อยปึกหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าของเธอ แล้วฟาดไปที่บนตัวของจางหยวนอย่างแรง
หลังจากที่ธนบัตรสีม่วงกระแทกไปที่ตัวของจางหยวนแล้ว มันก็กระเด็นขึ้น แล้วลอยว่อนอยู่ในอากาศ
จางหยวนถูกเงินกระแทกจนใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง
ในเวลานี้ สีหน้าของฉู่เสวี่ยฉีดูเย็นชา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียที่เต็มไปด้วยความรังเกียจว่า:
“เงินจำนวนนี้ เอาไว้อุดปากคุณ! เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่เพียงคำเดียว!”
จางหยวนเม้มริมฝีปาก เขาไม่เคยคิดที่จะเผยแพร่เรื่องดังกล่าว
ในเวลานี้ ฉู่เสวี่ยฉีเห็นว่าจางหยวนกำลังจะอ้าปากพูด จึงหยุดเขาเอาไว้
“หุบปาก! ฉันไม่อยากได้ยินเสียงสกปรก ๆ ของนาย! พอคนชนบทอย่างพวกคุณอ้าปาก ก็ต้องการแค่เงินไม่ใช่เหรอ?” ฉู่เสวี่ยฉีพูดอย่างเย็นชา
“ฉันมีเงินมากมาย! ถ้าเงินห้าหมื่นบาทไม่พอฉันก็จะให้เงินนายหนึ่งแสนบาท! ขอแค่หุบปากสกปรก ๆ ของนายได้ก็พอแล้ว! จำไว้ว่า เมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!”
จางหยวนกตะลึงกับคำพูดของฉู่เสวี่ยฉี
วินาทีต่อมา ใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธสุดขีด!
อะไรที่เรียกว่าคนชนบทอ้าปากก็ขอแต่เงิน?
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าคนชนบทเป็นยังไง?
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้จางหยวนรู้สึกอัปยศอดสูมากยิ่งขึ้นก็คือ พวกเขาสองคนเพิ่งทำสิ่งนั้นไปเมื่อคืนนี้ ในชั่วพริบตาเดียวผู้หญิงคนนี้กลับอยากจะให้เงินเขา
คิดว่าเขาจางหยวนเป็นคนประเภทไหน?
ชายขายบริการในคลับงั้นเหรอ?
สายตาของจางหยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
ความรู้สึกผิดที่ทำกับเรือนร่างของอีกฝ่าย ก็ได้หายไปด้วย
เขาเม้มริมฝีปาก แล้วกล่าวเยาะเย้ยว่า: "ให้เงินผม? ผมยังอยากจะให้เงินคุณอยู่เลย?"
เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว จางหยวนยังคิดว่า พออีกฝ่ายตื่นขึ้นมแล้วา เขาจะรักษาอาการป่วยของเธอเพื่อเป็นชดเชยการกระทำของตนเอง
แต่เขาคิดไม่ถึงว่า หงส์ขาวตัวนี้จะยังคงน่าเกลียดน่ารำคาญขนาดนั้น
มองเขาเป็นชายที่ขายบริการทางเพศไม่พอ ยังดูถูกคนในชนบทอีกด้วย มันมากเกินไปจริง ๆ !
จางหยวนทำเสียงฮึดฮัดเบา ๆ จากนั้นก็แบกตะกร้าสะพายหลัง หันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากถ้ำ โดยที่ไม่มองอีกฝ่ายอีกเลย
หลังจากที่เขาจากไปแล้ว ฉู่เสวี่ยฉีก็กัดฟันด้วยความโกรธ
“ไอ้คนสารเลว! กล้าว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นเหรอ! อย่าให้ฉันได้เจอนายอีกนะ ไม่งั้นนายจะต้องได้เจอดี!”
หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่เสวี่ยฉีก็เดินกะโผลกกะเผลกออกจากถ้ำ
ทุกย่างก้าวที่เดิน เธอก็แอบด่าว่าจางหยวนเลวอยู่ในใจ
รอจนกระทั่งมาถึงตีนเขา
ก็เห็นรถของคนหลายคนจอดอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่มีวี่แววของหวังปินและคนอื่น ๆ อยู่แถวนี้เลย
คราวนี้ฉู่เสวี่ยฉีจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เธอรีบขึ้นรถ ต่อสู้กับความเหนื่อยล้าแล้วขับออกไปจากสถานที่ที่ทำให้เธอเจ็บซ้ำน้ำใจ
ในเวลานี้หวังปินและคนอื่น ๆ ยังคงตั้งแคมป์อยู่บนภูเขา ทุกคนต่างก็พากันนอนหงายอย่างหลับสนิท
โดยที่ไม่รู้ว่า คนที่พวกเขาตามหา ได้จากไปอย่างเงียบ ๆ แล้ว
เมื่อจางหยวนกลับมาถึงบ้าน แม่ของเขาหวังฮุ่ยก็ตื่นนอน และกำลังกวาดพื้นอยู่ในลานบ้าน
จางหยวนอ้างว่าตนเองได้พบกับเพื่อนร่วมชั้นเก่าคนหนึ่ง จึงนั่งอยู่ที่บ้านเพื่อนร่วมชั้นอยู่พักหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเพื่อนร่วมชั้นจะให้พักค้างคืน ดังนั้นเขาจึงพักค้างคืนหนึ่ง
สองสามีภรรยาสูงวัย ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะตอนนี้จางหยวนก็หายดีแล้ว จึงไม่สามารถควบคุมเขาเหมือนเด็ก ๆ อีกต่อไปแล้ว
“ลูกหยวน ทำไมถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้” เมื่อหวังฮุ่ยเห็นจางหยวนเดินเข้ามาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
จางหยวนก้าวไปข้างหน้าแล้วหยิบไม้กวาดมาจากหวังฮุ่ย: "แม่ครับ ผมตื่นแต่เช้าแล้วขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนภูเขานิดหน่อย เพราะว่าจะเอาไปขายที่ในเมืองวันนี้พอดี"
“ลูกหยวน ต่อไปอย่าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บสมุนไพรอีกนะ การปีนเขาค่อนข้างอันตราย” หวังฮุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง
“แม่รู้ดีว่าลูกอยากจะหาเงินเยอะ ๆ เพื่อจะได้แต่งงานกับภรรยาที่ดี ทำตามที่พ่อของลูกบอก เอาที่ดินติดถนนของพวกเราขายไปก่อน ลูกจะได้แต่งงานสักที!”
เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที: "แม่ครับ ผมไม่รีบร้อนที่จะหาภรรยา! และไม่จำเป็นจะต้องขายที่ดินของพวกเราเช่นเดียวกัน!"
“เด็กโง่ ก็ไม่ดูว่าลูกอายุเท่าไหร่แล้ว! มีเพียงการแต่งงานเท่านั้น ที่จะทำให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ที่ได้อย่างแท้จริง!” สีหน้าของหวังฮุ่ยเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง