เข้าสู่ระบบผ่าน

ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว นิยาย บท 1

ในวันครบรอบแต่งงานสามปี

ฟู่ฉีชวนซื้อสร้อยคอที่ฉันอยากได้มานานในราคาสูงลิ่ว

ใครๆ ก็บอกว่าเขารักฉันจะเป็นจะตาย

ฉันเตรียมดินเนอร์ใต้แสงเทียนด้วยความสุขอันเปี่ยมล้น ทว่ากลับมีคลิปนึงถูกส่งมา

ในคลิปนั้น เขาสวมสร้อยคอให้ผู้หญิงอีกคนด้วยมือของเขาเอง "ยินดีกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่"

ที่แท้ วันนี้ไม่ใช่แค่วันครบรอบแต่งงานของพวกเรา

แต่เป็นวันที่ผู้หญิงในดวงใจของเขาหย่าด้วยเช่นกัน

.......

ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง

แม้ว่าการแต่งงานกับฟู่ฉีชวน จะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากความรัก

แต่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น เขามักจะเป็นผู้ชายที่คลั่งรักภรรยามาโดยตลอด

ฉันนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะอาหาร มองดูสเต็กที่เวลานี้เย็นสนิท และข้อความที่ขึ้นติดเทรนด์ฮอตอยู่ในขณะนี้ "ฟู่ฉีชวนทุ่มเงินหลายสิบล้านเพื่อเอาใจเมีย"

ทั้งหมดนี้ ล้วนกลายเป็นคำเยาะเย้ยที่ไร้ซึ่งเสียง

เวลาตีสอง ในที่สุดรถมายบัคสีดำก็เคลื่อนเข้าสู่สนามหญ้า

หน้าต่างสูงจรดพื้น สามารถมองเห็นชายหนุ่มที่ลงจากรถ เขาสวมชุดสูทสีเข้มที่สั่งตัดเย็บด้วยมือ รูปร่างสูงโปร่ง สง่างามและสูงศักดิ์

"ทำไมยังไม่นอนอีก?"

ฟู่ฉีชวนเปิดไฟ เมื่อเห็นฉันที่นั่งอยู่ในห้องอาหาร ก็ประหลาดใจไม่น้อย

ฉันอยากจะลุกขึ้นยืน ทว่าขากลับชาไปหมด จึงล้มตัวลงไปนั่งดังเดิม "ฉันรอคุณอยู่"

"คิดถึงผมหรอ?"

เขายิ้มออกมาน้อยๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินมารินน้ำ เมื่อเหลือบไปเห็นอาหารเย็นบนโต๊ะที่ไม่ได้ถูกแตะเลยแม้แต่นิดเดียว ก็ตกใจพอตัว

ในเมื่อเขาเต็มใจที่จะแสร้งเล่นละคร ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะกดอารมณ์เอาไว้ก่อน แล้วยื่นมือไปหาเขา พร้อมกับยกริมฝีปากโค้งขึ้นแล้วพูดว่า "สุขสันต์วันครบรอบแต่งงานสามปี ของขวัญของฉันล่ะ?"

"ขอโทษที วันนี้ผมยุ่งมาก ก็เลยลืมเตรียมน่ะ"

เขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วถึงตระหนักได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงาน

เขายื่นมือออกมาหวังจะลูบศีรษะของฉัน แต่ฉันเบี่ยงตัวหนีโดยอัตโนมัติ

ฉันไม่รู้เลยว่ามือข้างนี้ของเขา ไปสัมผัสอะไรมาบ้าง รู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก

เขาอึ้งไปนิดหน่อย

ฉันมองเขายิ้มๆ ราวกับไม่ทันได้สังเกตอะไร "ยังจะโกหกฉันอีก เรื่องที่คุณไปประมูลสร้อยเส้นที่ฉันชอบมากที่สุด ขึ้นเป็นฮอตเสิร์ชซะขนาดนั้น! รีบเอามาให้ฉันเลยนะ"

"หนานจือ..."

ฟู่ฉีชวนดึงมือกลับช้าๆ ใบหน้าของเขาสงบนิ่ง น้ำเสียงเรียบเฉย "สร้อยเส้นนั้น ผมไปประมูลแทนเฮ่อถิงน่ะ"

……

อย่างที่ในโซเชียลมีเดียพูดกัน เพื่อนรักคือเกราะกำบังที่ดีที่สุด

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉันเริ่มรักษาต่อไปไม่อยู่ "หรอคะ?"

"อืม คุณก็รู้นี่ สาวในสต็อกเขาเยอะจะตาย"

สีหน้าและน้ำเสียงของฟู่ฉีชวน ไม่ส่อพิรุจใดๆ

ฉันมองใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของเขาที่อยู่ภายใต้แสงไฟ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าฉันอาจจะไม่เคยได้รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างแท้จริงเลย

ถึงขนาดที่เริ่มคิดทบทวนว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโกหกจริงๆ หรือเปล่า

หรือว่าที่ผ่านมาฉันเชื่อใจเขามากเกินไป

ถ้าไม่ได้รับคลิปที่ถูกส่งมาโดยบุคคลนิรนาม คำแก้ตัวของเขาในเวลานี้ ฉันก็คงจะไม่รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นว่าฉันเงียบไป เขาก็โอ๋ฉันด้วยเสียงนุ่มนวลอย่างคนมีน้ำอดน้ำทน "ผมไม่ควรลืมวันสำคัญขนาดนี้เอง พรุ่งนี้ผมจะให้ของขวัญย้อนหลังคุณแน่นอน"

"ฉันอยากได้แค่สร้อยเส้นนั้น"

ฉันยังอยากจะให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง

มุมที่อยู่ในคลิปนั่น ทำให้ฉันมองไม่เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น

บางทีมันอาจจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือก็เป็นได้

ฟู่ฉีชวนแสดงความลังเลออกมา ฉันมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ "ไม่ได้หรอ ให้เฮ่อถิงขัดใจสาวๆ พวกนั้นสักครั้งเพื่อเพื่อนรักอย่างคุณ คงไม่เป็นไรมั้ง?"

เขาเงียบไปสักครู่ เมื่อเห็นว่าฉันดึงดัน จึงได้แต่เอ่ยออกมาว่า "พรุ่งนี้ผมจะลองถามเขาดู จะให้บังคับแย่งของรักเขามาก็คงไม่ดีเท่าไหร่"

ถาม "เขา" หรือถาม "หล่อน"?

ฉันไม่สามารถไล่บี้ต่อได้ จึงตอบแค่ "ค่ะ"

"คุณทนหิวเพื่อรอผมตลอดเลยหรอ?"

ฟู่ฉีชวนเริ่มเก็บจานชามบนโต๊ะอาหาร นิ้วมือที่เห็นข้อต่อชัดเจน ยิ่งดูน่ามองมากขึ้นเวลาที่วางอยู่บนเครื่องจานสีขาวนวล

"งั้นหรอ"

เขามีท่าทีสงบ พร้อมกับย้อนถามตัวเองทีนึง "งั้นผมคงจำผิด คุณปวดมากไหม? ไม่งั้น พรุ่งนี้ให้ป้าหลิวไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนคุณสิ"

"ตอนเช้าฉันไปมาแล้วค่ะ"

"หมอว่ายังไงบ้าง?"

"หมอบอกว่า..."

ฉันทอดดวงตาลงต่ำ เกิดความลังเลขึ้นในชั่วอึดใจ

หมอบอกว่า ฉันตั้งครรภ์ได้ห้าสัปดาห์แล้ว ที่ปวดท้องเพราะมีภาวะเลือดออกในช่องท้อง หมอให้กินยาเพิ่มฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปก่อน ผ่านไปครึ่งเดือนค่อยไปวัดอัตราการเต้นหัวใจของเด็กในครรภ์

การที่ตรวจออกมาว่าตัวเองตั้งท้องในวันครบรอบวันแต่งงาน นับเป็นของขวัญที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ฉันใส่ผลตรวจครรภ์ลงในขวดแก้วเล็กๆ ซ่อนไว้ในเค้กที่ทำเองกับมือ ตั้งใจจะทำเซอร์ไพรส์ฟู่ฉีชวนระหว่างที่กำลังดินเนอร์ใต้แสงเทียน

เพียงแต่จนถึงตอนนี้ เค้กนั่นก็ยังอยู่ในตู้เย็น

โดยที่ไม่มีใครสนใจมันเลย

"บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร อาจจะเพราะว่าช่วงนี้ฉันดื่มของเย็นๆ เยอะเกินไป" ฉันเลือกที่จะปกปิดเอาไว้ชั่วคราว

ถ้าพรุ่งนี้เอาสร้อยเส้นนั้นกลับมาได้ ทุกคนก็จะมีความสุข

แต่ถ้าเอากลับมาไม่ได้ ชีวิตแต่งงานของเราที่มีบุคคลที่สามเข้ามาแทรกกลาง ยังไงก็รักษาต่อไปได้ยาก และแม้จะบอกเขาถึงการเกิดมาของลูก มันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไป

ค่ำคืนนี้ ฉันพลิกตัวไปมายากจะนอนหลับ

เกรงว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถทำใจยอมรับเรื่องที่ "สามีนอกใจ" ด้วยใจที่สงบได้

เรื่องที่ฉันเก็บฝังเอาไว้ในใจ ไม่นานก็มีผลตามมา โดยไม่ทันคาดคิด

วันต่อมา ขณะที่ฟู่ฉีชวนกำลังอาบน้ำ ประตูห้องก็ถูกเคาะจนเกิดเสียง

ฉันเพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เมื่อเปิดประตู ก็เห็นป้าหลิวชี้ไปที่ชั้นล่าง "นายหญิง คุณจินอันมาค่ะ เธอบอกว่ามาคืนของ"

ฟู่จินอันเป็นลูกสาวของแม่เลี้ยงฟู่ฉีชวน เป็นพี่สาวต่างพ่อต่างแม่ อายุมากกว่าเขาสองปี ก็นับว่าเป็นคุณหนูของตระกูลฟู่อยู่เหมือนกัน

ป้าหลิวเป็นคนที่ตระกูลฟู่ส่งมาเพื่อดูแลเราสองคน จึงเรียกหล่อนด้วยความเคยชินว่า "คุณจินอัน"

ฉันรู้สึกสับสนเล็กน้อย เพราะปกติแล้ว นอกจากตอนที่กลับไปกินมื้อเย็นที่คฤหาสน์เก่าถึงจะได้เจอฟู่จินอันสักที ก็ไม่เคยไปมาหาสู่กัน ยิ่งเรื่องยืมของยิ่งเป็นไปไม่ได้

"คืนของ?"

"ค่ะ ใส่กล่องเครื่องประดับที่ประณีตมาก น่าจะเป็นเครื่องเพชรราคาแพงๆ นะคะ" ป้าหลิวตอบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว