คำพูดของพี่ดินมันทำให้ใจฉันหวั่นไหวจริงๆ ดวงตาที่จ้องมองฉันเหมือนอยากจะสื่ออะไรบางอย่างให้ฉันรู้ ฉันพยายามจะไม่มองหน้าเขาแล้วแต่มันก็อดไม่ได้
ทำไมกันทั้งที่เขาใจร้ายขนาดนี้ แต่ทำไมใจฉันมันถึงยังรักเขามากมายขนาดนี้ด้วย
''อยากไปเดินเล่นไหม ตอนนี้ดอกไม้ที่สวนกำลังบาน คุณอยากไปดูไหม''
''ไม่ค่ะ''
''งั้นคุณอยากกินสตรอว์เบอร์รีไหม เก็บกินแบบสดๆ ผมจะพาไป...''
''ไม่ค่ะ'' ทั้งที่ฉันพูดแทรกพี่ดินแต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีหงุดหงิดอะไร แค่เงียบไปเท่านั้น
''องุ่นล่ะ อยากลองเก็บองุ่นดูไหม ผมจะสอน''
''ไม่ค่ะ''
พี่ดินถอนหายใจออกมายาวๆ เขาสั่นศีรษะเบาๆ แล้วจูบลงมาที่มือของฉัน ก่อนจะจับมือฉันมาวางลงตรงกลางหน้าอกข้างซ้ายของเขา จนฉันสัมผัสได้ถึงหัวใจพี่ดินที่กำลังเต้นรัวอยู่ตอนนี้
''กลับมาเป็นกอบัวที่น่ารักคนเดิมได้หรือเปล่า อย่าเมินผมแบบนี้เลย''
ฉันปิดปากเงียบไม่ตอบอะไร ใจแข็งเข้าไว้กอบัว อย่าอ่อนข้อให้เขาได้ใจอีก
''งั้นขึ้นไปนอนกันเถอะ'' พี่ดินพูดแล้วลุกขึ้นจากหน้าตักของฉัน
''บัวไม่ง่วง''
''งั้น...''
''บัวอยากอยู่คนเดียว''
''ผมจะอยู่กับคุณ พรุ่งนี้ผมก็จะกลับกรุงเทพ กว่าจะได้เจอคุณอีกก็อีกตั้งหลายวัน คุณอย่าไล่ผมสิกอบัว"
พี่ดินล้มตัวลงมานอนตักของฉันเหมือนเดิม เขาหลับตาลง พลางจับมือฉันมาวางไว้ตรงอกข้างซ้ายของเขาเหมือนเดิม
ตกดึก...
ภายในห้อง...
ตอนที่พี่ดินกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงแล้วล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของพี่ดินที่เขาเพิ่งถอดทิ้งเอาไว้ในตะกร้าออกมา
ใจนึงก็กลัวว่าพี่ดินจะออกมาเจอ พอได้โทรศัพท์แล้วฉันก็รีบเอาไปแอบไว้ในลิ้นชัก มันเป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกมาพอดี ฉันรีบดีดตัวขึ้นมานั่งบนที่นอนแทบไม่ทัน
พี่ดินมองหน้าฉันแล้วก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน เหมือนเขากำลังสงสัยอะไรสักอย่าง
''เมื่อกี้คุณทำอะไร''
''เปล่าค่ะ''
''ไม่ใช่ว่าคิดจะหนีผมนะกอบัว''
''ถึงอยากจะหนี แล้วพี่ดินคิดว่าบัวจะหนีพี่ได้เหรอคะ''
พี่ดินถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าฉันที่กำลังนั่งอยู่ปลายเตียง เขานั่งลงแล้วโน้มใบหน้าลงมาจูบตรงหน้าท้องของฉัน
ฉันไม่ได้ขัดขืนอะไร เพียงแค่ก้มไปมองการกระทำของพี่ดินอย่างสับสน เขากำลังทำให้ฉันตายใจสินะ เพราะฉะนั้นห้ามใจอ่อนเด็ดขาด
"นอนเถอะดึกมากแล้ว" พี่ดินเงยหน้าขึ้นมาพูดก่อนที่จะลุกขึ้นไปปิดไฟในห้อง
จากนั้นพี่ดินก็คว้าร่างฉันที่กำลังนั่งอยู่แล้วดึงฉันให้นอนราบไปกับที่นอนก่อนจะกอดฉันเอาไว้แน่นราวกับกลัวฉันหายไป
ความมืดและความเงียบเข้ามาปกคลุมภายในห้อง ตอนนี้ฉันได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของคนข้างกายดังผสานกับเสียงหัวใจของฉันที่กำลังเต้นรัวอยู่ตอนนี้
''รอผมกลับมานะกอบัว ผมสัญญาผมจะบอกคุณทุกอย่าง'' พี่ดินเอ่ยทำลายความเงียบ ตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาคงหลับไปแล้วด้วยซ้ำ
สิ่งที่เขาพูดฉันก็แค่รับฟังแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป และพี่ดินเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไปเช่นกัน
เช้าวันใหม่
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะอาการคลื่นไส้ ต้องรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปอ้วกในห้องน้ำทันที
หลังจากที่อ้วกเสร็จพอฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าพี่ดินไม่อยู่แล้ว ฉันเลยเดินไปดูตรงหน้าต่างก็เห็นว่ารถพี่ดินไม่อยู่เหมือนกัน เขาคงออกไปแล้ว เหลือแต่ลูกน้องของพี่ดินนับสิบคนที่กำลังเดินไปมาอยู่บริเวณรอบๆ บ้านราวกับกำลังลาดตะเวน
ฉันเดินไปหยิบโทรศัพท์พลางคิดว่าจะหนีไปยังไงดี ฉันนั่งกำโทรศัพท์ในมือแน่น จะเบอร์แม่หรือเบอร์น้องฉันก็ไม่มีเลย ฉันไม่มีเบอร์ใครเลยสักคน ซึ่งถ้าฉันหนีไปบ้าน ยังไงพี่ดินก็ต้องลากตัวฉันกลับมาที่นี่แน่ๆ ถึงฉันจะอยากกลับบ้านไปหาแม่กับน้องแค่ไหนก็ตาม
แล้วถ้าวันนี้ฉันหนีไปได้จริงๆ ฉันก็ต้องมาคอยหนีเขาไปตลอดเลยงั้นเหรอ...
ตอนนี้ความคิดในหัวมันตีกันไปหมด ฉันจะอยู่รอพี่ดินหรือควรจะหนีไปจากที่นี่ดี แต่ถ้าเลือกที่จะหนีฉันต้องทำยังไงถึงจะหนีพ้นจากคนอย่างเขาล่ะ
เดเนียล
จู่ๆ ฉันก็คิดถึงเดเนียลขึ้นมา เขาคือคนเดียวที่จะช่วยฉันได้ ถึงแม้ว่าเขาจะดูอันตราย แต่เขาก็ยังไม่เคยทำร้ายฉันเลยสักครั้ง แถมเขายังบอกเรื่องที่ฉันโดนหลอกอีก
ฉันตัดสินใจกดเข้าไปในแชตไลน์ แล้วทักไปบอกเดเนียลว่าฉันต้องการจะหนี รอไม่กี่นาทีเดเนียลก็ตอบกลับมา
เดเนียล "คุณหมายความแบบที่คุณพูดจริงๆ ใช่ไหม''
ฉัน "ใช่ฉันอยากจะหนีจากเขา"
เดเนียล "คุณอยู่ที่คอนโดใช่ไหม ไอ้ดินมันอยู่ด้วยหรือเปล่า"
ฉัน "ไม่ ฉันไม่ได้อยู่ที่คอนโดแล้ว ฉันไม่ได้อยู่กรุงเทพด้วยและตอนนี้พี่ดินก็ไม่ได้อยู่กับฉัน"
เดเนียล "แล้วคุณอยู่ที่ไหน ?"
ฉันบอกรายละเอียดทั้งหมดกับเดเนียล รวมทั้งบอกว่ามีลูกน้องของพี่ดินเฝ้าอยู่กี่คน สุดท้ายก็ส่งโลเคชันที่อยู่ให้เดเนียลไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แรงรัก แรงสวาท 20+
อีดอก ร้องไห้แม่ร่งทุกตอน อีฟายยยยยย...